xs
xsm
sm
md
lg

วิถีคนอยู่เป็น!! “เสี่ยเน”จัดเต็มเปิดฟลอร์ “ลุงตู่”หาเสียงถิ่นเซาะกราว **ขยี้ปม “สอบตก – เสียของ” ประจาน “รัฏฐาธิปัตย์” ไม่เคยคิดจะปฏิรูปตามปากพูด **“สันธนะ ประยูรรัตน์” อาละวาดจนได้เรื่อง จากค้นเครื่องสำอางผิด กม. กลายเป็น “ตลาดใหม่ดอนเมือง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



**วิถีคนอยู่เป็น!! “เสี่ยเน”จัดเต็มเปิดฟลอร์ “ลุงตู่”หาเสียงถิ่นเซาะกราว เต็มสตรีม วางคิวให้แอ๊คอาร์ต เรียกเรตติ้งแน่นเอี๊ยด ส่วนตัวเองตามประกบอิ๋อ๋อ ไม่ต่างจากสมัยเป็นลูกรัก“ทักษิณ” สะท้อนวิถีของ“คนอยู่เป็น” เจ้าของ “พรรคอยู่เป็น” ที่พร้อมสวามิภักดิ์ “ผู้ชนะ” เสมอๆ

เว่อร์วังปังสุดๆ .. บรรยากาศต้อนรับคณะ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ จ.บุรีรัมย์ ในโอกาสไป ครม.สัญจร แถบอีสานใต้ .. ไฮไลต์อยู่ที่โปรแกรมเยือนสนามฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต .. ที่งานนี้เจ้าถิ่น “เสี่ยเป็ด”เนวิน ชิดชอบ จัดแบบเต็มแม็กซ์ ทั้งระดม “ชาวเซาะกราวซิตี้” ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นชีวิต มาต้อนรับ .. พร้อมเซตฉากถ่ายภาพ จัดแอคทิวิตี้ แบบ “ออแกไนซ์อาชีพ” ยังอาย ขับภาพ “ลุงตู่” จนราศี “ซุป’ตาร์”วิบวับ .. โดยเฉพาะคิวที่จับ “ลุงตู่” สวมชุดเซฟตี้ แข่งรถมอเตอร์ไซค์อาชีพ ลงควบบิ๊กไบค์ เจิมสนามที่จะเป็นสถานที่จัดแข่งขัน Motor GP ในอีกไม่นาน .. โดยมี “น้องเน” โดดควบแมงกาไซต์คู่ใจ ตามประกบไปตลอด 2 รอบสนาม ยังไม่รวมคิวที่สวมวิญญาณ “เชียร์ลีดเดอร์” แหกปากนำตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” จนกระหึ่ม ถึงขนาด “นายกฯตู่” ต้องออกปากให้เครดิตตอบแทนกันเลยทีเดียว .. มรรคผลงบประมาณจาก ครม.สัญจร จะผลิดอกออกผลยังไงไม่รู้ แต่สำหรับ “เสี่ยเน” ถือว่าเข้าเป้าปังๆ ในการแสดงพลัง “พรรคสีน้ำเงิน” .. โชว์ศักยภาพให้เห็นว่า พื้นที่ “บุรีรัมย์” พ่วงไปถึงเมืองคู่แฝด “สุรินทร์” ที่มี ส.ส.รวมกันร่วม 20 ที่นั่ง อยู่ในคอนโทรลของ “เสี่ยเน” เจ้าของพรรคภูมิใจไทยตัวจริงเสียงจริง ..และน่าสังเกตว่า แทบไม่มีบทให้ น้องเลิฟอย่าง “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาขโมยซีนบ้างเลย

นอกจากนี้ ภาพที่ “เสี่ยเป็ด”ตามประกบดูแล “ลุงตู่” แบบไม่ห่าง ถือเป็นการส่งสัญญาณสวามิภักดิ์ “พรรคทหาร” แบบไม่ต้องดูดให้เมื่อยแล้ว .. ยังคล้ายเป็น “เดจาวู” ที่ “เนวิน” เคยแสดงตัว พร้อมเป็น “เบี้ยล่าง” ของบรรดาผู้มีอำนาจเสมอๆ .. เป็น “เนวิน” เจ้าของเคล็ดวิชา "กอดการเมือง” ที่ส่งนัยทางการเมืองเสมอๆ เช่นกัน .. ตั้งแต่สมัยโผเข้ากอด “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งประกาศยุบสภา ปี 2548 แต่ไม่กี่ปีต่อมา ก็เปล่งวลีอมตะ “มันจบแล้วครับนาย” ตอกหน้า “ทักษิณ” จนได้ .. จากนั้นก็หันไปสวมกอด “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อครั้งร่วมผลักดันให้เป็นนายกฯ .. ช่วงใกล้เคียงกัน ก็ไปก้มกอด บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ แบบต่ำกว่าใต้เข็ดขัด ระหว่างเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด ส่งสัญญาณความร่วมมือทางการเมือง ทั้งที่เคยมีเรื่องปีนเกลียว ถึงขนาดจะเตะยอดหน้า จนไม่เผาผีกันมาก่อน .. แม้ว่าการมาเยือนของ “ลุงตู่”จะไม่มีช้อตเด็ดโผกอดกันให้เห็น แต่ภาพการเทกแคร์ระดับ “ซูเปอร์วีไอพี” ก็แทบไม่ต่างกัน .. แบบนี้ก็ไม่ต้องไปคิดให้วุ่น สรุปไปเลยว่า “พรรคเสี่ยเน” พร้อมที่จะเป็น “อะไหล่” ให้พรรคทหาร หรือภาษาการเมืองเขาว่า “พรรครอร่วมรัฐบาล” .. แต่ก็หาใช่ของตาย มุมดิ้นได้ เปิดกว้าง หากพรรคทหารพลาดพลั้ง “พรรคสีน้ำเงิน” ก็พร้อมเป็นทางเลือกของ “ผู้ชนะ” อยู่แล้ว .. นายใหญ่ของพรรค พร้อมอี๋อ๋อกับ “ผู้มีอำนาจ” ตามวิถีของ “คนอยู่เป็น”เท่าใด ก็สะท้อนตัวตนพรรคภูมิใจไทยว่าเป็น “พรรคอยู่เป็น” เท่านั้น.

**คำสารภาพบาป !! 4 ปีผ่านวนลูปมาจุดพลุ “5 เรื่องด่วน” ที่เป็น “วาระปฏิรูป” ที่ไม่เคยกระดิกมาตลอดช่วง คสช. เรืองอำนาจ ขยี้ปม “สอบตก - เสียของ” ประจาน “รัฏฐาธิปัตย์” ไม่เคยคิดจะปฏิรูปตามปากพูด แต่จำเป็นต้องปั้น “นิทานหลอกเด็ก”เร่ขาย “กองหนุนลุงตู่” ที่ยังหลงเชื่ออยู่ ก็แค่นั้น

นีกว่าอ่านข่าวเก่า .. เมื่อ “บิ๊กไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ออกมาเปิดเผยว่า “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ “นโยบายเร่งด่วน”กับคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ .. เป็น 5 เรื่องเร่งด่วน ที่ขีดเส้นดำเนินการให้เห็นผลภายใน 8 เดือน ก่อนเลือกตั้ง .. ได้แก่ 1. ปฏิรูประบบราชการ 2. แก้ไขปัญหาปากท้อง 3. ปราบทุจริต 4. สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน และ 5. ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม .. ยืนยันแน่นอนแล้วว่าเป็นการให้ข่าวในโอกาสใกล้ครบขวบปีที่ 4 ที่ คสช.เข้ามายึดอำนาจ .. ผ่านไป 4 ปี แล้วมาประกาศ “เรื่อง เร่งด่วน”ก็อดอุทานไม่ได้ว่า “แล้วอยู่มาตั้งนาน ทำไม....ไม่ทำ” .. แล้วเรื่องที่ว่าๆไปนั้น มันก็อยู่ใน “วาระปฏิรูป” ที่เคยประกาศเป็น “วาระแห่งชาติ” ตั้งแต่ขวบปีแรกไม่ใช่หรือ .. การมาประกาศซ้ำ เมื่อเวลาเนิ่นมาขนาดนี้ ที่เป็นช่วงใกล้ถึงวันที่จะประกาศวันเลือกตั้ง ก็ไม่ต่างจากคำสารภาพว่า “สอบตก-เสียของ” ..

