ตราด - ปศุสัตว์ จ.ตราด เดินหน้าเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่อย่างเต็มที่ แม้ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา จะยังไม่พบคนตราดติดเชื้อพิษสุนัขบ้าก็ตาม
วันนี้ (13 มี.ค.) นายบุญญกฤช ปิ่นประสงค์ ปศุสัตว์จังหวัดตราด ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศพื้นที่เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้าไปแล้วเกือบ 20 จังหวัด ซึ่งในส่วนของ จ.ตราด นั้น สถานการณ์ยังไม่น่าวิตกกังวล เนื่องจากยังไม่พบเชื้อพิษสุนัขบ้าตั้งแต่ปี 2553 จึงทำให้ไม่ต้องกังวลต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตราด ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ฉีดวัคซีนให้แก่สุนัขในพื้นที่ตั้งแต่เดือน ก.พ. ถึง มี.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 29,000 ตัว จากจำนวนสุนัขและแมว 43,000 ตัว ซึ่งคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ทั้งหมดใน 2-3 เดือนนี้
และหลังจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเร่งดำเนินการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงานในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
ปศุสัตว์จังหวัดตราด ยังกล่าวว่า สำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ตราด เช่น เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมากนั้น สำนักงานปศุสัตว์มีเป้าหมายในการที่จะควบคุมให้เป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ในปี 2562 ซึ่งปศุสัตว์ จ.ตราด จำเป็นต้องมีมาตรการในการควบคุมการเคลื่อนย้ายจากพื้นที่อื่นที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เช่น การนำสุนัข และแมวมาจาก จ.จันทบุรี หรือจังหวัดอื่นๆ เข้ามา และจะต้องมีการแจ้งเพื่อตรวจสอบถึงสุนัข และแมวเหล่านี้ว่ามีเชื้อหรือไม่
“ปศุสัตว์ จ.ตราด ยังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในทุกพื้นที่ เพื่อใช้เป็นมาตรการในการควบคุม คาดว่าสามารถจะประกาศได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งในห้วงปี 2560 ที่ผ่านมา มีชาวตราดถูกสุนัขกัด และมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตราด จำนวนกว่า 900 คน และในช่วง 2-3 เดือนแรกในปี 2561 มีผู้เข้ามารักษากว่า 300 คน ซึ่งทั้ง 1,200 คนยังไม่พบว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า จึงยืนยันได้ว่า จ.ตราด ยังไม่พบว่ามีผู้ใดติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใด” นายบุญญกฤช กล่าว
โดยล่าสุด สำนักงานปศุสัตว์ จ.ตราด ยังได้ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จ.ตราด ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และทำหมันให้แก่สุนัขในหน่วยทหารนาวิกโยธินตราด และหน่วยงานที่ขึ้นตรง เพื่อป้องกันสุนัขไม่ให้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า