xs
xsm
sm
md
lg

“หมอเณร” ยื่นหลักฐานศาลปกครองเพิ่ม ฟ้อง สธ.ขัดขวางสมุนไพร เรียกค่าเสียหาย 5 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมอเณร” หมอสมุนไพรเมืองกาญจน์ ยื่นหลักฐานต่อศาลปกครองเพิ่มหลังรับพิจารณาคดีฟ้องกระทรวงสธารณสุขละเลยการปฏิบัติหน้าที่ไม่พิจารณาผลงานการรักษาด้วยสมุนไพร เรียกชดใช้ค่าเสียหาย 5 พันล้านบาท

วันนี้ (26 เม.ย.) นายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร หมอสมุนไพรชื่อดัง ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เดินทางพร้อมทนายความ เข้ายื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลปกครอง ภายหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับศาลปกครองกลางให้รับคำฟ้องกรณีที่นายชัยรัตน์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 โดยให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 5,000 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ที่ศาลนัดฟ้อง

นายชัยรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนพยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขให้พิจารณาผลงานที่จะรักษาผู้ป่วยด้วยสมุนไพรไทยแต่ไม่ได้รับการสนับสนุน จึงยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมาธิการสารณสุขสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบการรักษาโรคหัวใจ และโรคเบาหวาน แผลเน่าด้วยสมุนไพรไทย สามารถรักษาโรคดังกล่าวได้จริง จึงมายื่นฟ้องต่อศาลปกครอและขณะนี้ศาลได้รับฟ้องคดีดังกล่าวแล้โดยต้องรอศาลนัดมาพิจารณาอีกครั้ง วันนี้ตนได้นำเอกสารมายื่นเพิ่มเติมคือ รูปภาพที่เกี่ยวกับการรักษา และของที่เราได้รับความเสียหาย

นายชัยรัตน์กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาทำยาสมุนไพรและจะขายยาสมุนไพรไปต่างประเทศก็ขายไม่ได้ เช่น ยาที่สามารถระงับต่อต้านเชื้อไวรัสเอดส์ที่ทางแอฟฟริกามาทำสัญญาซื้อขายกับเรา แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทยไม่อนุญาต ทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนค่าเสียหายที่เรียกร้องไปกว่า 5,000 ล้านบาทนั้นถือว่าเป็นค่าวิชาที่มีคุณค่าในการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจก็ต้องมีการผ่าตัดรักษา ที่การรักษาในปัจจุบันต้องใช้เงินจำนวนมากจึงมองว่าจำนวนเงินดังกล่าวเป็นเรื่องเล็กน้อยถ้าเทียบกับการรักษาในปัจจุบัน

ทั้งนี้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้รัฐธรรมนูญให้หน่วยงานรัฐมีหน้าที่ส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสนับสนุนฟื้นฟู ส่งเสริม เช่น ม.55 ระบุไว้ว่า รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค





กำลังโหลดความคิดเห็น