“วิษณุ” เตือนยังไม่ปลดล็อก แนะพรรคใหม่ทำกิจกรรมแจ้ง คสช.ก่อน

“วิษณุ” ระบุพรรคใหม่ประกาศหนุนคนเป็นนายกฯ ได้ แต่ยังห้ามเสนอนโยบาย แนะจะทำอะไรต้องปรึกษา คสช.ก่อน ปัดให้ความเห็น “สมชัย” ชิงเก้าอี้เลขาฯ กกต.เหมาะสมหรือไม่ เพียงเป็นคนเขียนกฎเกณฑ์เอง ชี้ “วิญญูชนคิดเองได้”

วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเปิดให้พรรคการเมืองใหม่จองชื่อจดทะเบียนพรรควันแรก ว่าพรรคการเมืองใหม่สามารถประชุมผู้ก่อตั้งพรรค 250 คนได้ เพื่อสรรหากรรมการบริหารพรรค และร่างกฎระเบียบของพรรค เมื่อร่างเสร็จจะต้องดำเนินการจดทะเบียนพรรค แต่ระหว่างนี้หากจะประชุมพรรคจะต้องขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อน โดยใช้ช่องทางขออนุญาตผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ทำหน้าที่สอดส่องดูแลก่อนจะส่งให้ คสช.พิจารณา ซึ่ง คสช.จะพิจารณาเป็นกรณีไป

นอกจากนี้ คสช.จะดูการเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ให้เกินขอบเขต เพราะยังไม่ได้ปลดล็อกให้มีการจัดกิจกรรมทางการเมือง ส่วนที่บางพรรคประกาศสนับสนุนบุคคลต่างๆ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนายกฯแล้วนั้น เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เพียงแต่จะยังไม่สามารถเสนอนโยบายของพรรคได้ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ตนตอบไม่ถูกว่า พรรคการเมืองที่จดทะเบียนใหม่จะสามารถเคลื่อนไหวได้มากน้อยแค่ไหน แต่ให้ถือหลักว่า ถ้าจะทำอะไรให้แจ้ง คสช.ไว้ก่อน

นอกจากนี้ เขากล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ จะสามารถนำเข้าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในครั้งหน้าได้เลยหรือไม่ ว่ายังไม่ทราบ เพราะตนยังไม่เห็น ทราบแต่ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรัฐบาลสามารถพิจารณาอะไรเพิ่มเติมได้หรือไม่ ถ้ามีการส่งร่างกฎหมายมา นายวิษณุกล่าวว่า มีสิทธิ เพราะรัฐบาลเป็นเซ็นออกกฎหมาย สามารถปรับปรุงหรือแก้ไขได้ เพียงแต่ต้องมีการพูดคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน

นายวิษณุยังกล่าววถึงกรณีมีการวิจารณ์ถึงนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สมัครลงชิงเก้าอี้เลขาธิการ กกต. ทั้งที่เป็นผู้ยกร่างระเบียบกฎเกณฑ์การสมัครเอง จะถือว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ ว่า ตนไม่รู้ คงไม่น่าจะเป็นข้อห้ามอะไร เพราะตอนเขียนคงไม่ได้เขียนสำหรับตัวเอง เป็นการเขียนไปตามหน้าที่ จึงคิดว่าไม่ขัดกัน อย่างเช่น ส.ส.และ ส.ว. เขาก็เขียนและพิจารณากฎหมาย แต่พอถึงเวลาเขาก็ลงสมัครก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้น เราต้องแยกให้ออกว่าอะไรเป็นเรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม และอะไรเลยขั้นของกฎหมาย อะไรเป็นเรื่องที่ผิดรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วกรณีนี้เหมาะสมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมไม่ตอบ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ หมายความว่า วิญญูชนพึงรู้ได้ด้วยตนเอง คนอื่นหาควรไปรู้แทนไม่”

ถามว่า แสดงว่านายสมชัยควรรู้ได้ด้วยตนเองใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่รู้ ผมสวดมนต์ให้ฟัง แล้วไปคิดเอาเอง”

เมื่อถามอีกว่า มีการเตรียมรับมือกรณีที่ กกต.จะเหลือเพียง 3 คนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หายไปสักคน เอาไว้ให้รู้ชัดก่อนว่าหายไป กฎหมายมีทางออกอยู่ แต่หากอธิบายไปตอนนี้เสียเวลาเปล่า ให้เป็นที่สมมติกันไปมากมาย บางคนเที่ยวไปวิตกจริต และไปตกใจเสียก่อนแล้วลงมือด่าก่อนเลยวุ่นวาย ถึงเวลา ปัญหาก็แก้ของมันได้

เมื่อถามว่า กฎหมายมีช่องให้แก้ไขได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ใช่ ถึงจะลาออกหมดทั้ง 5 คนก็แก้ไขได้”