xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ปรับงบฯ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ศก.ปี 61 แผน 5 จังหวัด 131 ล้าน ลดค่าศึกษาสถานีขนส่งสินค้าภาคเหนือ 31 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” ปรับงบฯ บูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืน ศก.ประเทศ ปี 61-ปรับลดค่าจ้างศึกษาออกแบบ “สถานีขนส่งสินค้าภาคเหนือ” 31 ล้าน เหลือ 27 ล้าน พร้อมชะลอ 5 โครงการสถานีขนส่งสินค้าที่ไม่คุ้มค่า-ปรับแผนลงทุน จ.นครนายก ซื้อเครื่องสร้างกล้ามเนื้อคนชรา 17 ล้าน เป็นจัดซื้อครุภัณฑ์การแพทย์-เปลี่ยนงบ จ.นนทบุรี สร้างเขื่อนริมเจ้าพระยา 49 ล้าน เป็นเพิ่มศักยภาพ รพ.พระนั่งเกล้า 13 รายการ-ปรับโครงการเมืองปากน้ำ วงเงิน 44 ล้าน อุตรดิตถ์ 15 ล้าน รวม 5 จังหวัด 131 ล้าน

วันนี้ (21 ก.พ.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ได้จัดทำแบบรายงานการขอปรับแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบปประมาณ เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ กรณีแผนงานที่กระทบต่อเป้าหมายและสาระสำคัญของโครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม โดยปรับจากโครงการเดิม “การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการค้าการลงทุนภาคเหนือ” โดยเป็นกิจกรรมพัฒนาโครงสร้างพื้นที่และระบบลอจิสติกส์ เพื่อจ้างศึกษาวางแผนและออกแบบสถานีขนส่งสินค้าเมืองหลักภาคเหนือ (เชียงใหม่ นครสวรรค์ พิษณุโลก) วงเงิน 31,716,700 บาท โดยปรับลดงบประมาณโครงการดังกล่าว 4,238,800 บาท เหลือวงเงิน 27,477,900 บาท

“โครงการนี้ฝ่ายเลขานุการ ระบุว่า เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์โครงการสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจกรรมของรัฐ พ.ศ. 2556 โดยผลการศึกษาระบุว่า มีโครงการสถานีขนส่งสินค้า จำนวน 5 แห่ง (นครสวรรค์ ตราด อุบลราชธานี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี) ควรมีการเลื่อนเปิดให้บริการหรือให้ชะลอโครงการ เพราะจะเกิดความไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน”

แหล่งข่าวจากทำเนียบฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเห็นชอบปรับแผนงบประมาณ โครงการในส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย โครงการของ จ.นครนายก ได้แก่ โครงการพัฒนาสังคมและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อจัดซื้ออุกรณ์ออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อให้กับผู้สูงอายุ รวมถึงการก่อสร้างและต่อเติมห้องน้ำและทางลาดชันสำหรับผู้สูงอายุ วงเงิน 17,179,100 บาท โดยปรับให้เป็นโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพ จ.นครนายก เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อเป้าหมายผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส (ระบบบริการจักษุแพทย์ ทันตกรรม และกายภาพบำบัด รวมถึงวัยแรกเกิดและกลุ่มผู้ที่มีภาวะฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ โดยปรับลดงบประมาณโครงการดังกล่าว 10,000 บาท เหลือวงเงิน 17,169,000 บาท

“ฝ่ายเลขานุการบอกว่า โครงการนี้เป็นรายการเดียวกับงบประมาณที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข แต่จังหวัดยังมีความจำเป็นเนื่องจากยังมีความขาดแคลนครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลประชาชนและผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้ประชาชนใน จ.นครนายก ได้รับบริการขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ทั้งนี้ นายกฯ ยังเห็นชอบโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณโครงการของ จ.นนทบุรี โดยเปลี่ยนงบฯ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดไทรม้าเหนือ อ.เมืองนนทบุรี โดยเป็นงบฯ ค่าจัดซื้อที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ความยาว 197 เมตร วงเงิน 49,000,000 บาท โดยปรับโอนงบเป็น โครงการขยายพื้นที่ให้บริการและเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี โดยปรับให้มาเป็นงบลงทุน 13 รายการ วงเงิน 49,000,000 บาท เช่น จัดซื้อครุภัณฑ์ เตียงผู้ป่วยระบบไฟฟ้า 3 เตียง วงเงิน 390,000 บาท เครื่องส่องหลอดลม 1 ชุด 30,000 บาท เตียงผ่าตัดทั่วไประบบไฟฟ้า 2 เตียง 5,200,000 บาท เตียงผ่าตัดศัลยกรรมกระดูกสันหลัง 1 เตียง 3,090,000 บาท โคมไฟผ่าตัดขนาดใหญ่ 3 ชุด 4,350,000 บาท เครื่องจี้ห้ามเลือดและเนื้อเยื่อ 3 เครื่อง 1,350,000 บาท

