นครพนม - เจ๋งสุดๆ! ครูเกษียณที่บ้านไผ่ล้อม ต.อาจสามารถ จ.นครพนม ทดลองปลูกทุเรียนจนสำเร็จ แต่ละปีทำเงินได้กว่าแสนบาท วางแผนพัฒนาเป็นสวนผลไม้ครบวงจร เปิดให้ท่องเที่ยวศึกษาอาชีพเกษตรแบบพอเพียงนำไปเป็นแนวทางทำเกษตรกรตามรอยในหลวง ร.๙
เป็นอีกตัวอย่างที่น่าศึกษาสำหรับข้าราชการ หรือพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไปที่ชื่นชอบในอาชีพเกษตรกรรม และมีแผนจะทำการเกษตรหลังเกษียณอายุงาน คือกรณีของนายฉลาด ไชยสิทธิ์ อายุ 83 ปี อดีตข้าราชการครูระดับผู้บริหาร ในสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ปี 2538 ที่มีการวางแผนการใช้ชีวิตเกษตรกรหลังเกษียณ โดยนายฉลาดซื้อที่ดินว่างเปล่า เนื้อที่รวมกว่า 33 ไร่ ในพื้นที่ บ้านไผ่ล้อม ต.อาจสามารถ จ.นครพนม ทำเป็นสวนเกษตรพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙
นายฉลาดเล่าว่า ตัวเขาเริ่มทำการปลูกสวนผลไม้นานาชนิดตั้งแต่ก่อนเกษียณราชการราว 8 ปี เพราะมีความชอบในเรื่องของการเกษตรเป็นทุนเดิม และเชื่อว่าการปลูกผลไม้เศรษฐกิจ อย่างทุเรียน จะทำให้มีรายได้ และตลาดมีความต้องการสูง ในภาคอีสานแทบจะไม่มีสวนทุเรียนให้เห็นเลย ก่อนลงมือปลูกได้จนศึกษาหาความรู้จากเพื่อน คนรู้จักที่ทำงานในหน่วยงานเกษตร หลังจากนั้นได้ทดลองซื้อกิ่งพันธุ์ ต้นทุเรียนมาปลูกทั้งหมด รวม 100 ต้น แยกเป็น พันธุ์หมอนทอง จำนวน 50 ต้น และ พันธุ์ชะนีอีก 50 ต้น
นอกจากนี้ ในเนื้อที่สวนยังปลูกผลไม้หลากหลายชนิดเพื่อทดสอบความเหมาะสมของดิน เช่น มังคุด ต้นมะยงชิด มะปราง เงาะโรงเรียน ลิ้นจี่ขึ้นชื่อนครพนม พันธุ์ นพ.1 และแก้วมังกร พอเกษียณราชการได้ใช้เวลาว่างมาดูแลศึกษา เอาใจใส่ เน้นปลอดสารเคมี ทำให้หลังการปลูกประมาณ 5 -6 ปี ต้นทุเรียนเริ่มให้ผลผลิต จึงนำมารับประทาน
พบว่าทุเรียนที่ตนปลูกกับมือมีความอร่อยไม่แพ้ทุเรียนทางภาคกลาง เมื่อมีผลผลิตมากขึ้น จึงนำเก็บขายสู่ตลาดสร้างรายได้
รวมถึงผลผลิตผลไม้อีกหลากหลายชนิดที่ต่างออกดอกให้เก็บเกี่ยวผล สร้างรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท ที่สำคัญยังได้เปิดเป็นแหล่งศึกษาเที่ยวชมสวนเกษตรทางเลือก ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้มาเที่ยวชมศึกษา นำไปเป็นแบบอย่าง เป็นวิทยาทาน สำหรับผู้ที่สนใจ นำไปปลูกเป็นอาชีพสร้างรายได้ ทำให้ปัจจุบัน “สวนเอื้อวิมาน” กลายเป็นสวนต้นแบบการปลูกทุเรียนที่มีพี่น้องเกษตรกรเดินทางมาศึกษาเรียนรู้จากตน
นายฉลาดบอกว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีหลังเกษียณอายุราชการตนมีความสุขกับการเห็นผลผลิตทุเรียนที่หาดูยากในพื้นที่อีสาน ที่ปลูกกันน้อยมาก ทุกวันนี้ตนเก็บผลผลิตทุเรียนในสวนออกไปขายทุกวัน สร้างรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท ไม่รวมผลผลิตผลไม้หลากหลายชนิดที่ปลูกคละกันในสวนอีกด้วย ส่วนรสชาติทุเรียนนั้น ยืนยันว่าไม่แพ้ทุเรียนขึ้นชื่อทาง จ.ระยอง หรือจันทบุรี ซึ่งตนต้องการให้เกษตรกร หรือผู้มีความสนใจมาศึกษาเยี่ยมชม เพื่อนำไปปลูกสร้างรายได้ และพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเป็นวิทยาทาน
“ผมปลูกทุเรียนมานานกว่า 20 ปี เน้นปลอดสารพิษ ไม่มีสารเคมี ใช้ปุ๋ยอีเอ็มธรรมชาติทั้งหมด เชื่อว่าหากเกษตรกรทำได้จะเป็นผลไม้ที่สร้างรายได้ดีมาก และไม่ต้องกังวลเรื่องตลาด เพราะพื้นที่อีสานมีน้อย ซึ่งทุกวันนี้ตนมีรายได้หลังเกษียณ ปีละไม่ต่ำกว่าแสนบาท เพราะสามารถเก็บผลผลิตขายได้แทบจะทั้งปี ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ มะปราง” นายฉลาดบอกและว่า
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตจากสวนเอื้อวิมานของตน จะขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ทุเรียนหมอนทอง ขายกิโลละ 100 บาท ชะนี กิโลกรัมละ 50 บาท ถูกกว่าตลาดทั่วไป อีกทั้งยังได้กินทุเรียนคุณภาพจากสวนโดยตรง ที่สำคัญได้เปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวชมศึกษาการปลูกทุเรียนฟรีอีกด้วย โดยอยากให้คนที่สนใจมาศึกษานำไปปลูก เพราะเชื่อว่าการทำอาชีพเกษตรพอเพียง และเกษตรทางเลือกจะเป็นอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้งาม