ลำปาง - รอง ผกก.สภ.แม่เมาะลงมือทำเกษตรผสมผสานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกองุ่นหลายสายพันธุ์เพียง 10 เดือนได้ผลผลิตงดงาม ลูกค้าจองเกลี้ยงทุกพวง บอกทำแล้วสบายใจ-มีกิน-เผื่อแผ่เพื่อนบ้าน และสร้างรายได้ หวังยึดเป็นอาชีพหลังเกษียณ
ทุกวัน พ.ต.ท.ยงศักดิ์ มาวงษ์ รอง ผกก.สอบสวนฯ สภ.แม่เมาะ จ.ลำปาง พร้อมภรรยาคือนางแสงจันทร์ มาวงษ์ ใช้เวลาช่วงเช้า และค่ำหลังเลิกงานดูแลองุ่นในไร่ของตนเองที่ออกลูกจำนวนมาก อีกประมาณหนึ่งเดือนก็จะสามารถเก็บจำหน่ายได้ทั้งหมด นอกจากนี้แล้วภายในสวนที่ยังมีพื้นที่ว่างยังมีการขุดสระน้ำเลี้ยงกุ้งก้ามแดงเพื่อไว้บริโภค และจำหน่ายบางส่วน รวมทั้งปลูกพืชผักสวนครัวชนิดต่างๆ ไว้รับประทานเอง โดยเน้นปลูกแบบอินทรีย์ทั้งระบบด้วย
พ.ต.ท.ยงศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ศึกษาเกี่ยวกับแนวพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙ และได้ติดตามดูโครงการต่างๆ ก็เห็นว่าการทำเกษตรแบบผสมผสานน่าจะเหมาะกับตัวเองที่จะเกษียณอายุราชการในอีก 2-3 ปีที่จะถึงนี้ จึงได้ลองศึกษาเรื่องไม้ผลเพราะส่วนตัวชอบอยู่แล้ว และได้ไปดูที่ไร่องุ่นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับได้รู้จักกับอีกหลายท่านที่ได้แนะนำให้ความรู้ในเรื่องพืช เรื่องดิน
จากนั้นก็ตัดสินใจลองปลูกองุ่น โดยมีเจ้าของไร่องุ่นฮักริมปิงเป็นพี่เลี้ยงและช่วยสอน ศึกษาเรื่ององุ่นหนึ่งปี ก่อนที่จะลองนำกล้าจากที่ไร่องุ่นฮักริมปิงมาลองปลูก โรงเรือนแบบปิดบนพื้นที่ 2 งานบ้านศรีหมวดเกล้า ม.4 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง ทดลองปลูกองุ่นรวม 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย บิวตี้, แบล็กโอปอล, เฟรม และเฟอเรส รวม 60 ต้น จนถึงปัจจุบันกว่า 10 เดือนก็พบว่าผลผลิตออกจำหนวนมาก เนื่องจากใช้อินทรีย์ทั้งหมด ไม่มีการใช้สารเคมี
“องุ่นปลูกหนึ่งครั้งสามารถเก็บผลผลิตได้ยาวนาน 8-10 ปี แต่ละปีก็เก็บผลผลิตได้ 2-3 ครั้ง ซึ่งแต่ละต้นจะให้ผลผลิตประมาณ 50 กิโลกรัม จำหน่ายกิโลกรัมละ 200-500 บาท เก็บหนึ่งครั้งก็จะมีรายได้ 6-7 แสนบาท หากทำปีละ 2 ครั้งก็จะมีรายได้ปีละกว่าล้านบาท หากใครกู้เงินก็สามาถคืนทุนได้ภายใน 1-2 ปี ซึ่งถือว่าสามารถยึดเป็นอาชีพได้ โดยที่ไม่ต้องใช้แรงงานมาก”
การทำไร่องุ่นเหมาะสำหรับคนที่ใกล้เกษียณ หรือวัยรุ่นที่ต้องการทำเป็นอาชีพ เพราะเป็นพืชให้ทั้งความสวยงาม อิ่มท้อง สบายตา สบายใจ และมีราคาสูง สามารถทำรายได้ตลอดทั้งปี อยากให้ชาวไร่ชาวนาที่ทำนาเพียงครั้งเดียวแล้วไม่มีงานทำลองหันมาปลูกไม้ผลดู เพราะนอกจากจะไม่ใช่งานหนักแล้ว ยังสร้างรายได้ดีด้วย เพราะตลาดองุ่นก็ยังต้องการอีกมากโดยเฉพาะที่เป็นอินทรีย์ แต่ถ้าเป็นมือใหม่อยากแนะนำให้ปลูกองุ่นพันธุ์บิวตี้ เพราะปลูกง่ายผลผลิตมาก
กรณีไร่องุ่นตนเอง การลงทุนครั้งแรกอาจจะหนักที่โรงเรือน ซึ่งตนใช้เงินลงทุนหนึ่งแสนกว่าบาท ส่วนกล้าพันธุ์ไม่ถึง 100 บาท การปลูกไม่ยาก แต่ต้องดูแลอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งตนพร้อมที่จะสอนสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกสามารถมาเรียนรู้ได้
“สิ่งที่ผมยึดคือไม่ต้องหวังร่ำรวยอะไรมาก ทำแล้วสบายใจ พออยู่พอกินปลูกในสิ่งที่ตนเองรัก เหลือกินก็แบ่ง และขายพอมีรายได้ก็อยู่อย่างสบายแล้ว”
ด้านนางแสงจันทร์กล่าวว่า ตอนแรกที่สามีอยากทำก็ยังไม่มั่นใจ แต่พอได้ทำ และเริ่มเห็นผลผลิตออกมาแบบนี้ก็รู้สึกดีใจ และอยากเข้ามาดูแลทุกวัน ซึ่งการดูแลส่วนใหญ่ก็จะเป็นการริดใบอ่อน หรือการเบรกไม่ให้มีการเติบโตระหว่างที่ลูกออกทั้งหมดแล้ว เพราะต้องการให้ออกลูกพร้อมกัน-ไม่แย่งอาหาร ก็จะได้ผลผลิตสูง แต่ละพวงจะมีน้ำหนัก เกือบ 1 กิโลกรัม
“ไร่องุ่นของเราจะไม่ใช้สารเคมี สามารถเด็ดกินกับต้นได้เลย องุ่นจะมีรสชาติหวาน กรอบ ซึ่งขณะนี้ผลผลิตที่กำลังออกลูกและจะเก็บขายได้ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้มีลูกค้าที่เห็นภาพทางโซเชียลฯ จองหมดแล้ว แม้ราคาจะสูงแต่เขาก็ไม่เกี่ยงราคากัน จนไม่แน่ใจว่าสินค้าจะเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่”