ปธ.กกต.เร่งจัดทำแผนรองรับการได้มาซึ่ง ส.ว.-เลือกตั้ง ส.ส. หวั่นทำผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเลือกตั้งใหม่ยุ่งยากซับซ้อน เผยเดินหน้าคัดเลือกเลขาฯ กกต. มาเร่งสางงานเพราะไม่รู้จะมี กกต.ใหม่เมื่อใด พร้อมยันเป็นสิทธิ สนช.เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมาย ส.ส.-ส.ว.
วันนี้ (14 มี.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ว. และการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม โดยมีผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง และส่วนงานที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน กกต.เข้าร่วมประชุมที่เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
นายศุภชัยกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ว. และแผนปฏิบัติการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งจะนำมาเป็นเครื่องมือในการควบคุม ดูแล และติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หากกฎหมายและระเบียบมีผลบังคับใช้ สำนักงาน กกต.ก็สามารถดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ว. และการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม สนช.ได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายลูก ส.ส.และ ส.ว. จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องออกระเบียบ และข้อกำหนดต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ แต่ขณะนี้รอเพียงความชัดว่าจะมีการยื่นร่างทั้งสองฉบับให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่าไม่ขัด นายกฯ ก็ต้องนำร่างฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียม เพราะเมื่อกฎหมายกฎหมายฉบับที่ 4 มีผลบังคับใช้ภายใน 150 วัน กกต.ต้องจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ให้แล้วเสร็จ ส่วน กกต.ชุดใดจะเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ยังไม่ทราบ เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีการรับสมัคร กกต.ใหม่
“กรรมการการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นชุดใหม่หรือชุดผม พวกท่านก็ต้องทำงานเหมือนกัน และต้องทำงานหนักขึ้นเพราะกฎหมายทั้งสี่ฉบับได้วางแนวทางไว้ใหม่ วางหลักเกณฑ์ให้เราวุ่น เวียนหัว พอสมควร แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ กกต.ที่มีความรู้ ความสามารถ แต่ขอย้ำว่าให้ดูระเบียบและกฎหมายให้ดี และยืนยันที่ผ่านมาในฐานะกรรมาธิการร่วม 1 เดียวจาก กกต.ก็ได้พยายามชี้แจงและโต้แย้งอย่างดีที่สุดแล้ว ถึงแม้พวกผมจะได้ทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ก็ไม่รู้สึกกังวล” นายศุภชัยกล่าว และว่า นอกจากนี้ กกต.ยังได้พิจารณาร่างระเบียบผู้ตรวจการเลือกตั้งแล้ว และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำไปปรับปรุง
ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงการคัดเลือกเลขาธิการ กกต.คนใหม่ ว่าแต่เดิมคาดว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ในเดือนเมษายน จึงคิดว่าจะให้ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้คัดเลือกเลขาธิการ กกต. แต่เมื่อยังไม่รู้ว่าจะ กกต.ใหม่ได้เมื่อไหร่ จึงจำเป็นต้องให้กระบวนการสรรหาดำเนินต่อไป
นายศุภชัยยังกล่าวถึงกรณีที่ สนช.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายลูก 2 ฉบับ ว่าเป็นสิทธิของ สนช. ซึ่งจำนวนสมาชิก 25 คนก็สามารถยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ ในส่วน กกต.ได้ให้ความเห็นไปหมดแล้ว เราจึงไม่มีความเห็นในส่วนนี้ เพราะเราได้ทำหน้าที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ประเด็นใดที่ กกต.เห็นว่าไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เราก็ได้ชี้แจง และทำความเห็นไปแล้ว คือจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ต้อให้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลใช้บังคับ ที่ต้องเลือกตั้งภายใน 150 วัน และไม่ว่าจะเป็นการยื่นส่งให้ศาลวินิจฉัย 1 หรือ 2 ฉบับก็ไม่กระทบการเลือกตั้ง ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการยื่นพิจารณารายมาตรา ไม่ใช่ทั้งฉบับ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย