“ประยุทธ์” สวนประธาน กก.ปฏิรูปกฎหมาย อย่าพูดให้คนเข้าใจผิด ชี้ 4 ปี งานปฏิรูปเพียบ ลั่นราชการต้องขับเคลื่อน สั่งสรุปผลงาน ไม่เข้าใจ ถือว่าพูดคนละภาษา
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย ท้วงติงกระบวนการปฏิรูป โดยห่วงจะไม่สำเร็จเพราะให้ข้าราชการเป็นฝ่ายปฏิบัติว่า จากคำพูดดังกล่าวอยากให้ทุกคนกลับไปทบทวนว่ามีข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร และวันนี้ข้าราชการยังเป็นผู้มีบทบาทนำในการทำเรื่องต่างๆ หรือไม่ เพราะทุกอย่างนั้นเริ่มโดยข้าราชการทั้งสิ้น เรายังต้องใช้ข้าราชการขับเคลื่อน ฉะนั้นจึงต้องดูการปฏิรูปในภาพรวมที่กำหนดในแผน โดยการปฏิบัตินั้นเป็นส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องร่วมมือกับประชาชน เอกชน ที่ผ่านมาคนอาจไม่เข้าใจว่าเราปฏิรูปหรือยัง แต่วันนี้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
“ถ้าบอกว่าเราไม่ปฏิรูป เราปฏิรูปนะครับ ที่ผ่านมามีปัญหาหลายประการ เช่น ความขัดแย้ง ความซับซ้อน กฎหมายไม่ทันสมัย เราทำไปแล้ว เช่น กฎหมายอำนวยความสะดวก กฎหมายด้านการลงทุน ฯลฯ โดยข้าราชการนำไปสู่การปฏิบัติ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นผลในทันที แต่ยังไงข้าราชการต้องเป็นผู้ปฏิบัติ ถ้าไม่เอาข้าราชการเลย ถามว่าจะทำได้ไหม แต่ก็เป็นความร่วมมือแบบประชารัฐ หลายอย่างเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ อย่างการแก้ไขปัญหารถไฟทางคู่ นี่คือการปฏิรูปแล้ว อะไรก็ตามที่ไม่ได้ทำในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลนี้ทำ อย่างเรื่องประปา เราทำไปแล้วเกือบ 8 พันหมู่บ้าน จากที่ไม่มีประปาใช้ 9 พันกว่าหมู่บ้าน ในปีนี้จะเสร็จ ถนนเส้นทางต่างๆ ก็เกิดขึ้นในท้องถิ่น เราทำทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปฏิรูปในระยะที่ 1 คือ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง มีการปฏิรูปกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ส่วนการปฏิรูปในระยะที่ 2 ในวันนี้ ทำเห็นผล เช่น ประโยชน์ของเกษตรกร คนยากจน ซึ่งมีโครงการไทยนิยม กองทุนหมู่บ้านที่ไม่ใช่การให้เงินเพียงอย่างเดียว มีการปรับปรุงรัฐวิสาหกิจให้ขาดทุนน้อยลง สร้างความเข้มแข็งมากขึ้น ปรับปรุงทีโอที และแคทเทเลคอมที่ยังมีปัญหา แต่การปฏิรูปไม่ได้หมายถึงการออกกฎหมายแล้วบังคับใช้ เพราะบางเรื่องนั้นมีปัญหา เช่น วันนี้ปรากฏข่าวการกระชากคอและด่าทอตำรวจ ซึ่งต้องปฏิรูปไปด้วยกัน สื่อเองก็ต้องสอนว่าไม่ควรทำ เพราะเป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำตามกฎหมาย ไม่ได้ไปรังแกอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นทุกคนควรทำตามกฎหมาย
“เรื่องการปฏิรูป ผมกำลังให้เขาสรุปมา ทีนี้ถ้าไม่รู้เรื่องจะถือว่าเราพูดกันคนละภาษาแล้วไม่เข้าใจกัน ผมพูดภาษาไทยนะ ผมถือว่าในเมื่อจะทำงานร่วมกัน ทุกคณะก็ต้องทำงานตามนโยบายของรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะปฏิรูปอะไรก็แล้วแต่ ถามว่าการปฏิรูปบุกรุกป่า จัดการปัญหาที่ดิน บริหารจัดการน้ำ ไม่ได้ทำเลยหรือ ผมอยากจะทราบว่าอะไรคือไม่ทำ อะไรคือทำ อยากรู้ว่าวิธีการทำเป็นยังไง การพูดจาบางทีอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้หาผู้รับผิดชอบ 4 ปี ปฏิรูปล้มเหลว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว ในเรื่องของการทำงาน แต่จะมาบอกว่าเสียเวลาเปล่า ตั้งมา 2-3 คณะแล้วไม่เห็นทำงาน ไม่ได้ เพราะความจริงแล้วเขาก็ทำงานมาโดยตลอด โดยเอาปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มาวิเคราะห์ ปัญหามีตั้งร้อยแปดพันเรื่อง จนออกมาได้ 11 วาระปฏิรูป กับอีก 137 กิจกรรม กิจกรรมย่อมอีกกว่าร้อยกิจกรรม
“นี่คือการปฏิรูป ไม่ใช่พูดด้วยปากอย่างเดียว แต่เดี๋ยวเขาสรุปมาให้ดู ทั้งกฎหมายและอะไรต่างๆ และต้องดูแลข้าราชการด้วย ไม่ใช่นึกจะทำอย่างเดียว เพราะมีกฎหมายหลายตัวที่กระทรวงเขาถืออยู่ คุณก็ต้องไปแก้กฎหมายของกระทรวงให้เขาด้วย ว่ามีอะไรจะคุ้มครองเขาได้บ้าง จะไปสั่งเขาผิดถูกไม่ได้ เพราะถึงเวลาเขาต้องรับผิดชอบ ถ้าเขาเดือดร้อน แล้วใครจะดูแลเขา เลี้ยงลูกเลี้ยงเมียแทนเขา ซึ่งทุกอย่างต้องอาศัยเวลา ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้เลย ถ้าจะทำให้ได้อย่างนั้น ต้องยกเลิกอีไอเอ อีเอสไอเอ ไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ ซึ่งทำไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากให้เข้าใจเรื่องการปฏิรูปบ้าง และใครก็ตามที่คิดว่ารู้เรื่องปฏิรูปมากกว่าตน ขอให้เข้ามา การปฏิรูปนั้นตนได้นำแนวทางจากต่างประเทศมาปรับใช้ โดยรับฟังทุกช่องทาง ทำตามขั้นตอน ดังนั้น อย่ามาบอกว่าไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย ถ้าไม่ปฏิรูปแล้วจะอยู่ไปทำไมถึง 4 ปี ถามว่าวันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาแล้วเท่าไหร่ จัดหาที่ดินให้ประชาชนแล้วกี่ล้านไร่ และคนที่ออกมาพูดทำไมไม่แก้ปัญหาตรงนั้น วันนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง เพื่อไม่ต้องการให้ทุกอย่างกลับสู่ที่เดิม
“ถ้างั้นยุทธศาสตร์ชาติก็ไม่ต้องมี 20 ปีจะสะเปะสะปะก็ไป แล้วมันได้ไหมล่ะประเทศไทย จะกลับสู่ที่เดิมนั่นแหละ และผมยังเป็นห่วงการเมือง การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ประชาชนส่วนหนึ่งเข้าใจและไม่เข้าใจ แล้วเราจะคาดหวังอะไรกับประเทศไทยได้ถ้าไม่ช่วยสร้างความเข้าใจในตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว