นายกฯ กำชับเทศบาลเคร่งครัดดูแลสุนัขจรจัด ป้องกันการระบาดพิษสุนัขบ้า แนะ ปชช.เอาใจใส่สัตว์เลี้ยง-เรียนรู้วิธีป้องกันโรค พร้อมปลุกจิตสำนึกร่วมลดมลพิษ กำชับรถทุกคันต้องตรวจก๊าซซีโอทู นำเงินภาษีจากรถมาแก้ปัญหามลพิษ
วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในขณะนี้ว่า ตนเคยเตือนไปแล้วว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่โรคพิษสุนัขบ้ากำลังระบาด และบ้านเราส่วนใหญ่รักสุนัข แต่หลายคนไม่ค่อยสนใจว่าจะต้องฉีดยาหรือพาไปหาหมอบ้าง เรียกว่าเลี้ยงตามยถากรรม มีอาหารให้ก็พอแล้ว วันนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะโรคพิษสุนัขบ้ามีการขยายตัวและเป็นโรคติดต่อจากสุนัขกับสุนัข และแพร่กระจายไปทั่ว ดังนั้น เจ้าของสุนัขต้องนำไปฉีดยา รวมถึงแมวและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ขณะเดียวกัน ต้องเรียนรู้ว่าหากถูกสุนัขกัดต้องทำอย่างไร ต้องรักษาตัวเองด้วยการไปหาหมอ ฉีดวัคซีน และต้องควบคุมสุนัขของตนเองไม่ให้ไปอยู่ในที่สาธารณะที่มีสุนัขจรจัดอยู่ และกรณีสุนัขเร่ร่อนหรือสุนัขจรจัด เจ้าหน้าที่หน่วยงานเทศบาลต้องเข้าไปดูแล ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ไปรังแกสัตว์หรือฆ่าทิ้ง ต้องมีมาตรการในการดำเนินการ เช่น มีสถานที่เลี้ยง การทำหมัน การฉีดยา ซึ่งในช่วงนี้ก็ขอให้เคร่งครัดเรื่องเหล่านี้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงปัญหามลพิษ ฝุ่นละอองที่เพิ่มมากขึ้นในกรุงเทพฯ ขณะนี้ว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาไปทั่วโลก เพราะโลกเปลี่ยนแปลง อากาศก็เปลี่ยนแปลง ฝนตกบ้าง หิมะตกบ้าง ฝุ่นละอองที่เคยฟุ้งอยู่ข้างบนไปไหนไม่ได้ เมื่อฝนตกลงมาจึงลงมาข้างล่าง และยังมีปัญหาสะสมในเรื่องการจราจรที่พ่นท่อไอเสียออกมามากมาย ยิ่งเพิ่มมลพิษมากขึ้นไปอีก
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนเช็กแล้วเป็นทั้งประเทศทุกจังหวัดซึ่งอยู่ที่อากาศด้วย โดยในที่ประชุม ครม.วันนี้ ตนได้กำชับให้ไปดูเรื่องของรถยนต์ ที่ก่อนหน้านี้เสียภาษีอย่างเดียว แต่วันนี้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตด้วย ต้องดูแลคุณภาพรถของตัวเอง ต้องตรวจก๊าซซีโอทู ที่พ่นออกมาจากรถ เราต้องมีภาษีตรงนี้เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ขอทุกคนอย่าคิดว่าบ้านเรามันแย่ เมื่อมีปัญหาเราก็ต้องแก้กันไปให้ได้ จะมากหรือน้อยก็อยู่ที่พวกเราทุกคนที่จะต้องร่วมกัน