เมืองไทย 360 องศา
หากนับเอาวันที่ 2 มีนาคม ที่เริ่มไฟเขียวให้มีการจดจองชื่อพรรคการเมืองใหม่ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมันก็ต้องถือว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางโรดแมปเพิ่อนำไปสู่การเลือกตั้ง และนำไปสู่รัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในอนาคต
การประกาศล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยก่อนหน้านั้น ก็ยืนยันว่า จะไม่มีการคว่ำกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสองฉบับในสภานิติบัญญัติแห่งชาติอย่างแน่นอน จากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ถือว่าเป็น “ผู้มีอิทธิพล” มาก ทั้งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และในรัฐบาลก็ออกมาการันตีซ้ำให้มั่นใจอีกว่า “จะไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งอีก” โดยในปีนี้จะมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น
แน่นอนว่า คำยืนยันดังกล่าวเพื่อต้องการ “ดับอุณหภูมิร้อน” ทางการเมืองที่กำลังเริ่มไต่ระดับองศาเดือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามสภาพอากาศภายนอก แม้ว่าอุณหภูมิการเมืองที่เริ่มสูงขึ้นนั้นเป็นเพราะมีการ “ปั่นกระแส” แบบจงใจก็ตาม หากไม่เบรกเกมเสียก่อนมันก็น่าเป็นห่วงว่าอาจจะควบคุมไม่อยู่จนทำให้เสียการใหญ่ในวันข้างหน้าก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าฝ่ายผู้กุมอำนาจรัฐในปัจจุบันอย่าง คสช. ที่ออกมาการันตีเรื่องการเลือกตั้ง มีการ “กางโรดแมป” ให้เห็นเป็นฉากๆ ถือว่าเป็นการลดเงื่อนไขลงไปได้โขทีเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่กำลังใช้เด็กๆ นักศึกษาเป็นเครื่องมือออกมาเคลื่อนไหวตั้งกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” กำลังโหมโรงจัดกิจกรรมชุมนุมต่อเนื่องก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากอารมณ์และบรรยากาศแล้วยังถือว่า “จุดไม่ติด” อารมณ์จากสังคมยังไม่มี
ยิ่งฝ่าย คสช. ประกาศชัดเจนให้เลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 มันก็ไม่มีน้ำหนักที่จะไปเร่งเร้าก่อความรำคาญให้เห็นอีก เพราะเส้นทางก็ต้องเดินไปแบบนั้นอยู่แล้ว แต่หากการจัดกรรมเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเจตนาแค่ “ด่าฟรี” หรือกวนประสาท “ทั่นผู้นำ” อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่คาดหมายไว้ก่อนว่ามัน “ไม่มีพลัง” ใดๆ เลย
แต่ถึงอย่างไรในเมื่อมันเป็นหน้าร้อน อุณหภูมิการเมืองมันก็ต้องร้อนตามธรรมชาติไปด้วยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันจะสามารถเร่งเร้าให้ร้อนขึ้นได้แค่ไหน ที่ผ่านมา กลุ่มการเมืองพยายามฉวยจังหวะจากกระแส “ขาลง” ของ รัฐบาล และ คณรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะจากข่าวอื้อฉาวน่าหงุดหงิดรำคาญจากกรณีครอบครองนาฬิกาหรูของ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็โดดมาปกป้อง มันก็ทำให้ชาวบ้านพวกที่เป็น"กองหนุน"มันเสียความรู้สึก ทำให้กลุ่มการเมืองที่มองในมุมไหนมันก็เชื่อมโยงไปถึง พรรคเพื่อไทย และ ทักษิณ ชินวัตร ที่คนพวกนี้แหละที่"อยากเลือกตั้ง"มากกว่าใครเพื่อน และหากสังเกตจากความพยายาม"สร้างกระแสป่วน" โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ว่าต้องการสืบทอดอำนาจ
นาทีนี้แม้ว่าการประกาศยืนยันโรดแมปเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 สามารถลดความร้อนแรงลงไปได้มาก เป็นการ “ตัดเกม” เสียแต่ต้นมือ แต่ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป มันก็จะมีการเคลื่อนไหวแบบเลี้ยงกระแสต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนน่าจะพีคสุดก็ต้องเป็นเดือนพฤษภาคมนี้ ที่จะตรงกับวันครบรอบ 4 ปีของ คสช. ซึ่งวันนั้นก็ต้องสร้างกระแส “ต้านเผด็จการ” แต่ถึงอย่างไรในเมื่อมีการลดอุณหภูมิลงมาในระดับควบคุมได้แล้ว แม้จะร้อนก็เป็นการร้อนตามธรรมชาติไม่น่ากังวล!!