xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ห่วงสวัสดิการ ปชช.ทุกกลุ่ม พร้อมฟังข้อเรียกร้อง แนะหาทางออกตามข้อเท็จจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
โฆษก รบ. เผย นายกฯ ห่วงใยสวัสดิการประชาชนทุกกลุ่ม พร้อมรับฟังข้อเรียกร้องดูแลสิทธิประโยชน์ลูกจ้างเหมาบริการ มอบหน่วยงานไปพิจารณา แนะทุกฝ่ายหาทางออกตามข้อเท็จจริงและความเป็นไปได้

วันนี้ (20 พ.ค.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเรียกร้องของประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) และ สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย ที่ต้องการให้ภาครัฐดูแลสิทธิประโยชน์และสวัสดิการแก่กลุ่มลูกจ้างเหมาบริการในส่วนราชการ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 - 5 แสนคน ว่า “รัฐบาลห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม โดยออกกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึง แต่บางทีอาจรู้สึกว่าไม่เท่าเทียมกัน จึงต้องไปดูข้อเท็จจริงด้วยว่าเป็นเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเรื่องนี้บนพื้นฐานความเป็นไปได้”

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า ลูกจ้างเหมาบริการเป็นการดำเนินการตามมาตรการปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ ซึ่งเป็นมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 41 ที่ให้ส่วนราชการยุบตำแหน่งข้าราชการที่เกษียณอายุ และลูกจ้างประจำที่ว่างลง โดยให้ทบทวนงานที่สามารถถ่ายโอนให้เอกชนรับไปดำเนินงานแทน จึงเป็นที่มาของการจ้างเหมาบริการ ซึ่งยึดถือปฏิบัติกันมาทุกรัฐบาล

ทั้งนี้ ลักษณะงานที่จ้าง คือ การซื้อบริการจากผู้รับจ้างเป็นรายชิ้น เช่น งานรักษาความปลอดภัย งานทำความสะอาด งานแปล ผลิตเอกสาร งานผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ ฯลฯ โดยการจ้างเหมาเอกชนดำเนินงานนี้ยึดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมุ่งผลสำเร็จของงานที่ว่าจ้างภายในช่วงเวลาที่กำหนดตามสัญญาการจ้างเท่านั้น เอกชนผู้รับจ้างไม่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับที่ลูกจ้างของส่วนราชการโดยทั่วไปต้องถือปฏิบัติ เมื่อไม่อยู่ในระเบียบดังกล่าว ผู้รับจ้างทำของจึงไม่ใช่บุคลากรภาครัฐ และไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกับที่ข้าราชการ ลูกจ้างส่วนราชการ และบุคลากรอื่นของรัฐ รวมทั้งไม่มีความสัมพันธ์กับส่วนราชการในลักษณะนายจ้างและลูกจ้างตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนราชการจึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องนำส่งเงินสมทบในส่วนของผู้ว่าจ้างเข้ากองทุนประกันสังคม

“นายกฯ ย้ำว่า หากผู้รับจ้างประสงค์ที่จะรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ของ พ.ร.บ. ประกันสังคมได้ โดยจ่ายเงินสมทบเอง เช่น จ่ายเดือนละ 300 บาท ก็จะได้รับเงินทดแทนหากต้องหยุดงานเพราะเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ วันละ 300 บาท รวมทั้งเงินสงเคราะห์บุตร เงินทดแทนการทุพพลภาพ เงินค่าทำศพ ฯลฯ ส่วนสิทธิรักษาพยาบาลก็สามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือบัตรทอง ได้เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น