กก.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ นัดที่ 9 กำหนดให้แจ้งความ สน.ไหนก็ได้ และเมื่อเอกสารหายให้แจ้งหน่วยงานโดยตรงแล้วออกใหม่ได้เลย ส่วนสถานะของ ตม.รอผลสรุปของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
วันนี้ (10 พ.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการพิจารร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเปิดเผยความคืบหน้าผลการประชุมของคณะกรรมการดังกล่าวที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานดังนี้
Change in action (9) กฎหมายสอบสวนใหม่แจ้งความ สน.ไหนก็ได้ - เอกสารหายแจ้งที่เดียวออกใหม่ได้เลย - สถานะ ตม.รอผลศึกษา ก.พ.ร.
คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯ ประชุมครั้งที่ 9 เย็นวานนี้ (9 พ.ค.) ช่วงจากบ่าย 4 โมงครึ่งจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง มีมติให้จัดทำกฎหมายกลางเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ในการสอบสวน เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกและได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น โดยหลักการสำคัญที่จะได้รับการบรรจุไว้ เช่น
- ให้ประชาชนสามารถแจ้งความได้ในทุกสถานี ไม่เฉพาะแต่ในสถานีท้องที่เกิดเหตุเท่านั้น สถานีที่รับแจ้งความหากมิใช่สถานีท้องที่เกิดเหตุจะเป็นผู้ส่งรายละเอียดไปยังสถานีท้องที่เกิดเหตุเอง
- ให้ทุกสถานีมีอำนาจสอบสวนคดีที่ไม่ได้เกิดในท้องที่ของตนได้ด้วย เช่น คดีที่เกิดขึ้นในขบวนรถไฟที่เคยอยู่ในเขตอำนาจของตำรวจรถไฟ คดีที่เกิดขึ้นในทางหลวงแผ่นดินสายที่เป็นเขตอำนาจของตำรวจทางหลวง
- กรณีประชาชนทำเอกสารหาย ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้วนำบันทึกประจำวันนั้นไปยังหน่วยงานผู้ออกเอกสารเพื่อให้ออกเอกสารใหม่ให้อีกต่อไป แต่จะกำหนดให้สามารถไปแจ้งที่หน่วยงานผู้ออกเอกสารนั้นที่เดียวได้เลย
- ในคดีที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ อาจตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษนั้นๆ เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน หรือที่ปรึกษาพนักงานสอบสวน
- หลักเกณฑ์การเข้ามาร่วมสอบสวนของพนักงานอัยการ
- กำหนดให้ต้องพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหาไว้ในสำนวนคดีตั้งแต่ต้นด้วย ไม่ใช่เฉพาะพยานหลักฐานที่ปรักปรำผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น
- ฯลฯ
ส่วนประเด็นภารกิจของหน่วยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่าควรจะยังอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไปเหมือนเดิมหรือถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานอื่น หลังรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านจากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น บช.สตม., บช.ส., บก.ตท. และผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ที่ประชุมเห็นควรให้รอการพิจารณาไว้ก่อน เพื่อรอผลความคืบหน้าในการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เรื่องภาพรวมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการคนเข้าเมืองทั้งระบบ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้ ก.พ.ร.ศึกษาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560
อนึ่ง ที่ประชุมได้มีมติให้พักการประชุมคณะกรรมการไว้ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ฝ่ายเลขานุการและคณะทำงานที่ได้รับมอบหมายไปจัดทำร่างกฎหมายและร่างกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ได้ตกลงกันมาตลอดการประชุมทั้ง 9 ครั้งนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 เมษายนเพื่อนำมาพิจารณากันในรายละเอียดต่อไป