“หมอระวี” เชื่อ “ยาหมอแสง” รักษาโรคมะเร็งได้ตามหลักแพทย์แผนไทย แนะ สธ.ควรศึกษาให้เป็นระบบแล้วสนับสนุนแล้วใช้รักษาผู้ป่วยแบบผสมผสาน
วันนี้ (1 พ.ค.) นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาแถลงว่าได้มีการวิจัยในห้องทดลองว่ายาของนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง ไม่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้นั้น ตนในฐานะที่เป็นอดีตนายกสมาคมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกสุราษฎร์ธานี เห็นว่าการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ทำอย่างตรงไปตรงมาในผลการวิจัย
โดยแถลงในมุมมองเดียวที่ก่อให้เกิดผลเสีย และเป็นการดิสเครดิตหมอแสง ที่อาจมีผลกระทบกระเทือนต่อยาสมุนไพรไทยด้วย ตามหลักการแพทย์แผนไทยกับแพทย์ตะวันตกมีหลักการที่แตกต่างกัน สำหรับแพทย์แผนไทย คนที่ป่วยหรือเป็นมะเร็งเกิดจากร่างกายขาดสมดุล ดังนั้น ในการแก้ปัญหาสุขภาพและมีการรักษามะเร็ง ตามหลักแพทย์แผนไทยเราจะใช้วิธีผสมผสาน รวมทั้งการใช้ยาสมุนไพรเพื่อไปปรับความสมดุลของร่างกาย เมื่อความสมดุลของร่างกายเกิด ภูมิคุ้มกันของบุคคลนั้นจะเป็นตัวที่จะไปทำลายเซลล์มะเร็ง เพราะฉะนั้นยาของหมอแสงไม่ใช่ยาคีโม จึงไม่จำเป็นต้องนำไปทดลองก็รู้ได้ว่ายานี้ไม่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า ที่สำคัญทำไมประชาชนจึงไปหาหมอแสง เพราะปัจจุบันนี้การรักษาโรงมะเร็งที่ได้ผลดีที่สุดก็คือการรักษาแบบผสมผสาน ใช้ทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก และแพทย์ปัจจุบัน ประชาชนบางส่วนซึ่งต้องพึ่งพายาสมุนไพรไทย เมื่อมีข่าวว่ายาของหมอแสงได้รับผลดี หมอแสงแจกยาฟรี คนก็แห่ที่จะไปรับยาตรงนั้น เพราะฉะนั้น กระทรวงสาธารณสุขควรจะไปทำการรวบรวมผลการรักษาจริงที่ประชาชนไปรับยาของหมอแสงมาทำการศึกษาให้ชัดเจนว่ายาของหมอแสงรักษามะเร็งชนิดใดได้ รักษามะเร็งได้กี่เปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดผลดีจำนวนเท่าใด หรือไม่ได้ผลเท่าใด เมื่อได้ผลตรงนี้กระทรวงสาธารณสุขก็ควรจะแถลงให้ประชาชนทราบ และถ้าผลการรักษาไม่ได้ดีจริงในที่สุดประชาชนก็จะหยุดไปเอง แต่ถ้าผลการศึกษาพบว่า ยาของหมอแสงได้ผลดีในระดับหนึ่ง สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขน่าจะทำก็คือ การประสานกับหมอแสงเพื่อนำยานี้แจกให้ประชาชนทั่วประเทศผ่านแผนกแพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งคาดว่ามีอยู่ทุกโรงพยาบาลอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทยจะได้ทำการรักษาแบบองค์รวม กระทรวงสาธารณสุขควรจะสนับสนุนให้หมอแสงผลิตยานี้อย่างเป็นระบบ และออกจำหน่ายทั่วโลก เพื่อทำรายได้ให้แก่ประเทศไทยและเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ยาสมุนไพรไทย
นพ.ระวียังกล่าวต่อว่า กล่าวแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ ส่วนตัวแล้วตนไม่เคยรู้จักกับหมอแสง ไม่เคยพูดคุยหรือพบปะกัน ความเห็นของตนนั้นเป็นความบริสุทธิ์ที่จะให้กระทรวงสาธารณสุขและประชาชนนั้นได้เข้าใจหลักการแพทย์แผนไทยและหลักการรักษาโรคมะเร็งได้ถูกต้อง
