นายกฯ อารมณ์ดีบอกรักแรงงานทุกคน เข้าใจความเดือดร้อน ย้ำรัฐแก้ไขปัญหาให้โดยตลอด แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ย้ำรัฐบาลขึ้นค่าแรงให้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ถือว่าสูงสุด จากเดิมที่เคยขึ้นแค่ 1-2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น พร้อมออกกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณอายุจาก 55 เป็น 60 ปี
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงวันแรงงานประจำปี 2561 ว่าสำหรับของขวัญในวันแรงงานนั้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำไปมาก โดยได้แก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเช่น การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา แม้ตัวเลขจะน้อย แต่ก็ขึ้นได้อัตรา 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงสุดในช่วงที่ผ่านมาที่ขึ้นได้ไม่เกิน 1-2 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าอีกสักระยะทุกอย่างจะดีขึ้น ทุกภาคส่วนจะสามารถหาเงินเข้าระบบได้มากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกกฎหมายแรงงานให้เกษียณอายุ 60 ปี จาก 55 ปี ทั้งยังมีเรื่องการให้สิทธิผู้ประกันตนที่คืนสิทธิไปแล้ว กลับมาใช้สิทธิได้อีก โดยมีแรงาน 770,000 คนได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ยังให้บำนาญไว้ใช้จ่าย 5 ปี หลังเกษียณอายุ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกวันนี้มีกฎหมายหลายฉบับเพื่อคุ้มครองแรงงาน โดยทุกอย่างต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ซึ่งเรื่องค่าแรงจะต้องหารือกัน 3 ฝ่าย ทั้งรัฐ ผู้ประกอบการและแรงงาน จึงขอให้ทุกคนอดทน แรงงานเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ แรงงานถือเป็นทุนมนุษย์อย่างหนึ่ง รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตนรักทุกคน เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อน แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะเราไม่มีงบมากกมายที่จะทำทุกอย่างในเวลาเดียว เพราะต้องคำนึงถึงการลงทุน เศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆ เนื่องจากวันนี้หลายประเทศต่างชักจูงนักลงทุนเข้าประเทศตัวเอง โดยเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ และหลายประเทศค่าแรงก็ต่ำกว่าไทย ซึ่งทำให้เราเกิดปัญหาพอสมควร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องหาวิธีคุ้มครองแรงงาน ให้มีหลักประกันสุขภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ตอนเช้าวันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี นำ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม “Happy Workplace องค์กรแห่งความสุข : ท่าบริหารร่างกายสไตล์ไทย เพื่อสุขภาพพี่น้องแรงงานไทย” เป็นกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ
เนื่องจากผลสำรวจขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบปัญหาจากการทำงานมีผลทำให้สุขภาพแย่ลง สอดคล้องกับผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องสุขภาพประชาชนไทย ปี 2557 พบว่าประชากรวัยทำงานมีน้ำหนักเกินและอ้วน ซึ่งเพศหญิงมีน้ำหนักเกินมาตรฐานร้อยละ 55 ส่วนเพศชายคิดเป็นร้อยละ 42 นอกจากนี้ยังมีโรคความดันโลหิตสูง ปัญหาสุขภาพจิต ความเครียด โรคมะเร็ง ดังนั้น สสส.จึงมีแผนสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร มาเป็นเวลา 10 ปี
กิจกรรมครั้งนี้ สสส.ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ทดลองวัดรอบเอวด้วยเข็มขัดวัดความสูง ปรากฏว่ารอบเอวของ พล.อ.ประยุทธ์เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไป 1 นิ้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าจะไปลด จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมเต้น 12 ท่าบริหารร่างกาย สไตล์ไทยประกอบเพลง ร่วมกิจกรรม พล.อ.ฉัตรชัย นพ.ปิยะสกล ผู้บริหาร สสส. เด็กและเยาวชนที่มาร่วมประชาสัมพันธ์ โดยเมื่อถึงท่าเต้นบริหารแบบชกมวย พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงท่าทางหยอกล้อด้วยการออกหมัดแล้วค่อยๆ เดินเข้าหาผู้นำเต้น พร้อมรัวหมัดคล้ายจะเข้าไปชก โดย พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทางต่างๆ อย่างอารมณ์ดี เรียกเสียงหัวเราะจากผู้เข้าร่วมได้อย่างมาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เขียนข้อความในบอร์ดประชาสัมพันธ์ว่า “แรงงานทุกคนต้องได้รับการพัฒนาในทุกมิติ เพราะรัฐบาลถือว่าแรงงานทุกคน คือทุนมนุษย์ของประเทศ เราต้องพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพ คุณภาพฝีมือแรงงาน และคุณภาพชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”