xs
xsm
sm
md
lg

กลยุทธ์ลากถ่วง!! “ประยุทธ์” ไม่ยอมตัดจบ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” **ล็อกกันตั้งแต่ในมุ้ง!! “บิ๊กคลองหลอด” ส่งโพยล็อก 2 เก้าอี้ กกต.ให้ “อดีตบิ๊ก มท.” **เอาแต่เล่นกระแส!! “ลุงตู่”เกาะ “ดารา-ไอดอล” สร้างภาพตะมุตะมิ เมินสร้างศรัทธาประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



** กลยุทธ์ลากถ่วง!! “ประยุทธ์” ไม่ยอมตัดจบ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ส่งทีมลงพื้นที่ รวบรวมข้อมูลใหม่ ทั้งที่ “ประชาชน - ศาล” ถางทางลงจากดอยให้หมดแล้ว เข้าทาง “มือที่มองไม่เห็น” ที่หวังเตะถ่วงให้สังคมลืม พร้อมปล่อยข่าวเจาะยาง “พลังภาคประชาชน” ที่ต่อสู้แบบกัดไม่ปล่อย

เหมือนกับนับหนึ่งใหม่ .. ตามที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. อัปเดตว่า “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับทราบข้อมูล รวมทั้งปัญหา และความต้องการของทุกฝ่ายเกี่ยวกับ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” เรียบร้อยแล้ว .. แต่เหมือนยังไม่พอใจ “ท่านผู้นำ” ก็เลยตั้ง “คณะทำงาน” ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลรายละเอียดในทุกประเด็นใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง .. ทั้งที่ข้อเท็จจริง แง่มุมทางกฎหมายต่างๆ ที่ปรากฏตามสื่อ หรือข้อเสนอจากภาคประชาชน-นักอนุรักษ์ ก็ชัดอยู่แล้วว่า “รื้อเท่านั้น” ในส่วนของบ้านพัก-สำนักงาน ที่ยื่นแทงเชิงดอยสุเทพอย่างอุจาดลูกกะตา .. ส่วน “ฝ่าย ศาล” เองก็มีหนังสือให้รัฐบาลตัดสินใจได้เต็มที่ พร้อมที่จะปฏิบัติตาม อย่างไม่ขัดข้อง .. กลับกลายเป็นว่า ต้องมาเสียเวลาทำซ้ำอีกหน ทั้งที่ผลลัพธ์ไม่มีทางต่างไปจากเดิม ..
อดอาหารประท้วงหมู่บ้านป่าแหว่ง
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
ครั้นจะอ้างว่าต้องระมัดระวังการละเมิดกฎหมาย ก็อ้างไม่ขึ้น ในเมื่อตัวเองก็มี “มาตรา 44” อยู่ในมือ .. จนเกิดข้อสงสัยว่า ไฉน “ลุงตู่” ถึงไม่รีบคว้าโอกาสทอง ทำแต้ม ซื้อใจประชาชน ด้วยการตัดสินใจอย่างทันท่วงที .. อ่านไม่ยากว่า คงไม่อยากขัดแย้งกับฝ่ายตุลาการ ตลอดจนข้าราชการด้วยกัน จนต้องยื้อเรื่องไปเรื่อยๆ เผื่อจะมีประเด็นดราม่าอื่นมารับไม้ต่อ เหมือนหลงลืมประเมิน “พลังภาคประชาชน” .. และกลายเป็นว่าไปเข้าทางแผน “เตะถ่วง” ที่หวังใช้เวลาเพื่อให้ทุกอย่างเลือนๆไปจากกระแสสังคม ตามแผนของ “มือที่มองไม่เห็น” .. ในทางกลับกับมีก็มีการเดินเกมปล่อยข่าวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่าข้อพิพาท “หมู่บ้านป่าแหว่ง” เคลียร์กันได้แล้ว ภาคประชาชน-นักอนุรักษ์ ไม่ติดใจกันแล้ว .. ขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ว่า กระแสต่อต้านร้อนแรงขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีการติดป้ายแสดงความรังเกียจ “ไม่ร่วมสังฆกรรมกับคนบ้านป่าแหว่ง” ทั่วบ้านทั่วเมือง .. หรือกระทั่งริบบิ้นเขียว สัญลักษณ์ของการคัดค้านขาดตลอดในเมืองเชียงใหม่ .. พร้อมกับนัดหมายเคลื่อนไหวใหญ่ในวันอาทิตย์ ที่ 29 เม.ย.นี้ ในธีม “สงครามเก้าทัพ” .. คงต้องติดตามกันต่อไปว่าแผนตื้นๆ ของ “มือที่มองไม่เห็น” ที่หวังยื้อถ่วงไปเรี่อยๆ เพียงเพื่อไม่ให้รื้อ “หมู่ป่าแหว่ง” กับ “พลังประชาชน” ที่ต่อสู้แบบกัดไม่ปล่อย ใครจะอึดกว่ากัน.