ด้วย 4 ปีผ่านมานี้ “รัฐบาล คสช.”หรือจะพูดให้ตรงก็ตัว “ลุงตู่”ถือเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” ปัจจัยพรั่งพร้อม อำนาจเต็ม เวลาล้น แต่กลับไม่กระดิกวาระปฏิรูปแม้แต่น้อย .. มีการตั้งสภาทั้ง สปช. สปท. กรรมการอีกเพียบ ระดมคนมากินภาษีประชาชน นับพันชีวิต แต่การปฏิรูป กลับไม่ไปไหน .. ทั้งที่โจทย์เดิมของ คสช.คือ “การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”ด้วยซ้ำ แต่พอได้ถือครองอำนาจ ก็ “อัลไซเมอร์”รับประทาน หลงลืมไปจนสนิท .. อีกทั้งยังจับได้ไล่ทันว่า “รัฐบาลประยุทธ์” ไม่กล้าหักหาญ “รัฐข้าราชการ” ที่หวังใช้เป็นนั่งร้านต่อท่ออำนาจ จึงไม่กล้าแตะวาระปฏิรูปซักด้าน ที่ “ราชการ” เป็น “ตัวถ่วง”ทั้งสิ้น .. ก็คงด้วยความจำเป็น ที่อุตส่าห์ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศขึ้นมา จึงต้องแถลงความคืบหน้าที่ไม่คืบหน้าออกมาบ้าง .. หรือคง “หมดมุก” ต้องวนลูป งัดเรื่องเก่าๆ เป็น “นิทานหลอกเด็ก” มาขาย “กองหนุนลุงตู่” ที่ยังหลงเชื่อหัวปักหัวปำ เตรียมปรับโหมดเข้าสู่การเลือกตั้งก็เท่านั้น .. “ร้อยนึงขอขี้หมากองเดียว” จับพลัดจับผลู ได้เข้ามาอีกสมัยหน้า เรื่องปฏิรูปประเทศก็จะเดินหน้าสองก้าว ถอยหลังสามก้าว อยู่อย่างนี้แหละ.

**ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่!! “สันธนะ ประยูรรัตน์” อาละวาดจนได้เรื่อง จากค้นเครื่องสำอางผิด กม. กลายเป็น “ตลาดใหม่ดอนเมือง” แหล่งทำมาหากิน ส่อโดนปิดถาวร พอจวนตัวออกลูกมั่ว สะเปะสะปะ โวมีข้อมูล 3 นายพล คสช. กระทำผิดคดีอาญา คงแค่หวังบลัฟ เคลียร์คดี

