รมว.พัฒนาสังคมฯ เตรียมลงดาบ ขรก.โกงเงินคนจนล็อตแรกสัปดาห์นี้ เผยมีซี 7-8 จำนวน 5 คน รับผิดหวังเข้ามาทำงานพบทุจริตอื้อ เล็งตัดวงจรคอร์รัปชันภายใน 2 เดือน เตรียมประชุมฟื้นฟูภาพลักษณ์พรุ่งนี้
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนประเภทเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งของ พม. ว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น 59 ศูนย์ พบการทุจริต 21 ศูนย์ ไม่พบ 8 ศูนย์ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 30 ศูนย์ โดยศูนย์ที่ตรวจพบการทุจริตนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบขึ้นมาเป็นล็อตๆ ซึ่งล็อตแรกตรวจสอบเสร็จแล้วจะมีการรายงานผลมาให้ตนทราบในวันเดียวกัน (27 มี.ค.) เบื้องต้นพบข้าราชการระดับ 7 และ 8 เกี่ยวข้องจำนวน 5 คน โดยจะพิจารณาลงโทษให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนล็อตที่ 2 จะทยอยได้ข้อสรุปและลงโทษต่อไป ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างแท้จริง จะได้ไม่มีการมาร้องเรียนภายหลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่พบการทุจริตสามารถเชื่อมโยงไปถึงปลัดและรองปลัด พม.ที่ถูกมาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า มีการให้การเชื่อมโยงทั้งหมด เพราะการทุจริตครั้งนี้มีทั้งเจ้าตัวปฏิบัติเอง และมีการสั่งให้ปฏิบัติ ต่อข้อถามว่า นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาระบุว่าการทุจริตดังกล่าวเริ่มตั้งแต่การวิ่งเต้นตำแหน่งเพื่อให้ได้ลงไปทุจริตในพื้นที่ด้วย พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ยอมรับว่ามีส่วน ข้อมูลจากทุกหน่วยตรงกัน ถือเป็นวงจร ภายใน 2 เดือนนี้จะตัดวงจรแบบถอนรากถอนโคน
เมื่อถามว่า ตกใจหรือไม่เมื่อเข้ามาทำงานกระทรวง พม.แล้วพบการทุจริตจำนวนมาก พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ผิดหวังกับชื่อกระทรวง แต่คนดีเขายังมี คนไม่ดีต้องลงโทษกันไป ใครไม่ดีต้องลงโทษ ใครที่ดีต้องให้ก้าวหน้า คนในกระทรวงคงเข้าใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติของกระทรวง โดยวันที่ 28 มี.ค.จะมีการประชุมเรื่องยุทธศาสตร์การฟื้นฟูภาพลักษณ์กระทรวง ใครมีข้อมูลขอให้เอามาให้โดยเร็ว เรื่องจะได้จบ ไม่ต้องกลัวผู้บังคับบัญชาจะกลับมาใหม่แล้วลงโทษตัวเอง ยืนยันเราเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ นายกฯ กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เอาจริง โดยการตรวจสอบทั้งหมดจะยังใช้กฎหมายปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44