ข่าวปนคน คนปนข่าว
** กะจะล่อป๋า แต่นายโอ๊ค หน้าแตกเสียเอง ซ้ำร้ายยังประจานการเก็บค่าต๋งของตัวเองให้สังคมเห็นชัดๆ เสียอีก
เข้าสู่โค้งสุดท้าย .. คดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ที่มี “ลูกโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร ทายาทหัวแก้วของ “บิ๊กบอส” ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ต้องหาสำคัญ .. แว่วเสียงจาก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใกล้สรุปสำนวนได้แล้ว เหลือสอบพยานอีกเพียงปากเดียว .. แล้วพยานปากที่ว่าก็ “อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวน”เป็นพยานของฝ่าย“พานทองแท้”เสียด้วย เห็นว่า“เล่นแง่”ไม่ยอมเข้าให้การตามนัด ขอเลื่อนมาแล้ว 2 รอบ “ดีเอสไอ”เลยขีดเส้นตายให้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว .. พอเข้าให้การเรียบร้อย ทีนี้ พนักงานสอบสวนก็สามารถสรุปสำนวนได้ทันที .. เข้าอิหรอบนี้ “โอ๊คอ๊าค”ดิ้นเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าทันที ลนลานโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ขุด “ของเก่า”มาหากิน .. งัดเอาสำเนาเช็คธนาคาร 2 ฉบับ ฉบับหนึ่ง 2.5 แสนบาท อีกฉบับ 1 แสนบาท พร้อมระบุชื่อเสียงเรียงนามครบ .. สั่งจ่าย“ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิทของ”ป๋าเปรม” ..
ความเกี่ยวดองหนองยุ่งกับคดีที่ตัว “หนุ่มโอ๊ค”กำลังเดือดร้อน ก็แค่ว่าเช็คมีต้นทางมากจาก วิชัย กฤษดาธานนท์ แห่งกฤษฎานคร และเลขที่เช็คทั้ง 2 ฉบับ มีลำดับต่อเนื่องกับเช็คที่สั่งจ่าย“พานทองแท้”จำนวน 10 ล้านบาท พร้อมโอดโอยว่า ทำไม“ป๋าเปรม - พะจุณณ์”ถึงไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินเหมือนตัวเอง ประมาณว่า ถ้าตัวเองผิด ก็ต้องผิดกันทั้งกระบิ .. ทั้งที่ “ลูกโอ๊ค”เองก็รู้แก่ใจดีว่า ที่ผ่านมามีการสอบเส้นทางการเงินของ “วิชัย”แบบละเอียดยิบ ไม่เว้นกระทั่ง “ป๋า”หรือ “พะจุณณ์”จึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง .. ก็ด้วยเช็ค 2.5 แสนบาท ที่ “วิชัย”สั่งจ่าย “ป๋าเปรม”ถูกนำเข้ามูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ฯ ทันที ไม่แวะเข้าบัญชีส่วนตัวแต่อย่างใด .. ส่วนเช็คที่สั่งจ่ายให้กับ “พะจุณณ์”1 แสนบาทนั้น ก็ชี้แจงตรงกันว่า เป็นค่าจัดงานเลี้ยงรุ่น วปอ. ที่ “พะจุณณ์”สำรองจ่ายไปก่อน โดยพิสูจน์แล้วว่า มีงานเลี้ยงรุ่นจริง .. ต่างจาก 10 ล้านบาท ที่สั่งจ่าย“พานทองแท้”ในฐานะ“ลูกบิ๊กบอส” ถูกนำเข้าบัญชีส่วนตัวทันที ก่อนชี้แจงที่มาที่ไปอย่างมี“พิรุธ”อ้างลงทุนซื้อขายรถบ้าง ซื้อขายหุ้นบ้าง พอรู้ตัวว่าเป็นเรื่องแน่แล้ว ก็เลยรีบคืน แต่ก็ไม่ทัน ความผิดมันสำเร็จแล้ว .. รวมทั้งอีกบางส่วนที่ยักย้ายถ่ายเทผ่าน“เครือข่ายนายโอ๊ค”จนถูกมองว่า“ปิดบังอำพราง”เป็นที่มาของ“คดีฟอกเงิน” .. เพียงแต่ “บังเอิญ”ที่เลขที่เช็ครันต่อกันเท่านั้นเอง ซึ่ง “ดีเอสไอ”และผู้ที่เกี่ยวข้องก็รู้ดีว่า หากจวนตัว“พานทองแท้”คงงัดไม้นี้มาเล่นกระแส .. ข้อมูลจากฝั่ง“ดีเอสไอ”ก็เลยออกมาตอกหน้าหงายอย่างรวดเร็ว .
