xs
xsm
sm
md
lg

“พรเพชร” ยัน กม.ลูก ส.ส.ไม่ขัด รธน. แต่หวั่นป่วนตีความหลังเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพรเพชร วิชิตชลชัย (แฟ้มภาพ)
“พรเพชร” ส่งร่างกฎหมายลูก ส.ว.พร้อมรายชื่อ 30 ส.ว.ให้ศาล รธน.ตีความแล้ว ปัดออกความเห็นปมสัตยาบันพรรคการเมือง อ้างไม่สมควรพูด พร้อมข้อสังเกตยืนตีความร่างกฎหมาย ส.ว.ไม่น่ากระทบโรดแมปเลือกตั้ง ส่วนร่างกฎหมาย ส.ส.ไม่มีปมขัด รธน. พร้อมส่งร่างให้นายกฯ แล้ว ห่วงวุ่นแน่หากยื่นตีความหลังเลือกตั้ง

วันนี้ (19 มี.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ได้ลงนามส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 มี.ค. โดยมีสมาชิก สนช.ร่วมลงชื่อส่งเรื่องให้ตีความทั้งหมด 30 คน ส่วนที่ สนช.บางคนเสนอให้พรรคการเมืองทำสัตยาบันยินยอมเลื่อนโรดแมปเลือกตั้งไป 3 เดือน แลกกับการยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ตนไม่มีความเห็น แต่มองว่าไม่สมควรพูด

จากนั้นนายพรเพชรได้แจกเอกสารต่อสื่อมวลชน เป็นบันทึกความเห็นของประธาน สนช.กรณีการส่งร่างดังกล่าว โดยตั้งข้อสังเกตว่าการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะมีผลกระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการเลื่อนวันบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน ระยะเวลาดังกล่าวน่าจะเพียงพอสำหรับกระบวนการทั้งหมด

นายพรเพชรได้ตั้งข้อสังเกตร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ว่า เรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง และการให้คนพิการที่ไม่สามารถลงคะแนนเสียงด้วยตัวเอง ให้มีบุคคลช่วยเหลือในการลงคะแนนในคูหาเลือกตั้งได้นั้น ในประเด็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะไม่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง เป็นหลักการที่ถูกต้องแล้วในการส่งเสริมให้บุคคลตระหนักถึงหน้าที่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง ตำแหน่งข้าราชการการเมืองมีจำนวนน้อยจึงกระทบบุคคลในวงแคบมาก ดังนั้น การจำกัดสิทธิเสรีภาพย่อมทำได้ด้วยบทบัญญัติกฎหมาย เมื่อมีเหตุผลที่สมควรไม่น่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ส่วนการให้คนพิการมีบุคคลช่วยเหลือในการลงคะแนนเสียงในคูหาเลือกตั้ง เห็นว่า การลงคะแนนเลือกตั้งของคนพิการควรมีการช่วยเหลือให้การใช้สิทธิมีความสมบูรณ์ถูกต้อง คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่ กรธ.อ้างมานั้นไม่อาจนำมาปรับใช้ได้กับการช่วยเหลือคนพิการตามร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากการช่วยเหลือคนพิการมีคนรู้การลงคะแนนเพิ่มอีกคนเดียว ไม่ใช่การเปิดเผยต่อสาธารณชน การใช้สิทธิเช่นนี้ของคนพิการมีจำนวนน้อยมากในแต่ละคูหา ไม่อาจกล่าวได้ว่าจะทำให้การเลือกตั้งของคนพิการที่มีผู้ช่วยเหลือเป็นกรณีเดียวกับข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่นำมาเปรียบเทียบ ในทางตรงข้าม เป็นการรับรองสิทธิคนพิการทางการเมือง สอดคล้องวิธีปฏิบัติที่เป็นสากล

“หากมีการยื่นร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ต่อศาลรัฐธรรมนูญจะส่งผลให้การประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ช้าไปกว่าเดิมประมาณ 2 เดือน แม้เป็นระยะเวลาไม่นานนัก แต่เมื่อสมาชิก สนช.มีความเชื่อมั่นว่าข้อความในร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งสองประเด็นดังกล่าวไม่มีปัญหาเรื่องความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีการเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดังนั้น ประธาน สนช.จึงส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปยังนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มี.ค.เพื่อดำเนินการต่อไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ส่วนความห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบจากการไม่ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. ที่เกรงว่าหากมีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในภายหลังจนอาจมีผลกระทบต่อโรดแมปนั้น ในกรณีการตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะ จะมีผลคือผู้ถูกตัดสิทธิจะได้รับสิทธินั้นคืน โดยไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. จึงไม่กระทบโรดแมป” ประธาน สนช.ระบุ

นายพรเพชรระบุต่อว่า ขณะที่ประเด็นการให้ผู้พิการมีผู้ช่วยเหลือในคูหาเลือกตั้ง หากมีความกังวลจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ผู้ได้รับผลกระทบควรใช้สิทธินี้ เมื่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะ ผลที่เกิดขึ้นคือ สิทธิของผู้พิการที่ได้รับความช่วยเหลือจะหายไป ไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวจะมีผลกระทบ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นนี้เป็นโมฆะ หลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้วอาจมีผลต่อการนับคะแนนได้ ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องที่เห็นว่าบทบัญญัตินี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญจึงควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนั้น ขอยืนยันว่า สนช.พิจารณากฎหมายด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังไม่ให้มีบทบัญญัติใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ


กำลังโหลดความคิดเห็น