** ล็อกกันตั้งแต่ในมุ้ง!! “บิ๊กคลองหลอด” ส่งโพยล็อก 2 เก้าอี้ กกต.ให้ “อดีตบิ๊ก มท.” สะท้อนสรรหาบุคคลทำงานองค์กรอิสระ ไม่ได้ดูที่คุณสมบัติ แต่วัดกันที่ “คนของใคร” มากกว่า

ล้มระเนระนาด .. น่าสังเกตว่า กระบวนการสรรหากรรมการองค์กรอิสระ รวมทั้งตำแหน่งสำคัญๆ ในยุค “รัฐบาล คสช.” มักไปไม่ถึงปลายทาง .. ส่วนใหญ่ตายตอนจบ ที่ชัดๆ ก็ “7 ว่าที่ กกต.” ที่ขอแค่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เคาะผ่าน ยังล้มกันต่อหน้าต่อตา .. คล้ายกับกรณี ภรณี ลีนุตพงษ์ ที่ชวดเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดินในวินาทีสุดท้าย .. ล่าสุดก็คิวของ “กสทช.”ที่ข่าวลืมหนาหูว่า 14 รายชื่อรอบไฟนอล ไม่ถูกใจ “ผู้มีอำนาจ” สอดรับกับคลิปหลุด “นายกฯไม่แฮปปี้” .. กสทช. นี่หนักกว่าใครเพื่อน ล้มไม่พอ ยังชักดาบ มาตรา 44 สั่งระงับการสรรหาจนกว่าจะมีการแก้กติกาแล้วเสร็จ ทั้งที่ผู้ได้รับการสรรหาชุดนี้ก็มาถูกต้องตาม “กติกา” ที่ สนช.ชุดนี้เป็นคนแก้ไขเอง .. คิวต่อไปที่ต้องจับตา ก็การสรรหา 7 กกต.รอบใหม่ ที่วางไทม์ไลน์ไว้ว่าจะปิดจ๊อบกันได้ในเดือน ก.ค.นี้ .. แต่ก็เห็นหน้าคร่าตากันไปแล้ว สำหรับผู้สมัครเข้ารับการสรรหา 33 ราย ที่เข้าช่วงชิง 5 เก้าอี้ ในโควตากรรมการสรรหา ส่วนอีก 2 เก้าอี้เป็นเรื่องของฝ่ายตุลาการ ก็เลือก “คนเดิม”อย่างเปิดเผย มาเรียบร้อยแล้ว .. ก็เหลือ 5 เก้าอี้ให้ชิงกัน พูดอย่างไม่เกรงใจว่า 33 ชื่อที่ปรากฏ ส่วนใหญ่ “โนเนม” ไม่น่าจะเข้า “สเปกชั้นเทพ” อย่างที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่ “ซือแป๋” มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. รังสรรค์ไว้อย่างเข้มข้น หรืออย่างทื่ “ผู้มีอำนาจ” อ้างไว้เมื่อล้มกระดานหนก่อน .. และหากว่ากันตามเนื้อผ้าสู้แคนดิเดตชุดที่แล้วที่โดนคว่ำกระดานไปแล้วไม่ได้ด้วยซ้ำ ..
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา, ธนน เวชกรกานนท์ และ ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย
แต่ในจำนวนนี้ก็มี “ตัวเก็ง - เด็กนาย” ที่น่าจับตาอยู่หลายผู้หลายคนด้วยกัน .. เอาตั้งแต่ส่วนผสม “สีเขียว” ที่ขาดไม่ได้สำหรับคณะกรรมการฯ ทุกด้านของยุคนี้ พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์ อดีตหัวหน้าศาลทหารสูงสุด ที่พลาดมาหลายเวที รวมถึงสรรหา กกต.รอบที่แล้วด้วย แต่รอบนี้ไม่แน่ ด้วยเป็น “ทหาร” ที่โดดเด่นที่สุด .. ถัดมาก็ ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) และรองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (P-NET) ที่ว่ากันว่าเป็นทายาทที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. วางไลน์ไว้ให้ .. วางตาไม่ได้ก็ในส่วนของอดีตข้าราชการ “สายปกครอง” ที่ว่ากันว่าเกณฑ์การพิจารณาของกรรมการสรรหา ให้น้ำหนัก “สายปกครอง”ที่ต้องควบคุมการจัดการเลือกตั้ง สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่า “สายกฎหมาย” .. งานนี้ “อดีตบิ๊กคลองหลอด” ตบเท้าเข้าชิงชัยกัน 4 ราย แล้วยังเป็น “สิงห์ดำ” ถึง 3 ราย ตั้งแต่ “เดอะหิน” พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าฯ หลายจังหวัด ที่มาสมัครเป็นคนแรก .. ถัดมาก็ ธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตผู้ว่าฯระยอง-ลำปาง และ อดีต สปท. รวมทั้ง ศิริพงษ์ ห่านตระกูล อดีตอธิบดีกรมที่ดิน .. อีกรายเป็น “สิงห์ทอง” ธนน เวชกรกานนท์ อดีตผู้ว่าฯ นนทบุรี .. มองตามชื่นชั้นถือว่าสูสี ดู๋ดี๋ สำคัญที่ “แบ็กอัพ” ที่อยู่เบื้องหลังมากกว่า .. อย่างรายของ “ธนน” ถือว่าขึ้นหม้อ ได้รับความไว้วางใจจาก “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ “พี่รอง คสช.” ยังเป็น ผบ.ทบ. ส่วน “ธนน” เป็นผู้ว่าฯนราธิวาส แบบนี้ 1 เก้าอี้ไม่น่าพลาด .. ส่วน “ธวัชชัย” ก็มาแรง ด้วยมีความใกล้ชิดกับ ประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดมหาดไทย หนึ่งในคณะทำงานของ “บิ๊กป๊อก” รมว.มหาดไทย ก็เลื่องลือว่า “บิ๊กป๊อก” ส่งเข้าประกวด เพื่อเสียบแทนโควต้าของ “ประชา” ที่ติดบ่วง โดนตีตกไปด้วยงวดก่อน .. ขณะที่ “พีระศักดิ์” ภาพลักษณ์ไม่ได้ผูกโยงขั้วอำนาจไหนเป็นพิเศษ เคยมาสมัครในรอบที่แล้ว แต่ติดตรงมีหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวกับการทำสื่อ แต่รอบนี้เคลียร์หมดแล้ว .. สุดท้าย “ศิริพงษ์”หลังรัฐประหารโดนข้อหาเป็น

