ไฟเขียวกลุ่มจังหวัด โอนเปลี่ยนงบ’61 รอบ 3 กว่า 204 รายการ วงเงิน 1.17 พันล้าน อนุมัติ “เมืองนครพนม” ปรับแผน 35 ล้าน สร้างลานทางเดินเชื่อมทางจักรยานริมฝั่งน้ำโขงเชื่อมตลาดอินโดจีน ไฟเขียว “กลุ่มอีสานตอนบน” จัดงบ 120 ล้าน ผุด 99 โครงการ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยปี 60 แทนงบสร้างสถานีสูบน้ำโซลาร์เซลล์ “น้ำโขง-น้ำก้ำ” เผยตีกลับแผน ตร.-สนง.จ.สมุทรปราการ ขอเปลี่ยนแผนบริหารน้ำ 42 ล้าน ไปจัดซื้อกล้องซีซีทีวี 254 ตัว หนุนความปลอดภัยการท่องเที่ยว “บางกระเจ้า-แพรกษา”
วันนี้ (28 มี.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการบริหารงานโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจภายประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และพิจารณาจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 คณะที่ 6.3 ได้เห็นชอบการขอปรับแผนการปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ครั้งที่ 3
โดยรับทราบรายการโอนเปลี่ยนแปลงฯ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด 63 จังหวัด 17 กลุ่มจังหวัด รวมทั้งสิ้น 204 รายการ/กิจกรรม งบประมาณ 1,178.9855 ล้านบาท รับทราบการใช้งบประมาณที่เหลือจ่ายจากการดำเนินงานที่บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมาย โครงการ กิจกรรมหรือรายการตามที่ได้จัดสรรงบฯหรือการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว 263 รายการ/กิจกรรม งบประมาณ 837.3464 ล้านบาท และเห็นชอบให้หน่วยงาน รับงบประมาณโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการ 318 รายการ/กิจกรรม งบประมาณ 1,729.8564 ล้านบาท และไม่เห็นชอบจำนวน 1 รายการ/กิจกรรม งบ 42.7130 ล้านบาท
มีรายงานว่า สำหรับโครงการที่ผ่านความเห็นชอบที่น่าสนใจ เช่น เปลี่ยนแปลงรายละเอียด โครงการก่อสร้างเส้นทางจักรยานและลานทางเดิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม วงเงิน 35,000,000 บาท เปลี่ยนรายการก่อสร้างเส้นทางเดินเชื่อมริมฝั่งแม่น้ำโขงจากพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัด (หลังเก่า) - โบสถ์วัดนักบุญอันนา มาเป็นก่อสร้างลานทางเดินเชื่อมทางจักรยาน (บริเวณข้างลานกิจกรรมริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าตลาดอินโดจีน ถนนสุนทรวิจิตร) เนื่องจากพื้นที่ที่เนินโครงการซ้ำซ้อนกับโครงการของกรมโยธาธิการและผังเมืองและเพื่อความเหมาะสมกับพื้นที่และเป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิม
เปลี่ยนรายการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำภาคการเกษตร ของกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จ.นครพนม สนับสนุนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพื่อสถานีสูบน้ำในลุ่มน้ำโขงและลุ่มน้ำก้ำอันเนื่องมาจากพระราชดาริ (ในเขตพื้นที่อำเภอธาตุพนม) วงเงิน 120,000,000 บาท ปรับมาเป็นโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำพร้อมอาคารประกอบ โครงการขุดลอกห้วย ฯลฯ จำนวน 99 โครงการ ทั่ว จ.นครพนม โดยมีเหตุผลว่าเนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการเมื่อโครงการแล้วเสร็จและอาจเกิดความไม่คุ้มค่าและไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงขออนุมัติเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 60
เปลี่ยนแปลงโครงการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 (อุบลราชธานี) โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 104,617,360 เช่น พัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัด และพัฒนาเส้นทางคมนาคมเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่
สำหรับโครงการที่ไม่ได้รับเห็นชอบจำนวน 1 รายการ/กิจกรรม วงเงิน 42.7130 ล้านบาท ได้แก่การขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการ ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ บริเวณอำเภอเมืองสมุทรปราการ ที่ปรับปรุงระบบระบายน้ำ สถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา 3 แห่ง ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำคลองบางนางเกร็ง สถานีสูบน้ำคลองมหาวงศ์ และสถานีสูบน้ำหัวเกาะ
ขอโอนเปลี่ยนแปลงเป็นโครงการยกระดับการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง พัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สุขภาพ และวัฒนธรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเป็นการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) จำนวน 192 ตัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบคุ้งบางกะเจ้า งบประมาณรวม 17,716,000 บาท รับผิดชอบโดย ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับที่ทำการปกครองอำเภอพระประแดง และสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมระบบควบคุมและสั่งการ และอุปกรณ์ติดตั้งสายต่อสัญญาณ ห้องควบคุมและสั่งการระบบ จำนวน 6 จุด (งบประมาณ 250,000 บาท) และการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด พื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา 62 ตัว งบประมาณ 24,997,000 บาท พร้อมระบบควบคุมและสั่งการ และอุปกรณ์ติดตั้งสายต่อสัญญาณ ห้องควบคุมและสั่งการระบบ ให้เหตุผลว่า โครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบที่รับผิดชอบโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ มีการดำเนินโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำเพื่อการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบในบริเวณดังกล่าว จำนวน 3 โครงการ โดยใช้งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2561 ในวงเงิน 716,000,000 บาท ซึ่งเป็นการดำเนินงานทั้งระบบมากกว่าอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารงานโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด ไม่เห็นชอบให้มีการเปลี่ยนแปลง