“วีระ สมความคิด” ซัด คสช.เหลิงอำนาจปลด “สมชัย” ทำตัวเหนือ รธน. ฟันธงหาก คสช.ไม่ได้เปรียบจะไม่มีเลือกตั้งเหตุตั้งใจสืบทอดอำนาจยาว ด้าน สนง.กกต.ห้ามสื่อเกาะติดบรรยากาศ “สมชัย” เก็บของ นศ.พตส.9 มอบดอกไม้ให้กำลังใจ ขณะที่เจ้าตัวเผยเตรียมจัดเฟซบุ๊กไลฟ์ทุกวัน
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณี คสช.ใช้มาตรา 44 สั่งให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าการอ้างเหตุผลของ คสช.ไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะการอ้างว่าลงสมัครเลขาธิการ กกต.โดยไม่ลาออกจากตำแหน่ง ถ้านายสมชัยทำผิดกฎหมายก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ผู้มีอำนาจมาแทรกแซงทำไม ถ้า คสช.ใช้อำนาจเผด็จการแบบนี้แทรกแซงองค์กรควรจะยุบองค์กรอิสระทั้งหมดเลย และเป็นการใช้มาตรา 44 อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เหนือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยการให้ กกต.ที่อายุเกิน 70 ปี อยู่ในตำแหน่งต่อไป เป็นเรื่องที่ตนยอมรับไม่ได้ ในการยึดอำนาจก็อ้างว่ามาแก้ปัญหาประเทศ แต่ขณะนี้จะ 4 ปีแล้วยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรม การปฏิรูปก็ไม่ได้ทำ แก้โกงก็ดีแต่พูด คนใกล้ตัวเป็นปัญหา ไม่แตะ ไม่ตรวจ ยังปกป้อง
นายวีระกล่าวอีกว่า หลักการรัฐธรรมนูญการใช้มาตรา 44 ก็เพื่อสร้างความปรองดอง แต่กรณีนี้ทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น และรัฐธรรมนูญประกาศใช้ตั้งแต่ 6 เม.ย. 60 มาตรา 44 ควรยุติได้แล้ว
เมื่อถามว่าการปลดนายสมชัยสะท้อนว่าการเลือกตั้งจะถูกแทรกแซงได้หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า การเลือกตั้งจะมีหรือเปล่า การเลื่อนแบบนี้น่าจะล้มเลือกตั้งด้วยซ้ำ
“ถ้า คสช.ไม่ได้เปรียบ ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีการเลือกตั้ง คสช.ต้องมั่นใจว่าจะชนะเพื่อกลับมาสืบทอดอำนาจ ถ้าไม่มั่นใจล้มเลือกตั้งแน่นอน โรดแมปที่แท้จริงคือการสืบทอดอำนาจยาวนาน คนมันบ้าอำนาจ เหลิงอำนาจ ต้องรักษาอำนาจให้นานที่สุด” นายวีระกล่าว และว่า การที่ กรธ.และสนช.ขัดแย้งกันเรื่องยื่นกฎหมายตีความนั้น ตนไม่เชื่อว่าไม่รู้ แต่เป็นการเตี๊ยมกันขึ้นมาให้เกิดปัญหา วันหนึ่งก็พร้อมจะใช้เป็นเงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสมชัยขอเวลาเก็บของ 3 วัน และวันนี้เป็นวันสุดท้ายซึ่งจะมีการเปิดใจต่อสื่อมวลชน ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้ามีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าวจำนวนมาก พร้อมกันนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้รับคำสั่งให้มาเฝ้าสังเกตการณ์
ขณะเดียวกัน สำนักงาน กกต.ยังได้รับคำสั่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปถ่ายภาพโดยเฉพาะห้องทำงานของนายสมชัยและบริเวณโดยรอบที่นายสมชัยจะเดินอำลาเจ้าหน้าที่ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อความเรียบร้อย พร้อมจัดพื้นที่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน กกต.ไว้ให้กรณีจะมีการสัมภาษณ์
โดยกรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากคำสั่งมาตรา 44 ที่ทำให้สำนักงาน กกต.ต้องระมัดระวังการแสดงท่าทีต่อกรณีดังกล่าวมากยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้โดยธรรมเนียมปฏิบัติของสำนักงาน เมื่อมีบุคคลที่พ้นจากตำแหน่งก็มักจะมีเจ้าหน้าที่มามอบดอกไม้อำลาเพื่อเป็นกำลังใจกัน แต่ก็ยังมีผู้เข้าร่วมรับการอบรมหลักสูตรพัฒนาการเมืองการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) 9 นำโดยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานนักศึกษา พตส.รุ่นที่ 9 ได้เข้าพบนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ที่ห้องทำงานภายในสำนักงาน กกต.เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่นายสมชัย
มีรายงานว่า นายสมชัยได้กล่าวขอบคุณด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมเปิดเผยตอนหนึ่งว่า มีความรู้สึกโล่งและไม่ได้โกรธเคืองอะไร คิดว่าการถูกคำสั่ง ม.44 ดังกล่าวเป็นเพราะไปพูดในสิ่งที่มีคนไม่พอใจ สำหรับตำแหน่งเลขาธิการ กกต.ที่สมัครไว้ เชื่อว่าโอกาสจะได้รับคัดเลือกคงน้อยมากแล้ว อีกทั้งตนไม่ต้องการให้ กกต.ทั้ง 4 มาเลือกตนด้วยเพราะไม่ต้องการทำให้ทุกคนเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม ตั้งใจจะไปบอกกับ กกต.ที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อว่า ขอให้การทำงานอย่าตามใจผู้มีอำนาจ เพราะท้ายที่สุด กกต.อาจจะเกิดปัญหากับตนเอง เพราะแม้รับคำสั่งมาแต่เมื่อต้องเป็นผู้ดำเนินการให้ ผลสุดท้ายอาจเกิดปัญหาจนต้องไปหารสี่ก็ได้ สำหรับอนาคตต่อไปนั้น นายสมชัยเผยติดตลกว่า อาจไปสมัครทำงานกับหน่วยงานที่พร้อมรับของร้อน และตั้งใจจะจัดเฟซบุ๊กไลฟ์ทุกวัน