** หลอกตัวเองไปวันๆ!! “ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์”โผล่ญี่ปุ่นราวกับ “แขกบ้านแขกเมือง”ตอก “ทอปบู๊ต”ไร้ปัญญาลาก “นักโทษคดีเป็นที่สุด”มาลงโทษ ถอดรหัส “ทูตดอน”อ้าง “โตเกียว-ดูไบ”หนักใจ “พี่น้องชินฯ”ทั้งที่ความเป็นจริง“รัฐบาล คสช.”ต่างหากที่ไม่คิดทำอะไรเลย
แฉล้มแช่มชื่น .. “2 พี่น้องชินวัตร”ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังเลิกเป็น“อีแอบ” เปิดตัวอยู่ด้วยกันเป็นปาท่องโก๋ ตั้งแต่เมื่อช่วงตรุษจีน ก็ขยันออกงานถี่ยิบ .. ล่าสุดควงกันไปโผล่ร่วมงานเปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว แถมยังให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงสถานการณ์ในเมืองไทย .. “ทักษิณ”ถึงขนาดเย้ย คสช.ด้วยว่า หากมีการเลือกตั้ง“พรรคเพื่อไทย”กลับมาอย่างถล่มทลายแน่ พร้อมประจานชาวโลกด้วยการขนานนามประเทศไทยว่า ยามนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย จำกัดความว่า“ไม่มีความยุติธรรม”ด้วย .. ตัดภาพกลับมาทีเมืองไทย ทั้ง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ได้แต่ทำท่ายักไหล่ถึงการปรากฏตัวของ “พี่น้องชินวัตร”ที่ได้ชื่อว่าเป็น “นักโทษหลบหนีคดี” ..เหมือนไม่ยอมรับว่า การที่ “2 พี่น้องตระกูลชิน”ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกโยธิน เป็นการตอกย้ำว่า “ทอปบู๊ต”ไร้น้ำยา .. ล้มเหลว (โดยอาจจะตั้งใจ) จนไม่สามารถนำตัว “นักโทษคดีเป็นที่สุด”มาลงโทษได้ ..
ภาระตกไปอยู่ที่ กระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องรับหน้าทุกครั้งยามที่มีการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ”และเพิ่งมี “ยิ่งลักษณ์”มาสมทบ .. ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ก็อธิบายแบบงูๆปลาๆ อ้างว่า “ทักษิณ”เดินทางไปครั้งนี้ ในฐานะเพื่อนของอดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่น ด้วย“ความสัมพันธ์ส่วนตัว” .. “ทูตดอน”ยังอ้างอย่างไม่มีที่มาที่ไปด้วยว่า ทั้ง “ญี่ปุ่น”หรือกระทั่ง “ดูไบ”ดูจะหนักใจต่อการเคลื่อนไหวของ“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างเห็นได้ชัด .. เหมือนปลอบประโลม“หลอกตัวเอง” ทำเป็นไม่เห็นภาพการต้อนรับ หรือให้ความสำคัญไม่ต่างจาก“แขกบ้านแขกเมือง”ของทางญี่ปุ่น .. หรือที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ “ทักษิณ”ก็ใช้เป็นที่พำนักมานานหลายปี อยู่แบบสบายใจราวกับ “พลเมืองกิตติมศักดิ์” ไปแล้วด้วยซ้ำ .. แล้วหากประเทศอื่นเขาหนักใจจริง มีหรือ “เจ้าของประเทศ”เขาจะไม่ดำเนินการอะไร ยิ่งพูดๆ ก็เหมือนยิ่งตอกย้ำว่า คสช. ต่างหากที่ไม่ทำอะไรเลย .. หากว่า“ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์”ยังใช้ “พาสปอร์ตไทย”อยู่ ก็อย่าได้แปลกใจไปเลย
**ช่องทางธรรมชาติอีกแล้ว!! “เสี่ยกำพล”เผ่นนอกประเทศ ย้ำวาทกรรม “คุกมีไว้ขังคนจน คนรวยปล่อยหมด” “ดีเอสไอ”แจ้งข้อหาหลัก “ร่วมกันค้ามนุษย์”แบบนี้เงิน “เสี่ยวิคตอเรีย”คงมีแต่ “สีเทา-สีดำ”ไล่เส้นทางดีๆ น่าจะคละเคล้ากับ 300 ล้านบาท ที่ “เสี่ยอ๊อด”หยิบยืมมาบ้าง
คืบหน้าล่าสุด .. คดีค้ามนุษย์ สถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยพ.ต.ท.สุภัทร ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ ขนสำนวน 72 แฟ้ม กว่า 17,000 แผ่น มาส่งให้กับอัยการคดีค้ามนุษย์ เพื่อพิจารณา และมีความเห็นสั่งคดีตามขั้นตอน .. เบ็ดเสร็จ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 45 คน แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย“เจ้าของสถานบริการ-พนักงานเชียร์แขก-แคชเชียร์-นายหน้า-ร่วมกันเป็นอั้งยี่” ..ทั้งหมดถูกฟ้องในข้อหาหลักคือ“ร่วมกันค้ามนุษย์”และยังมีข้อหาอื่นๆ แตกต่างกันตามความผิดของแต่ละบุคคล .. ส่วนใหญ่ผู้ต้องที่ถูกดำเนินคดี อยู่ในช่วงฝากขัง เห็นว่าจะครบกำหนดในช่วง 1-2 วันนี้พอดี .. แต่ที่ยังไร้เงาก็ตัวการใหญ่ อย่าง กำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ “เสี่ยกำพล” ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของตัวจริงของ วิคตอเรียซีเครท รวมทั้งธุรกิจสีเทาอื่นๆ .. โดยมีการยืนยันจากดีเอสไอ เป็นครั้งแรกว่า “เสี่ยกำพล”เดินทางออกนอกประเทศผ่าน “ช่องทางธรรมชาติ”ไปแล้ว จะประสานอัยการต่างประเทศเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี.. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวเนืองๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่รัฐก็ปฏิเสธมาโดยตลอด .. คล้ายกับพยายาม “เตะถ่วง”จนเรื่องซา โดยที่ไม่คิดจะติดตามตัวในระหว่างหลบหนีในประเทศ สุดท้ายก็ย้ำวาทกรรม ความเหลื่อมล้ำที่ว่า“คุกมีไว้ขังคนจน คนรวยปล่อยหมด” ..
