xs
xsm
sm
md
lg

สนช.จ่อดัน กม.ขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง ให้ อปท.สำรวจ กำหนดบทลงโทษหากทอดทิ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ)
สนช.จัดสัมมนา พร้อมดันกฎหมายขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง เปิดช่อง อปท.ทำหน้าที่สำรวจและขึ้นทะเบียน พร้อมกำหนดบทลงโทษหากทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง มีโทษทั้งจำ-ทั้งปรับ

วันนี้ (28 มี.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมการติดตามกลไกและพิจารณาการปกป้องคุ้มครองสัตว์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จัดสัมมนาเรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์” โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ในที่สาธารณะ เป็นที่มาของปัญหาโรคระบาดในสัตว์ ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระของภาครัฐในการปัญหา ตลอดจนส่งผลต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชน เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว รวมถึงป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ จึงควรให้มีการควบคุมทางทะเบียนและเพิ่มความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์ รวมทั้งเพิ่มบทบาทหน้าที่และอำนาจของราชการส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นในการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง ตลอดจนกฎหมายที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมถึงการดำเนินการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นระบบ และไม่มีบทกำหนดโทษสำหรับเรื่องดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้

ด้านนายวิศิษฏ์ วิชาศิลป์ อดีตรองผู้อำนวยองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ทำหน้าที่สำรวจ เพราะ อปท.มีความใกล้ชิดกับประชาชน และรู้จักพื้นที่ที่รับผิดชอบดี รวมถึงหากดำเนินการได้สำเร็จจะทำให้กรมปศุสัตว์ทราบจำนวนที่แน่ชัดของสัตว์แต่ละชนิดมากขึ้น ส่วนค่าฝังชิพสัตว์ อยู่ที่ 100-200 บาท แต่ไม่ใช่เรื่องที่ประชาชนจะต้องแบกรับ รัฐอาจต้องนำงบประมาณมาดำเนินการเรื่องนี้

นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า ตามกฎหมายจะไม่มีสุนัขจรจัดเลย เพราะอปท.จะเป็นผู้ดำเนินการจับไปควบคุมตามศูนย์พักพิง แต่หาก อปท.ไม่มีศักยภาพเลี้ยงดู สามารถเปิดให้ประชาชนที่มีศักยภาพเข้ามาช่วยดูแลด้วย แต่อย่างไรก็ตามได้กำหนดให้มีสุนัขชุมชน คือสุนัขที่มีความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน ไม่เป็นอันตราย สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ จะไม่ถือเป็นสุนัขจรจัด ส่วนข้อสงสัยผู้ให้อาหารสัตว์เป็นประจำถือเป็นเจ้าของสัตว์ หรือไม่ ยืนยันว่าไม่ใช่ ยกเว้นเข้าร่วมกับการจัดสวัสดิภาพนำไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง

ขณะที่นายชัยชาญ เลาหศิริปัญญา อดีตเลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า คนที่เลี้ยงสัตว์ ต้องคำนึงหลายปัจจัย ไม่ใช่อยากจะเลี้ยงก็เลี้ยง เช่น สถานที่มีพื้นที่ให้สัตว์หรือไม่ มีเวลาเลี้ยงหรือไม่ มีเงินซื้ออาหารและค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยหรือไม่ และตั้งใจเลี้ยงตลอดชีวิตหรือไม่

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมสัมมนาแสดงความเห็น โดยส่วนใหญ่ไม่อยากให้เพิ่มปัญหาให้ อปท.มากเกินไป รวมทั้งเสนอให้ทำบิ๊กดาต้าเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลกับหน่วยงานทั้งหมดหากมีการย้ายที่อยู่ตามเจ้าของ

สำหรับร่างดังกล่าวจะเป็นการกำหนดให้ อปท.ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดให้เจ้าของสัตว์นำสัตว์เลี้ยงมาขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง และกำหนดโทษสำหรับเจ้าของสัตว์ที่ฝ่าฝืนไม่นำสัตว์เลี้ยงตามข้อบัญญัติท้องถิ่น มาขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง หรือทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หากกระทำทารุณกรามสัตว์ มีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้เกิดการทารุณกรรมสัตว์ หรือปล่อยปละละเลยทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นการก่อปัญหาให้สังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น