พรรคเล็กแห่จองชื่อพรรคคึกคักตั้งแต่ไก่โห่ “เสี่ยติ่ง” มาพร้อมคณะ ส่วนพรรค “ย่ายุ้ย” ทำเก๋สวมเสื้อสกรีนรูปหน้าคู่ขัดแย้ง เผยตั้งแต่เช่าถึงเที่ยงมีขอจองชื่อแล้ว 41 พรรค แต่ยังไร้เงาพรรค “สุเทพ” ด้าน กกต.เผยกลุ่มการเมืองยื่นหนังสือขออนุญาต คสช.ผ่าน กกต.ได้เลย ป้องกันเกิดปัญหาตอนระดมหาสมาชิก 500 คนจัดประชุมพรรค
วันนี้ (2 มี.ค.) เป็นวันแรกที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ผู้ประสงค์จะจัดตั้งพรรคการเมืองได้ยื่นขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองตามประกาศ คสช.ที่ 53/2560 ซึ่งก็มีกลุ่มการเมืองจำนวนมากเดินทางมารอเพื่อรับคิวการยื่นอย่างคึกคักตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดย กกต.ได้แจกบัตรคิวในเวลา 06.00 น.ซึ่งมี 21 กลุ่มการเมืองที่เดินทางมาถึงก่อนเวลา 07.30 น.จาก 30 กลุ่ม
ทั้งนี้ กลุ่มพรรคพลังชาติไทยของ พล.ต.ทรงกลด ทิพยรัตน์ ว่าที่หัวหน้าพรรคมารอคิวตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 1 มี.ค. จึงได้รับบัตรคิวเป็นกลุ่มแรก ลำดับที่ 2 คือ พรรคประชาไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคสังคมประชาธิปไตยประชาชน เป็นลำดับถัดมา
ขณะที่ พรรคเพื่อชาติไทย ของนางอัมพาพันธ์ ธนเดชสุนทร อดีตภรรยา พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้า รสช. มีว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ พรรคเพื่อชาติไทย กับคณะมายื่นจดแจ้ง ได้ขนกองเชียร์สวมเสื้อยืดสีขาวข้างหน้าสกรีนรูปของนางอัมภาพันธ์ พร้อมข้อความ “ย่ายุ้ย อัมพาพันธ์” เพื่อชาติไทย ส่วนด้านหลังเสื้อสกรีนรูปภาพหน้าของนักการเมืองที่เป็นคู่ขัดแย้ง เช่น นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมข้อความ “ปรองดอง” มาสร้างสีสัน ส่วนกลุ่มการเมืองอื่นก็มีการขนกองเชียร์มาชูป้ายและช่อดอกไม้อย่างคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับกลุ่ม กปปส.ซึ่งถูกจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากนายธานี เทือกสุบรรณ ระบุว่าจะเดินทางมาจดแจ้งขอตั้งพรรคมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ปรากฏว่าไม่เดินทางมาแต่อย่างใด ส่วนพรรคพลังพลเมืองไทยของนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ได้เดินทางมาพร้อมกับนายเอกพร รักความสุข และคณะผู้ร่วมจัดตั้ง
ขณะเดียวกัน นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต. ก็ได้เดินมาตรวจความพร้อม และกำชับให้สำนักงานอำนวยความสะดวกกับผู้มายื่นขอจดจัดตั้งการเมืองอย่างเต็มที่ รวมถึงเน้นย้ำให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย คำสั่ง คสช.อย่างเคร่งครัด
นายสมชัยกล่าวว่า ก่อนเวลา 08.30 น. มีกลุ่มการเมืองแสดงความจำนงขอจดจองชื่อพรรคถึง 30 ชื่อ ถือเป็นความตื่นตัวที่น่าสนใจที่มีประชาชนมาจับจองชื่อพรรคเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทั้ง 30 พรรคจะสามารถเป็นพรรคการเมืองได้ทั้งหมด เพราะยังมีสิ่งที่ต้องทำตามหลังจากนี้อีกหลายอย่าง การยื่นจดวันนี้จะเป็นเพียงใบเบิกทาง
“การยื่นจดวันนี้จะเป็นใบเบิกทาง ถ้าตรวจสอบคุณสมบัติของผู้จดจองชื่อแล้วไม่ครบถ้วนมีปัญหา กกต.ก็จะแจ้งกลับไปภายใน 30 วัน ซึ่งกลุ่มการเมืองมีเวลาอีก 60 วันในการแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้เรียบร้อย รวมถึง พรรคต้องทำหนังสือถึง คสช. เมื่อ กกต.ได้รับแล้วก็ต้องกลั่นกรอง ก่อนส่งไปยัง คสช.ที่จะพิจารณาว่าจะอนุมัติหรือไม่ จึงอยากให้เผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 20 วัน เช่นวันนี้ยื่นจดจองชื่อพรรคไว้เรียบร้อยแล้ว การจะขอประชุมพรรคก็น่าจะบวกเวลาไว้อีก 20 วัน ถ้าขอแบบฉุกละหุกการขออนุมัติจาก คสช.อาจทำไม่ทัน”
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมต่างๆ ที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง จะบังคับใช้ทั้งพรรคเก่าและพรรคใหม่ ว่าจะต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 500 คน มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท มีสาขาพรรค 4 ภาค และถ้าประสงค์จะส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งใดต้องมีตัวแทนในเขตจังหวัดนั้นๆ โดยต้องมีการประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง เพื่อที่จะแก้ไขระเบียบข้อบังคับของพรรคและมีการเลือกกรรมการบริหารพรรค รวมถึงการทำไพรมารีโหวต สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นปฏิทินที่ต้องเริ่มนับตั้งแต่ 1 เม.ย. และนับไปอีก 180 วัน เพื่อทำให้เกิดความสำเร็จ ในส่วนของการยื่นจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ไม่มีกรอบเวลา ตราบใดที่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 ยังประกาศใช้อยู่ แต่หากต้องการจะส่งผู้สมัครให้ทันการเลือกตั้ง ก.พ. 60 จะต้องยื่นคำขอในช่วงเดือน มี.ค.นี้ เพื่อการดำเนินการจะได้ทัน