หายหน้าหายตาไปนาน .. “เดอะต่อ”พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับสันติบาลคนดัง กลับมายึดพื้นที่ข่าวยกแผงอีกครั้ง .. กรณีขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจค้น “ตลาดใหม่ดอนเมือง” ที่ตัวเองเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาฯ อยู่ .. ไม่เพียงบิ๊วท์ ดราม่าจนตำรวจต้องล่าถอยไปในช่วงแรก ยังประกาศท้าชน 2 ตำรวจรุ่นน้อง ทั้ง “บิ๊กต้อย” พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช. ท่องเที่ยว .. เรื่องบานปลายใหญ่โต จากเดิมที่ตำรวจขอแค่เข้าไปตรวจค้นเครื่องสำอางสวม อย. ที่กำลังเป็นข่าวครึกโครม ทำไปทำมา เลยโดนสั่ง “ปิดตลาด”ไปซะได้ .. เสียทั้งขึ้น ทั้งล่อง ส่วนตัว “เดอะต่อ” ก็โดนข้อหาเบาะๆ “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน”ไปเชยชม เดือดร้อนถึง “เฮียเซ้ง” สุชาติ โชว์วิวัฒนา เจ้าของตลาด ที่โดนเรียกไปสอบปากคำ ฐานมีพฤติกรรมมาเฟีย เก็บค่าคุ้มครอง .. ซ้ำร้ายผู้ค้าเครื่องสำอาง ผิดกฎหมายในตลาด ก็โดนยึดของกลางไปร่วม 100 ล้านบาท ส่วนตลาดที่เป็น “น้ำเลี้ยง”ของ “เดอะต่อ” ก็โดนทั้งต่อเติมผิดกฎหมาย ส่อมีความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน อีกด้วย ..

แว่วมาว่า กรมธนารักษ์ เจ้าของที่ดินราชพัสดุตรงนั้น ยังเตรียมนำคำสั่งปิดตลาดพิจารณาเพิกถอนสัญญาเช่าอีกต่างหาก .. จนเจ้าตัวลนลาน ทำอะไรไม่ถูก ต้องขอพึ่งบารมี “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. .. งัดโทรศัพท์สายตรงถึง “น้องแป๊ะ” ต่อหน้าสื่อ กะโชว์ “พาวเวอร์” ว่างานนี้ พี่เคลียร์ ทว่าปลายสายติดภารกิจ ครม.สัญจร อยู่บุรีรัมย์ ไม่สะดวกรับเรื่อง ทำเอา “พี่ต่อ”หน้าเจื่อนไปเลยทีเดียว .. แต่ถึง “บิ๊กแป๊ะ” จะสะดวกรับเรื่อง ก็คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ ด้วยพฤติการณ์ของ “เดอะต่อ” ที่ออกสื่อ ก็ส่อว่ามีความผิดชัดเจน อีกทั้งชื่อเสียงก็ออกไปทาง “ธุรกิจสีเทา” อยู่แล้วด้วย .. แล้วก็ยังไปเรียกแขก หาเรื่องคู่กรณีก็ยังเป็น 2 บิ๊กตำรวจที่กำลังขึ้นหม้อ ทั้ง “บิ๊กต้อย - บิ๊กโจ๊ก” งานนี้โทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง ที่ทำเรื่องเล็กจนเป็นเรื่องใหญ่ .. ที่น่าสังเกตก็แอคติ้ง “เดอะต่อ” ที่เล่นใหญ่ ใส่อารมณ์ จนเม้าต์กันแซ่ดว่า ไม่ได้สนเรื่องเครื่องสำอางอะไรหรอก แต่ “ร้อนตัว” กลัวจะเลยเถิดไปถึง “ของเทาๆดำๆ” ที่ซุกอยู่ในตลาด ที่คนแถวนั้นเขารู้กันดีว่า ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง “ของเถื่อน เกลื่อนตลาด” .. แล้วยังออกลูกมั่วว่า มีขบวนการสมคบคิด จะปิดตลาด โดยมี “3 นายพล” ในรัฐบาล คสช. อยู่เบื้องหลัง .. ด้วยตัวเองล่วงรู้ข้อมูลว่า “3 นายพล” ไปพัวพันกับคดีอาญา มีโทษสูง และกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ .. ก็ว่ากันไป ถ้าเรื่องจริง ก็แฉกันให้รู้เช่นเห็นชาติไปเลย ไม่ใช่ทำเป็น “บลัฟ” หวังให้ต่อรอง เคลียร์กันได้.


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น