เครื่องดมยาสลบพร้อมเครื่องช่วยหายใจ 3 เครื่อง 4,500,000 บาท ระบบโทรศัพท์ 2,000 เลขหมาย 6,000,000 บาท ลิฟท์ขนเตียงคนไข้ น้ำหนัก 1 พันกิโลกรัม 1 ชุด 4,620,000 บาท เครื่องสำรองไฟฟ้า 10 KVA 28 เครื่อง 8,271,200 บาท แผงควบคุมระบบจ่ายไฟฟ้า ขนาด 10 KVA 12 ชุด 4,183,200 บาท และ แผงควบคุมระบบจ่ายไฟฟ้า ขนาด 8 KVA 16 ชุด 4,183,200 บาท ฝ่ายเลขานุการระบุว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รับจัดสรรงบฯโครงการนี้แล้ว ถือว่าเป็นการซ้ำซ้อน ขณะที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าอยู่ระหว่างขยายพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยใน จ.นนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียงยังขาดครุภัณฑ์ โดยสำนักงานสาธารณสุข จ.นนทบุรี จะดำเนินการ

นายกฯ ยังเห็นชอบปรับโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณโครงการของ จ.ลพบุรี โครงการปรับภูมิทัศน์และสิ่งอำนวยความสะดวกโบราณสถาน อ.เมืองลพบุรี (ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด วัดนครโกษา) โครการจัดสร้างที่จอดรถซุ้มประตู ทางเชื่อมโบราณสถาน ต.ท่าหิน วงเงิน 6,930,000 บาท โดยปรับให้มาเป็นงบ โครงการพัฒนาสังคมและยกระดับความเป็นผู้ของประชาชน เพื่อพัฒนาระบบบริการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 5 รายการ วงเงิน 6,930,000 บาท

ประกอบด้วย จัดซื้อเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ดิจิตอล 300 mA. 1 เครื่อง 5,150,000 บาท เครื่องช่วยปั๊มและฟื้นคืนชีพ 1 เครื่อง 1,000,000 บาท เครื่องช่วยหายใจ 1 เครื่อง 450,000 บาท เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพอัตโนมัติ 1 เครื่อง 150,000 บาท และ เครื่องควบคุมการให้สารน้ำทางสายเลือด 3 เครื่อง 180,000 บาท ทั้งนี้ โครงการเดิม สำนักศิลปากรที่ 4 ขอยกเลิกโครงการ เนื่องจากมีปัญหาพื้นที่ดำเนินการ และได้บรรจุลงในแผนภาคแล้ว

สำหรับโครงการของ จ.สมุทรปราการ มีการโอนเปลี่ยนแปลง โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก เลียบคลองเทวะ-คลองตรงฝั่งเหนือ เชื่อมต่อสะพานข้ามคลองหนองงูเห่า กว้าง 12 เมตร ระยะทางรวมไม่ต่ำกว่า 1.1 กิโลเมตร หมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.บาพลี วงเงิน 44,492,000 บาท ปรับโอนให้โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายคลองบางคา ถึงถนนคลองบางปลา อ.บางพลี ผิวจราจรกว้าง 8 เมตร ยาว 1,815 เมตร พร้อมสะพาน ศสล.2 แห่ง ข้ามคลองบางปลา วงเงิน 44,492,000 บาท โดย ฝ่ายเลขานุการ ระบุว่า โครงการใหม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะผิวจราจรเริ่มหมดอายุ เกิดหลุมบ่อ โครงสร้างผิวถนนชำรุด บางจุดเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย

นอกจากนี้ยังเห็นชอบปรับเปลี่ยนโครงการของ จ.อุตรดิตถ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ เพื่อก่อสร้างภูมิสถาปัตย์และประติมากรรมตำนวนเมืองลับแล วงเงิน 15,000,000 บาท โดยปรับเป็นงบจัดกิจกรรมเปิดตำนานเมืองลับแล วงเงิน 15,000,000 บาท โดยจังหวัดขอจัดกิจกรรม 2 ครั้งใน 1 ปี ในห้วงครึ่งปีแรกขอจัดสรร 8.5 ล้านบาท และห้วงครึ่งปีหลังขอจัดสรร 6.5 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น