รองโฆษก ปชป.จี้ กสทช.-รัฐบาลรณรงค์ให้ความรู้ ปชช.รับมือเทคโนโลยี 5G หวั่นซ้ำรอยทีวีดิจิตอล เสนอใช้เชิงรุกด้านปฏิรูปการศึกษา การแพทย์ การรักษาเพื่อการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน
วันนี้ (25 ก.พ.) นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กล่าวว่า ปี 2561 เป็นปีที่ กสทช.จะต้องเริ่มต้นในการที่สัมมนาให้ความรู้ กับภาคส่วนต่างๆ ในการที่จะเตรียมการเตรียมตัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจากคลื่นโครงข่าย 4G มาเป็น 5G ก่อนจะทำการประมูลแข่งขัน ความสำคัญของเทคโนโลยี คือ คนไทยใช้ชีวิตให้ความสำคัญอยู่บนโลกของการใช้อินเทอร์เน็ต IOT (Internet of Things) อยู่กับอินเทอร์เน็ตอยู่กับสมาร์ทโฟนประจำวันโดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงต่อคนต่อวัน สิ่งที่อยากเห็นคือ นายกรัฐมนตรีในรัฐบาล กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือว่ากระทรวง ICT เดิมนั้น รวมทั้ง กสทช.เร่งให้ความรู้ ความเท่าทันเทคโนโลยี จัดสัมมนาเร่งรณรงค์ให้ความสำคัญปูพื้นฐานในการเปลี่ยนจาก 4G เป็น 5G กระตุ้นให้ประชาชนมีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนเทคโนโลยีให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเหมือนกับกรณีของทีวีดิจิตอล
“5G เป็นเทคโนโลยีมีสมรรถณะ มีความเร็ว มีความเสถียรสามารถที่จะใช้แพลตฟอร์มต่างๆ โดยผ่านสมาร์ทโฟนได้เร็วมากกว่าเดิมไม่ต่ำกว่า 30 เท่าโดยทั่วประเทศมีความเท่าเทียมกัน และหลังการเปิดบริการ เท่ากับว่าเทคโนโลยี 5G จะกลายเป็นสิ่งที่จะมาปฏิรูปการศึกษา สังคม เศรษฐกิจการเมือง สาธารณสุข การแพทย์ได้ ดังนั้นรัฐบาลควรวางแผนโดยใช้เทคโนโลยีนำทางการปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงสังคมด้านนี้”
นางมัลลิกากล่าวว่า ปัจจุบันโครงการฟรีไวไฟทั่วประเทศรัฐบาลยังไปไม่เต็มที่ไม่มีความเสถียรและไม่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งที่การตั้งต้นโครงการนี้เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 นั้นเป็นการตั้งต้นโครงการไว้เพื่อการปฏิรูปการศึกษาความรู้ประชาชน น่าเสียดายที่รัฐบาลต่อๆ มาสานต่อโครงการได้ไม่ตรงตามสเปคทีีประชาชนจะได้ใช้
ดังนั้น เมื่อเปิดประมูลเทคโนโลยี 5G เท่ากับว่าจะมีบริษัทเอกชนเข้ามาบริหารจัดการซึ่งจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายของประชาชนเหมือนกับที่ package โทรศัพท์แพงขึ้นจากเทคโนโลยี 4G ที่เราใช้กันขณะนี้ ทุกอย่างกลายเป็นผลประโยชน์ของเอกชนและควบคุมได้ยากมาก จึงขอเสนอรัฐบาลไม่ควรมองเฉพาะด้านการจัดหารายได้อย่างเดียว แต่ภาคส่วนหนึ่งควรวางแผนใช้ประโยชน์สำหรับการปฏิรูปการเรียนการสอนการศึกษา การปฏิรูปการเข้าถึงแพทย์ การเข้าถึงการรักษาจากคนทางไกลได้อย่างไรไม่ควรเอื้อประโยชน์ใครแล้วทำให้ประชาชนเสียโอกาสไปเพราะคลื่นเทคโนโลยีที่มีเป็นสมบัติของชาติ ประชาชนควรได้ใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน