xs
xsm
sm
md
lg

เขียวไปทั้งเมือง!! ชาวเชียงใหม่ยกระดับเคลื่อนไหว “รื้อป่าแหว่ง” **“ลุงป้อม”ออกหน้าดึงรัฐ-เอกชน ลงขันถ่ายบอลโลกรัสเซีย **ก.เกษตรฯ สอบโกง “วัคซีนหมา”สัปดาห์เดียว "เด้งอธิบดี-สอบ ขรก.ซีสูง" ครบ **เปิดปม “ผู้ว่าฯกำแพงเพชร”ด่ากราด “ขรก.ท้องถิ่น”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



**เขียวไปทั้งเมือง!! ชาวเชียงใหม่ยกระดับเคลื่อนไหว “รื้อป่าแหว่ง”เครือข่ายฯตั้งการ์ดสูง “คืนป่าแปลว่ารื้อบ้าน”รับข่าว “สุวพันธุ์”ผู้อุ้มเผือกร้อนรายล่าสุดประสานขอเจรจา คนไทยรู้ทัน เกมยึกยัก-เตะถ่วง ของฝ่ายรัฐหมดแล้ว หาก “บริสุทธิ์ใจ” ต้องหยุด “ขบวนการไอโอ” ที่แซะภาคประชาชนให้หมดด้วย

เข้มข้นต่อเนื่อง .. แม้จะมีการต่อสายจาก “เดอะโก้”สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.สำนักนายกฯ มาถึง “เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ร่วมกับอีก 50 องค์กร นัดพูดคุยกรณี “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ แล้วก็ตาม .. แต่กระแสต่อต้านคัดค้าน "ป่าแหว่งวิลล่า" ที่แทงดอยสุเทพจนอุจาดตาก็ยังไม่สร่างซาลง .. ชวนคนเชียงใหม่ร่วมตัด-ติดริบบิ้น เนรมิต “เขียวไปทั้งเมือง” แสดงพลังตามคำขาด “รื้อเท่านั้น” เหมือนที่คนไทยทั่วประเทศร่วมไปตอบคำถาม “เพจไทยคู่ฟ้า” เมื่อวันก่อน .. นอกจากนี้ “เดอะโต” บัณรส บัวคลี่ โฆษกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ยังยืนยันเป้าหมายสุดท้าย คือ ให้คืนป่ากลับมา คืนป่าแปลว่า รื้อบ้าน .. พร้อมทั้ง “ตั้งการ์ดสูง” ไว้ด้วยว่า การเจรจาต้องรวดเร็ว ไม่ยืดเยื้อ เพื่อนำไปสู่กระบวนการฟื้นฟูผืนป่าบริเวณพิพาทโดยเร็วที่สุด .. น่าหนักใจแทน “รมต.สุวพันธุ์” ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องมารับเผือกร้อนแบบปฏิเสธไม่ได้ .. หลังจากที่ “ฝ่ายศาล” ผลักปัญหามาให้ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อุ้มอยู่พักใหญ่ เมื่อพอหาทางลงไม่ได้ ก็เลยต้องใช้ “แสตนอิน” อย่าง “เดอะโก้” มาอุ้มแทนไปพลาง ..

สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ และ บัณรส บัวคลี่
ก็ด้วยข้อเสนอ “รื้อเท่านั้น” ของภาคประชาชนค้ำคออยู่ ในทางกลับกันเรื่อง “ทุบ-รื้อ” ไม่มีอยู่ในหัวของ “หัวหน้ารัฐบาล” เลย .. ความพยายามยื้อยุดฉุดสถานการณ์ไปเรื่อย ก็เพื่อหวังว่าจะมีประเด็นอะไรมาเป็นกระแสกลบเรื่องนี้บ้าง .. แต่ผิดคาดไม่เพียงแต่กลบไม่ได้ ยังกลายเป็น “วาระแห่งชาติ” แล้วมี “มติมหาชน” เห็นตรงกันว่า “จังซี่มันต้องถอน” ..ที่น่าเป็นห่วงก็ในขณะที่ฝ่ายรัฐยังยึกยักอยู่ ก็ปล่อยให้มี “ขบวนการไอโอ” ปั้นเรื่องแซะ “พลังบริสุทธิ์” พยายามโยงว่า มีการเมืองแอบแฝงมั่งแหละ หรือการยกข้อกฎหมายมาอ้างค้างๆ คูๆ .. ขบวนการไอโอ ที่ว่ายิ่งทำเกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น เหมือนความเห็นแหลมๆ ของ “2 ตุลาการผู้ใหญ่” ที่จะขออยู่ก่อน 10 ปี อย่างไรอย่างนั้น .. ดังนั้นก่อนเจรจา ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ หากรัฐบาล “บริสุทธิ์ใจ” ต้องสั่งการให้หยุด “ขบวนการไอโอ” ที่ทำอยู่ในตอนนี้เสียให้หมด .. อีกทั้งฝ่ายรัฐ ต้องเริ่มเปิดใจได้แล้วว่า ทางลงแบบ “วิน-วิน” ในเรื่องนี้มันไม่มีอยู่จริง “รื้อเท่านั้น” แล้วไปไล่เอาผิด “ตัวการ” ที่เกี่ยวข้อง คือทางออกที่สวยที่สุดแล้ว.

**บารมีพี่ใหญ่!! “ลุงป้อม”ออกหน้า “โต้โผใหญ่” ดึงรัฐ-เอกชน ลงขันถ่ายบอลโลกรัสเซีย เสิร์ฟให้คนไทยดูฟรีถึงบ้าน ครบถ้วน 64 แมตซ์ “หนังตัวอย่าง” ระดมทุน “พรรคทหาร” ที่ “พี่ใหญ่” ดีดนิ้วทีเดียว เสกทุนมาได้เป็นพันล้าน แบบนี้ “มหกรรมเลือกตั้ง” ที่ว่าจะระดมกันเป็นหมื่นๆ ล้าน ก็ไม่น่ายาก

ช้าแต่ชัวร์ .. ได้เครดิตไปเต็มๆ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย กับความสำเร็จเป็น “โต้โผใหญ่” สร้างความร่วมมือ คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ .. ถือเป็นการโชว์ศักยภาพ “ซูเปอร์คอนเนกชั่น” ดึงเอกชน 9 ราย ประกอบด้วย เครือเจริญโภคภัณฑ์, ไทยเบฟเวอเรจ, คิง เพาเวอร์, กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี, บีทีเอส กรุ๊ป, ธนาคารกสิกรไทย, พีทีที โกลบอล เคมิคอล , บางจาก และคาราบาวแดง มาร่วมลงขัน .. ข่าวว่างานนี้ ระดมทุนกันราว 1.4 พันล้านบาท 6 บริษัทแรก ลงกันคนละ 200 ล้านบาท พีทีที โกลบอล ลง 100 ล้านบาท ส่วน บางจาก-คาราบาวแดง คนละ 50 ล้านบาท .. ใครลงเท่าไรไม่สำคัญ เท่ากับการที่คนไทยจะได้ดูกันตาแฉะ ตั้งแต่รอบแรก จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ครบ 64 แมตช์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ..
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เบื้องต้นปูพรมถ่ายทอดสดผ่าน 3 ช่อง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24, อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 และทาง ททบ.5 .. 2 ช่องแรกไม่แปลกเพราะเป็นทีวีในเครือของ “สปอนเซอร์ใหญ่” ส่วน “ททบ.5” เป็นตัวยืนมาตั้งแต่ต้น แม้ไม่ได้ลงขันด้วย แต่ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าเป็น “ช่องทหาร” .. แล้วก็ใช่ว่าจะแค่ยิงสดอย่างเดียว “ช่องทหาร” ยังมีสิทธิพิเศษร่วมแจม “โฆษณา - สิทธิประโยชน์” อีกเพียบเสียด้วย .. นอกจากโชว์ศักยภาพ “ซูเปอร์คอนเนกชั่น” ของ “ลุงป้อม” จนสร้างดีลประวัติศาสตร์ ดึงยักษ์เอกชนมาร่วมกันลงขัน แบบเซย์เยสกันตั้งแต่ “พี่ใหญ่” เอ่ยปากชวนแล้ว ติดอยู่แค่ขั้นตอนเจรจากับเมืองนอกเท่านั้น .. งานนี้ยังถือเป็น “หนังตัวอย่าง” โชว์พาวเวอร์ การระดมทุนของ “ทุนสีเขียว” นี่แค่พริบตายังได้กันเป็นพันๆ ล้าน ที่สำคัญมีบางรายอยากลงขันด้วย แต่ถูกกันออกวงนอกด้วยซ้ำ .. “มหกรรมบอลโลก” คืนความสุขให้คนไทยดูฟรีๆ ยังได้ขนาดนี้ “มหกรรมเลือกตั้ง” ที่เดิมพันสูงด้วยอำนาจ ที่ว่าจะระดมกันเป็นหมื่นๆ ล้าน ก็ไม่น่าเกินความสามารถ .