คนของพรรคเพื่อไทย ด้วยเป็นเด็กในบ้าน “ตระกูลหาญสวัสดิ์” ที่ดันจากผู้ว่าฯ ปทุมธานี พรวดไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ในยุครัฐบาลเพื่อไทย .. ก็เลยเป็นเหตุให้โดนย้ายจากอธิบดีกรมการปกครอง กรมใหญ่ที่สุดของกระทรวง ไปเป็นรองปลัดฯ เคลียร์อีท่าไหนก็ไม่ทราบ “บิ๊กป๊อก” ให้มาเป็นอธิบดีกรมที่ดิน โชว์ให้เห็นถึงกำลังภายในที่ไม่ธรรมดา .. แซวกันว่าปัจจุบัน “ศิริพงษ์”ก็ยังแวะไปชนแก้วที่ “บ้านใหญ่ปทุมฯ” อยู่บ่อยๆ ด้วยมีรสนิยมชอบปาร์ตี้-สังสรรค์ เหมือนกับเจ้าของบ้าน .. เอกซเรย์ตามข่าวว่ามี “ใบสั่ง” จากคลองหลอด ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มกระบวนการ จองที่ให้ “สิงห์ มท.” แล้ว 2 ที่นั่ง ส่วนจะเป็นใครย้อนอ่านอีกรอบก็คงจะร้องอ๋อ .. ล็อกกันตั้งแต่ในมุ้งแบบนี้ มันจะรอดหรือ.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับวง BNK 48
** เอาแต่เล่นกระแส!! “ลุงตู่”เกาะ “ดารา-ไอดอล” สร้างภาพตะมุตะมิ เมินสร้างศรัทธาประชาชน สำคัญผิดว่า “กระสุน-อำนาจ” ครบมือ ไล่ต้อน “นักเลือกตั้ง” เข้าคอก อย่าลืมอำนาจจะอยู่จะไป ตัดสินด้วยเสียงประชาชน มีโอกาสแล้วไม่กู้ศรัทธา ระวังตกม้าตาย

เอาแน่แล้ว .. เส้นทางอาชีพ “นักการเมือง” กับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใกล้จะเวียนมาบรรจบอยู่รอมร่อ รอก็แค่มีคูหาเลือกตั้งเมื่อไรก็เมื่อนั้น .. วันก่อนอยู่ดีๆ ก็นึกคึก ไปเดินเรียกเหนื่อย “ซ้อมหาเสียง” พบปะพ่อค้าแม่ค้า มอไซค์วิน รอบรั้วทำเนียบฯ ท่ามกลางอุณหภูมิร้อนระอุหลายกิโล .. ไม่เท่านั้นยังเล่นกับกระแสไม่ว่างเว้น แบบ “นักการเมืองอาชีพ” ยังอาย ตั้งแต่เปิดทำเนียบฯ รับ “ทีมออเจ้า” หยอดมุกสนุกสนาน มาจนถึงโชว์สเตป สะบัดข้อมือ “ท่าปั้นข้าว” กับสาวๆ BNK 48 ได้อย่างตะมุตะมิ เนียนตา .. ชั่วโมงนี้ ใครเด่นใครดังขอให้บอก พร้อมเปิดทำเนียบฯต้อนรับ ตามกลยุทธ์ สลัดภาพลักษณ์ “ผู้นำรัฐบาลทหาร” ทิ้งก่อน เผื่อเวลาคล้องมาลัยดาวเรืองลงหาเสียง ชาวบ้านจะได้รู้สึกเป็นกันเอง แตะต้องสัมผัสได้ .. เรื่อง “กระแส” ว่าเด่นแล้ว “กระสุน” ยังมีไม่อั้น หากเป็นไปตามที่ “เดอะแจ๊ค” วัชระ เพชรทอง ออกมาแฉเบื้องหลังการถ่ายทำ “พรรคทหาร” ว่ามีการระดัมทุนสร้างกันถึง “4 หมื่นล้านบาท” เลยทีเดียว .. ใครว่า มโนโอเว่อร์ ก็ว่ากันไป อย่าลืมว่า “เม็ดเงิน” ที่ “รัฐบาลทหาร” อัดฉีดไปแล้ว และกำลังทยอยใส่เข้าระบบ ผ่านโครงการขนาดใหญ่มหาศาลมากกว่า “ล้านล้านบาท” .. คงไม่ต้องบอกว่ามีโครงการอะไรบ้าง แต่ถ้าหากลองนั่งดีดลูกคิดเล่นๆ กันดู แล้วจะเข้าใจในตัวเลข “4 หมื่นล้าน” ของ “เดอะแจ็ค” จิ๊บๆไปเลย ..

“กระแส - กระสุน”ก็นำมาด้วย “เทศกาลตกเขียว” ดูด “เจ้าพ่อหัวเมือง” เอามาเป็น” เป็นฐานเสียง-หัวคะแนน หรือ “นั่งร้าน” เข้าสู่อำนาจได้อย่างสบายๆ .. 25 ที่นั่ง ที่ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประเมินไว้ น่าจะต่ำไปเยอะ “เป้าหมายที่แท้จริง” เป็นพรรคอันดับ 1 มีเสียง ส.ส.พอที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่ง “ประยุทธ์” หวนคืนบัลลังก์ “ผู้นำประเทศ” อย่างสมศักดิ์ศรีต่างหาก .. ตามรูปการณ์นี้ คำว่า “เปอร์เฟกต์” น่าจะเหมาะสำหรับ “พรรคโอตู่” แบบไม่ใช่ ก็ใกล้เคียง บวกกับอำนาจที่มี แต้มต่อทิ้ง “ค่ายฟ้า-ค่ายแดง” ไม่เห็นฝุ่น .. จะมี “ตำหนิ” ก็หน่อยเดียว ก็เรื่องที่ “รัฐบาล คสช” ผู้มีอำนาจล้นมือ เวลาล้นเหลือ “สอบตก” มาโดยตลอด ก็คือการประคองความศรัทธาของประชาชนคนไทย .. ด้วย 4 ปีที่ผ่านมา จากคะแนนนิยมพีคขั้นสุด มีกระแส “ลุงตู่ฟีเวอร์” ในขวบปีแรก ไม่ทันไรก็ ใช้อำนาจแต่เรื่องอย่างไม่เข้าท่า จนเรตติ้งตกต่ำด่ำดิ่ง เข้าแดนลบ .. ยิ่งเรื่องได้ใจประชาชนนี่ลืมไปได้เลย เห็นชัดๆ ที่ “เลือกที่รักมักที่ชัง” เปิดประตูต้อนรับ “ดารา-เซเลปบริตี้” มาเต้นแร้งเต้นกา หวังเกาะกระแส สร้างความนิยมรัฐบาล .. ในทางกลับกัน ไม่เคยที่จะเปิดประตูต้อนรับ “กลุ่มปัญหา” ทั้งกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือความเดือดร้อนด้านอื่นๆ .. อย่างโอกาสกองตรงหน้าอย่าง “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ที่กำลังร้อนแรง กลับดูเหมือนว่ารัฐบาลนิ่งนอนใจอย่างผิดปกติ จนอาจกลายเป็น “ระเบิดเวลา” ...จะปั้น “กระสุน” ที่ใช้แล้วก็หมดไป หรือมัวแต่เล่น “กระแส” ก็ตรงตัวว่ามาแล้วก็ไป หากกู้ศรัทธาไม่ได้ ก็จบข่าว .. อำนาจที่ว่าแน่ๆ ก็ไม่ยั่งยืนเท่า “ศรัทธา” หรอกนะท่านนะ.


ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น