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต.ในฐานะรักษาการเลขาฯ กกต. และนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.ด้านรับผิดชอบพรรคการเมือง แถลงว่า เบื้องต้นนายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับเอกสารและออกใบรับคำแจ้งการเตรียมการตั้งพรรคการเมือง หรือใบ พ.ก.7/1 ให้แก่กลุ่มการเมืองทั้งหมด หลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร โดยเฉพาะคุณสมบัติของผู้จดจัดตั้งที่จะเป็นสมาชิกชิกพรรค ซึ่งตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดไว้ค่อนข้างสูงกว่ากฎหมายเดิม โดย กกต.จะส่งรายชื่อผู้ ไปตรวจสอบลักษณะต้องห้ามการเป็นสมาชิกพรรคต่อ 9 หน่วยงาน ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนจะมีการออกใบหนังสือรับแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง หรือใบ พ.ก.7/2 เพื่อให้กลุ่มการเมืองไปดำเนินการในเรื่องการหาผู้ร่วมจัดตั้งไม่น้อยกว่า 500 คน ประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 250 คน รวบรวมเงินทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่ได้รับหนังสือรับแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง
ทั้งนี้ กลุ่มการเมืองสามารถยื่นหนังสือขออนุญาตดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อ คสช. ผ่านสำนักงาน กกต.ได้เลย เพื่อใช้ในขั้นตอนการหาผู้ร่วมก่อตั้ง 500 คน และการจัดประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง จะได้ไม่เกิดปัญหากระทำขัดต่อคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน หรือเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมือง โดยในใบที่ยื่นขออนุญาตนั้นจะต้องระบุประเภทกิจกรรม ห่วงเวลา สถานที่ จำนวนผู้เข้าร่วมโดยประมาณ ผู้รับผิดชอบจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง และขออนุญาตด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้มี 2 กลุ่มการเมือง ที่ได้ยื่นหนังสือขออนุญาตผ่าน กกต.แล้ว แต่การอนุญาตทาง คสช.จะแจ้งตรงไปยังพรรคการเมือง
ด้าน ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒ์ ผู้จดจัดตั้งพรรคเพื่อชาติไทย กล่าวว่า ในวันนี้นางอัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ภรรยาของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือบิ๊กจ๊อด อดีตคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ไม่ได้เดินทางมายื่นขอจดจัดด้วยตัวเอง เนื่องจากป่วย แต่นางอัมพาพันธ์จะเป็นหัวหน้าพรรคอย่างแน่นอน ซึ่งนโยบายของพรรคนอกจากเน้นในเรื่องของการพัฒนาของทุกด้าน เน้นในเรื่องของการปรองดอง ซึ่งนางอัมพาพันธ์มีความใกล้ชิดกับทหาร และการรัฐประหารจะทราบเป็นอย่างดี ดังนั้นก็เชื่อว่าตนเองจะสามารถเป็นตัวเชื่อมระหว่างพรรคที่มีตามแนวทางประชาธิปไตย และพรรคที่มีทหารคอยสนับสนุน เพื่อที่จะได้จับมือกันที่จะพัฒนาประเทศ และพร้อมที่จะสนับสนุนผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีทุกคนหากมาโดยถูกต้องตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ขณะที่นายสัมพันธ์ เลิศนุวัติ แกนนำพรรคพลังพลเมือง กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักที่ตั้งพรรคเพราะ 1. ต้องการลดความขัดแย้ง เนื่องจากเบื่อหน่ายความขัดแย้งที่มีมายาวนาน 2. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ที่คนรวย-คนจนต่างกันมาก จึงเสนอตัวเป็นพรรคคนกลางที่จะเชื่อมต่อกับทุกพรรค และไม่มีปัญหากับพรรคเก่าที่สังกัด ส่วนการจะสนับสนุนพลเรือน หรือทหารเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้งยังเร็วเกินไป ต้องดูผลหลังการเลือกตั้งก่อน
ส่วนนายเอกพร รักความสุข แกนนำกลุ่มพลังพลเมืองไทย กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่พรรคนอมินีของพรรคเพื่อไทย และยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ หรือไม่ เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ แต่จุดยืนของพรรคจะทำให้การเมืองเกิดความมั่นคงทางการเมือง
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ และนายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิทบูล เน็ตไอดอล แกนนำกลุ่มไทยศรีวิไลย์ ก็มาจดแจ้งขอตั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยยืนยันว่าพรรคไม่ได้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่สนับสนุนให้มีการปราบทุจริตคอร์รัปชัน และขอให้มีการยึดทรัพย์สินนักการเมืองที่ทุจริตโกงกินให้ตกเป็นของรัฐ และพร้อมจะสนับสนุนเลือกนายกฯจากพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงเวลา 12.00 น. ปรากฏว่ามีกลุ่มการเมืองได้เข้ายื่นขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองแล้ว 41 พรรคการเมือง