**บรรทัดฐานผิดกัน!! ก.เกษตรฯ สอบโกง “วัคซีนหมา”แบบฟาสต์แทร็ก สัปดาห์เดียว "เด้งอธิบดี-สอบ ขรก.ซีสูง- รมต.ขอโทษ" ครบ ผิดกับที่ “กระทรวงนักบุญ” เงื้อง่าราคาแพง กว่าจะลงดาบ “ตัวต้นเรื่อง”โกงเงินคนยากไร้ ลากยาวมาร่วม 4-5 เดือน จนคนนินทาว่า “บิ๊กๆ” มีเอี่ยวด้วยไปหมดแล้ว

รวดเร็วทันใจ .. น่าจะเป็น “บรรทัดฐานใหม่” สำหรับการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ กรณีที่ กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อวัคซีนพิษสุนัขบ้า ที่ไม่ได้คุณภาพของกรมปศุสัตว์ หลังเรื่องแดงไม่นาน .. พอผลสอบ “มีมูล” ปุ๊บ ก็กดปุ่มเด้ง นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ไปเป็นผู้ตรวจฯ เปิดทางให้มีการตรวจสอบต่อทันที .. กับคิวตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 5 ข้าราชการกรมฯ พร้อมกำชับ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์คนใหม่ ต้องโปร่งใส ไม่มีการลูบหน้าปะจมูก ..
นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ และ นภา เศรษฐกร
ไม่เท่านั้น “รมต.กฤษฎา” ยังแสดงสปิริตน่าชื่นชม กล่าวขอโทษต่อประชาชนที่ทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตของทั้งคนและสัตว์ จากการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อช่วงที่ผ่านมา .. ทำให้เกิดภาพขัดแย้งกับความไม่ชอบมาพากลที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่วิธีการจัดการเรื่องต่างกันอย่างสิ้นเชิง ..