แล้วหากว่าธุรกิจของ “เสี่ยกำพล”เป็น “สีเทา-สีดำ”อย่างดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหาจริง .. คราวซวยอาจมาเยือน“อ๊อด ไซด์ไลน์”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ที่มีธุรกรรมหยิบยืมเงินจาก “เสี่ยกำพล”มาตั้ง 300 ล้านบาท .. เงินมากโขขนาดนี้ “เสี่ยกำพล”คงไม่คัดมาให้เฉพาะ “เงินบริสุทธิ์”ทั้งหมดกระมัง .. ไล่เส้นทางการเงินดีๆ เงินตั้ง 300 ล้านบาท คงจะคละเคล้าไปหมด“สีเทา-สีดำ”แบบนี้ “เสี่ยอ๊อด”น่าจะอัพฐานะ ไม่ใช่แค่ “พยาน”อย่างที่เจ้าตัวอ้างซะแล้ว.
**เชิญป้ายหน้าครับ!! “มาร์ค”ตะเพิด “ติ่งลูกตู่”ไปที่อื่น หาใช่ส่งสัญญาณเปิดหน้าซัด “ขุนทหาร”แต่จงใจย้อนเกล็ด “พี่เทือก”อย่างเจ็บแสบ พร้อมประกาศตัดหางอย่างเป็นทางการมากกว่า
ส่งเสียงเข้มๆ .. “เดอะมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถือโอกาสปราศรัยเรียกน้ำย่อย ในโอกาสเปิดยืนยันสมาชิกพรรควันแรก .. นอกจากเรื่องแนวทางของพรรค บลาๆๆๆ แล้ว วรรคทองที่เอาไปขยายความกันกระจาย ก็ช่วงที่ว่า “สมาชิกพรรคต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ อยู่แล้ว ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม ส่วนใครที่จะออกนอกแถวไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ไปทางเลือกอื่น ไม่ต้องมาที่นี่” .. เป็นเสียงเข้มๆ ที่ไม่ได้ต่อต้านการต่อท่ออำนาจของ“ขุนทหาร”เต็มปากเท่าไร ก็ด้วยท่อนสร้อย ก็บอกประมาณว่า“การสนับสนุนทหารเป็นรัฐบาลนั้น ต้องไปดูว่า ทหารเข้ามาได้อย่างไร และมีกี่เสียง”.. แง่หนึ่งก็อ่อยๆ ว่า พร้อมที่จะร่วมกับ“พรรคทหาร”ในการจัดตั้งรัฐบาล หากมีเสียงมากพอ .. แต่เรื่องการไม่สนับสนุน “ประยุทธ์”เป็นนายกฯ ต่อนั้น หมุดหมายตะเพิด“พวกนอกคอก”กันซึ่งหน้า .. เป็นสัญญาณที่พุ่งเป้าไปที่ “พี่เทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่ง กปปส. อดีตคนเคยรักกันมากกว่า .. ก็ด้วยรู้ดีว่า “พี่เทือก”เทใจสนับสนุน “ประยุทธ์”ให้เป็นนายกฯ ต่อหลังเลือกตั้งอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ถึงขนาดเคยฝันหวานว่า จะกลับมายึด “ค่ายสีฟ้า”เป็นบันไดให้ “ลุงตู่”ไต่กลับตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยซ้ำ .. ไม่เท่านั้น ยังมีการเช็คชื่ออดีต ส.ส.เย้ย “พี่เทือก”
ด้วยว่า อดีตแกนนำ กปปส. ที่ขาดหายก็มีแต่ “กำนันเทือก”และ “กำนันเล็ก”ธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย ที่ประกาศจะไปจดแจ้ง “พรรคมวลมหาประชาชน”ส่วนรายอื่นๆ กลับคืนรังทั้งสิ้น .. ย้อนเกล็ดเจ็บแสบไม่ว่า ยังเหมือนประกาศตัดหาง“พี่เทือก”อย่างเป็นทางการอีกด้วย.
ช.ชฎา