“นิพิฏฐ์” อัดไล่หลัง “สกลธี” ลาออกพ้นประชาธิปัตย์ไปนั่งเก้าอี้รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้ตอกย้ำผลการเข้าพบ “สมคิด” ในทำเนียบฯ เตือนให้ระวังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษใช้สถานที่ราชการเพื่อประโยชน์ตัวเอง
วันนี้ (11 เม.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับทราบการลาออกของ นายสกลธี ภัททิยกุล ช่วงเช้าที่ผ่านมาซึ่งเป็นการลาออกหลังจากไปพบนายสมคิดเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เข้าใจได้ว่ามีการใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำการของพรรคการเมือง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมืองก็ตาม แต่ในที่สุดก็มีการลาออกจากสมาชิกพรรค อยากให้ตระหนักว่าทำเนียบรัฐบาลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนที่เข้าไปนั่งในทำเนียบฯ ใช้ไฟใช้แอร์จากเงินแผ่นดิน ต้องทำงานเพื่อประโยชน์บ้านเมือง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนในทำเนียบฯ ใช้สิ่งของราชการไปทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทำเนียบฯ จะลงโทษ เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับแก้ทุกข์ให้ประชาชน ไม่ใช่แก้ทุกข์ให้ตนเอง
“อย่างไรก็ตาม ก็ขออวยพรกับการตัดสินใจของนายสกลธี ขอให้น้องได้ประสบความสำเร็จในการทำงานในหน้าที่ใหม่เพราะเลือกทางนี้แล้ว” นายนิพิฏฐ์ระบุ
เมื่อถามว่าตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ถูกใช้ในการต่อรองทางการเมืองเป็นการถูกต้องหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ แต่ถ้าการไปพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นที่มาของตำแหน่งนี้ก็แสดงว่ารัฐบาลแทรกแซงไปถึงการปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ โดยปกติการแต่งตั้งตำแหน่งนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. ดูจากรูปการณ์ที่ผ่านมาก็น่าจะถือได้ว่ารัฐบาลมีส่วนในการแต่งตั้ง ตนเห็นว่าเส้นทางเหล่านี้เป็นเรื่องของระบบเผด็จการที่แทรกแซงทุกระบบ เพราะต้องการรักษาตำแหน่งต่อไป หากยังเดินเส้นทางนี้ต่อไปก็มีจุดจบที่เห็นอยู่แล้ว เหมือนคำเตือนที่ว่าอย่าเดินไปในเส้นทางที่ไม่มีใครเคยหวนกลับมา แต่รัฐบาลกลับเดินไปในเส้นทางนี้ ทั้งที่มีประวัติศาสตร์ให้เห็นแต่ก็ไม่เคยจดจำ
อย่างไรก็ตาม ตนคงไม่เตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะกลัวมาตรา 44 แต่เป็นเพราะมีอวิชาอยู่หนาแน่น จึงไม่สามารถแหวกว่ายอวิชชาไปเตือนท่านได้ สิ่งที่ปกคลุม พล.อ.ประยุทธ์อยู่ หนาแน่นเกินกว่าจะไปสะกิดได้ เพียงแต่รอดูจุดจบของท่าน และอยากให้จำคำที่ตนพูดไว้บ้าง เผื่อว่าภายใน 2 ปีข้างหน้าจะเจอเหตุการณ์ที่ตนเคยพูดไว้ แม้ไม่รื่นหูแต่อาจเป็นความจริงในอนาคตคือ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง เพราะไม่มีเพื่อนทางการเมือง และอยู่ตรงข้ามกับการเมืองมาตลอด มีทางเดียวที่จะอยู่ได้อย่างปลอดภัยคือต้องระบบทหารชนะอย่างถล่มทลาย แต่ถ้าคิดจะอยู่ในอำนาจต่อโดยไม่มีการเลือกตั้งนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะไม่เพียงแต่ภายในประเทศจะมีปัญหา ต่างชาติก็จะไม่ยอมรับด้วย