ก็ที่ “กระทรวงนักบุญ” กว่าจะยอมรับว่ามีการทุจริตเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเกิดขึ้น ก็ต้องรอจน “หน่วยงานภายนอก” ไล่สอบประจานว่า ลามยิ่งกว่าขี้กลากไปค่อนประเทศ .. แม้ว่า “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีคำสั่งให้ พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และ ณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. พ้นจากตำแหน่ง พร้อมให้สอบวินัยร้ายแรง .. แต่ในกระทรวงกลับไม่นำพา “ความเด็ดขาด” นั้นมาปรับใช้ ยังเห็นท่าทีของ นภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ออกไปในทาง “เฉไฉไปเรื่อย” .. โดยเฉพาะกับ “ตัวต้นเรื่อง” อย่าง พวงพยอม จิตรคง เป็น ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น และ วราภรณ์ อบมา หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น .. ที่ตั้งแต่กลายเป็นข่าวครึกโครมจากวีรกรรม “น้องแบม” แอคชั่นจาก “อธิบดี พส.” ดูประดักประเดิดชอบกล ทั้งการตั้งกรรมการสอบวินัยซ้ำซ้อน หรือเลื่อนขั้นให้ “วราภรณ์” เปิดสิทธิ์ให้เข้าข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของกรมฯได้ ทั้งๆ ที่เพิ่งย้ายออกจากตำแหน่งเดิมแค่วันเดียว .. พอผ่านไป 2 เดือน เพิ่งนึกขึ้นได้ แล้วสั่งพักราชการทั้ง 2 ราย พร้อมพวกที่เกี่ยวข้องเมื่อต้นเดือน เม.ย.นี้เอง .. ก่อนที่จะมาลงโทษไล่ออก “พวงพยอม-วราภรณ์” พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องการทุจริตที่ ศูนย์ขอนแก่น-เชียงใหม่ เมื่อวานนี้เอง .. ฟันโชะๆ ตั้งแต่ต้น ก็คงดูดีกว่านี้ พอยึกยักๆ พาลให้คนนินทาว่ามีเอี่ยวด้วย มันก็จะไม่ค่อยงามนะเจ๊.
ธัชชัย สีสุวรรณ
**สมเหตุสมผล!! เปิดปม “ผู้ว่าฯกำแพงเพชร” ของขึ้น ด่ากราด “ขรก.ท้องถิ่น”ไม่ยอมแต่งชุดข้าราชการสีกากี ที่แท้มีนัดมอบรางวัล “ผู้แทนท้องถิ่น” เจอหนุ่มนุ่งยีนส์ ปล่อยชายเสื้อเข้ารับรางวัล เลยถือโอกาส “ว่ากล่าวตักเตือน” ตามระเบียบราชการ

ตอนแรกก็ว่าดูจะเกินไปหน่อย .. คลิป ธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าฯกำแพงเพชร แสดงความไม่พอใจ “ข้าราชการ” ที่ไม่แต่งเครื่องแบบข้าราชการสีกากีในวันจันทร์ ตามระเบียบของทางราชการ .. พร้อมต่อว่าต่อขานยืดยาว ยกว่าชุดข้าราชการเป็น “เครื่องแบบอันศักดิ์สิทธิ์” พร้อมตะเพิดไล่ส่ง หากไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องอยู่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “เยอะเกินไป” รึป่าว .. หลังมีการแชร์ต่อไปในโซเชี่ยลฯ อย่างกว้างขวาง ก็เลยมีเสียงวิจารณ์ว่า “เจ้ายศเจ้าอย่าง” .. ทว่า เมื่อมีการเปิดเผยที่มาที่ไปของ “ดราม่า” ที่เมืองกล้วยไข่ กระแสก็เลยตีกลับมายืนข้าง “ผู้ว่าฯธัชชัย” ว่าที่ตำหนิออกไปนั้น “สมเหตุสมผล” ดีอยู่แล้ว .. ก็ด้วยต้นตอของเรื่อง มาจากพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้แทนขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ตรงกับวันจันทร์ พอดี .. แต่ปรากฏว่า ผู้แทนรับรางวัล 18 ราย มีเพียง 5 ราย ที่แต่งชุดข้าราชการ ที่เหลือส่วนใหญ่ก็แต่งกายสุภาพ สวมแจ็กเก็ต-สูททับ .. หนักสุดก็รายของ “ผู้แทนจาก อบต.สักงาม” ที่สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ปล่อยชายเสื้อในขณะรับรางวัล .. ทำเอา “ผู้ว่าฯธัชชัย” ปรึ๊ดแตก มองว่า ไม่รู้จักกาละเทศะ ไม่เคารพศาลากลางจังหวัด อีกทั้งเป็นวันจันทร์ ที่ต้องแต่งเครื่องแบบราชการ .. หลังมอบรางวัลเสร็จ ก็เลยสวดชยันโตชุดใหญ่ ตามที่ปรากฏในคลิปนั้นแหละ ไม่แปลกใจว่าทำไม “ผู้ว่าฯธัชชัย” ถึง “ของขึ้น” .. ก็ “ตัวต้นเหตุ” แต่งกายสบายเกินไปหน่อย ก็เลยถือโอกาส “ว่ากล่าวตักเตือน” ซึ่งเป็นหนึ่งในโทษสถานเบา ตามระเบียบของทางราชการ .. เข้าใจตรงกันนะ.


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น