เมืองไทย 360 องศา
ต้องยอมรับว่าคำทำนายของโหรชื่อดังอย่าง “ฟองสนาน จามรจันทร์” ที่ทำนายดวงชะตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และดวงเมืองปี 2561 เอาไว้อย่างน่าสนใจ และที่สำคัญ เป็นการทำนายกันราวกับว่า “ทำโพล” มาไม่มีผิด รวมไปถึงจับอารมณ์ความรู้สึกของสังคมก็ไม่ปาน
เอาเป็นว่า จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือใช้อะไรสำหรับการทำนาย แต่ถือว่าเป็นคำทำนายที่น่าสะท้อนความจริงได้อย่างน่าสนใจ เช่น เธอกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เคยทำนาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งที่เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้าควบคุมอำนาจการปกครอง เมื่อปี 2557 ว่า “อาถรรพ์ดวงเมือง” คือ ทหารจะคอยปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่อย่ามายุ่งการเมืองนาน เพราะจะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ อำนาจ เงินตรา และ ราตรี ถ้าจะล้างอาถรรพ์ทหารจะอยู่นาน ต้องไม่มีผลประโยชน์ส่วนตนไม่ยึดติดอำนาจ
“ดวงนายกฯมีปัญหาดวงแตก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 เป็นไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 พวกที่เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิต มีส่วนได้เสียร่วมปฏิวัติด้วยกันมา พี่น้องทั้งหลายทำให้นายกฯมีปัญหา ท่านดวงแตก ชะตาแตก เพราะหุ้นส่วนทั้งหลายของท่าน เราเข้าใจ เป็นทหารเคยรบด้วยกันมา ทหารเขาไม่ทิ้งศพเอาไว้ในสมรภูมิ เราเข้าใจและเห็นใจท่าน” คำพูดบางตอนของ ฟองสนาน จามรจันทร์ โหรชื่อดังระบุ
ได้เห็นคำทำนายของโหรดังกล่าวแล้วถึงได้บอกว่า “แม่นเกินคำบรรยาย” ทำนายเหมือนกับตาเห็นเลยทีเดียว เพราะหากบอกว่านี่ไม่ใช่ใช้ศาสตร์แห่งโหรใดๆ ทั้งสิ้น แต่นี่คือการใช้หลักวิเคราะห์ทางการเมืองก็คงต้องเชื่อและเห็นตรงกันแบบไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะหากพิจารณากันตามความเป็นจริงพิจารณาจากโพลหรือผลสำรวจหลายสำนักในระยะหลัง ก็ต้องบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังมีความนิยมลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้หรือปีก่อนๆ
สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนใหญ่ก็มาจากความศรัทธาที่ลดลงจากความผิดหวังในเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง เงินในกระเป๋าน้อยลงแบบชักหน้าไม่ถึงหลัง ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การปฏิรูปหลักๆ ที่ชาวบ้านต้องการไม่มีความคืบหน้า หรืออาจจะคืบหน้าในความหมายของพวกเขาแต่ไม่ใช่เป็นไปตามที่ชาวบ้านต้องการ เช่น การปฏิรูปตำรวจ เป็นต้น
แต่เรื่องใหญ่ที่สุดที่ทำให้ชาวบ้าน “เสื่อมศรัทธา” มากที่สุดปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะประกาศว่า จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตในรัฐบาลนี้เป็นอันขาด รวมไปถึงการประกาศเรื่องการปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติแล้วก็ตาม แต่คำถามก็คือ จะมีคนเชื่อแบบนั้นสักกี่คน ถามว่ามีใครเชื่อว่าการทุจริตในรัฐบาลชุดนี้ลดลง อาจเป็นไปได้ที่ในช่วงแรกๆ ที่ชาวบ้านมีความรู้สึกแบบนั้น แต่ในระยะหลังกลับออกมาเป็นตรงกันข้าม เพราะมีเสียงวิจารณ์ว่าหนักข้อขึ้นกว่าเดิม
มีเสียงนินทา กล่าวหาว่า การทุจริต การใต้สินบนใต้โต๊ะกลับมากกว่าเดิม เพราะต้องจ่ายเพิ่มอีกอีกหลายหน่วยงาน หรือมีบุคคลที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน จากปัญหาบรรดา “เพื่อนพ้องน้องพี่” ที่เป็น “เครือข่ายอำนาจ” ที่โหรดังอย่าง ฟองสนาน จามรจันทร์ ทำนาย มันก็เหมือนกับอารมณ์เดียวกันกับสังคมไม่มีผิด โดยเฉพาะเวลานี้สังคมกำลังตั้งคำถามกับ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีลักษณะถูกสังคมจับตามองในลักษณะ “สีเทา” เป็นลักษณะที่สร้างภาพในทางลบกับรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับยืนยันที่ “อุ้ม” สุดตัว มีการ “การันตี” ความบริสุทธิ์ผุดผ่องให้แทน มิหนำซ้ำ ยังย้ำอีกว่า “จะต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้กันตลอดไป” ซึ่งก็สร้างความสับสนให้กับสังคมความสุจริตโปร่งใสในทัศนะของนายกรัฐมนตรีเป็นแบบไหนกันแน่
เพราะในทางการเมืองนั้นมาตรฐานทางจริยธรรมนั้นย่อมต้องสูงกว่าคนอื่น เพราะเพียงแค่สงสัยเท่านั้นก็ไม่ได้ และที่สำคัญ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไรก็ตามยังถือว่าเป็นนักการเมืองอยู่ดี อยู่ในตำแหน่งทางการเมือง
เสียงวิจารณ์ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงที่ผ่านมา พุ่งเป้าไปที่เขาในทางลบแทบทุกเรื่อง ล่าสุด ที่มีปัญหากับเรื่อง"มาตรฐานการตรวจสอบ"และจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจากกรณี “แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน” โดยเฉพาะนาฬิกาหรูที่ล่าสุดโผล่ออกมาให้ตรวจสอบกันนับสิบเรือนกำลังเป็นที่จับตามองว่าจะจบลงแบบไหน และที่สำคัญ กำลังถูกจับตามองว่าจะส่งผลกระทบไปถึงองค์กรตรวจสอบอย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ เพราะประธาน ป.ป.ช. คนปัจจุบัน คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นอดีต “ลูกน้องเก่า” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่นเอง
อีกทั้งล่าสุด สดๆ ร้อนๆ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งก็ถูกมองว่าส่วนใหญ่ก็เป็นเครือข่ายของ “พี่ใหญ่” คนนี้แทบทั้งหมดโหวตผ่านร่างกฎหมาย ป.ป.ช. ฉบับแก้ไขให้ต่ออายุ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ และกรรมการป.ป.ช. อีกบางคนที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญให้ยกเว้นอยู่ต่อจนครบวาระ 9 ปี
หลายกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวมันคือสาเหตุทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ดวงแตก” ตามที่โหรดังทำนายเอาไว้หรือเปล่า แต่ในทางการเมืองถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะต่อให้แข็งแรงมั่นคงแค่ไหนก็ตาม หากความศรัทธาถดถอยลงเรื่อยๆ โอกาสที่จะพังครืน หรือพลิกไปอีกทางมันก็เป็นไปได้ตลอดเวลา!!