xs
xsm
sm
md
lg

พท.จี้ คสช.ปลดล็อกการเมือง ดัก ป.ป.ช.อย่าเลือกปฏิบัติ หนุนให้โอกาส กกต.ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
รักษาการหัวหน้า พท.รับกังวล คสช.ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง เกรงตรวจสอบทะเบียนสมาชิกไม่ทัน กระทบไพรมารีโหวต ป้องประธาน ป.ป.ช.เป็นคนดี แต่ต้องมาตรฐานเดียวกันกรณี “ประวิตร” อย่าเลือกปฏิบัติ “อนุสรณ์” บี้ปลดล็อก ทบทวนคำสั่ง คสช.ขัด รธน. ขอให้โอกาส กกต.ใหม่ ให้ดูที่ผลงาน

วันนี้ (10 ธ.ค.) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคฯ นำพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ทั้งนี้ พล.ต.ท.วิโรจน์แสดงความกังวลถึงคำสั่งของรัฐบาล คสช.ฉบับที่ 7 และ 57 ที่ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง ขัดต่อกฎหมายลูกที่กำหนดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมต่างๆ ภายในกรอบ 90 วัน และ 180 วัน มิฉะนั้นจะมีผลให้พรรคไม่ได้รับเงินสนับสนุน และไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งปีหน้า ขณะเดียวกันประชาชนก็จะไม่มีเวลาในการตัดสินใจ

ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ประสานไปยังนายทะเบียนกลางเพื่อทำเอกสารข้อมูลสมาชิกพรรคตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามแล้ว แต่ยังไม่สามารถลงไปพบปะสมาชิกซึ่งมีจำนวนกว่า 130,000 คน เกรงว่าหากไม่สามารถตรวจสอบทะเบียนสมาชิกพรรคได้ทันจะกระทบต่อการทำไพรมารี่โหวตด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวถึงการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในกรณีแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยในตัว พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ว่ามีความสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร ว่าส่วนตัวไม่ทราบว่าประธาน ป.ป.ช.สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร แต่เท่าที่เคยร่วมงานกันมาไม่มีข้อสงสัยในตัวประธาน ป.ป.ช.เพราะมองเป็นคนดี และมีความยุติธรรม แต่อย่างไรก็ตามขอให้ทำงานในมาตรฐานเดียวกัน อย่าเลือกปฏิบัติ หรือดำเนินการแค่บางกรณี เพื่อความโปร่งใส จึงจะสามาสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประชาชนต่อ ป.ป.ช.ได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญว่า วันนี้คนไทยทั้งประเทศไม่เฉพาะฝ่ายการเมืองและประชาชนที่มีคำถามในฐานะเจ้าของประเทศ เมื่อรัฐธรรมนูญมีการประกาศใช้และผ่านการทำประชามติแล้วก็ควรจะถึงเวลาที่ คสช. รัฐบาล เครือข่ายแม่น้ำ 5 สายต้องคิดว่า เมื่อมีรัฐธรรมนูญที่ถือเป็นกฎหมายสูงสุดแล้ว คำสั่งหรือประกาศใดๆ ของ คสช.ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ควรพิจารณาทบทวนและยกเลิกไป รัฐธรรมนูญปัจจุบันผ่านการประชามติ จึงถือว่าคนไทยทั้งประเทศผ่านความเห็นชอบ เมื่อเปรียบกับประกาศหรือคำสั่ง คสช.ซึ่งเป็นกระบวนการของคนเพียงคนเดียว ดังนั้นก็ต้องทบทวนว่าคำสั่งนั้นเป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงพรรคการเมืองและประชาชนด้วย

สำหรับกรณีที่ กกต.ชุดใหม่บางคนเคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ จะห่วงเรื่องความเป็นกลางหรือไม่นั้น นายอนุสรณ์กล่าวว่า ความสงสัยของประชาชนสามารถเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยในฐานะสถาบันทางการเมืองไม่ได้มองว่ากติกาเป็นอย่างไร หรือใครจะเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมดูแล แต่คิดว่าเวลานี้ทุกฝ่ายควรให้กำลังใจกับทุกภาคส่วนที่จะเข้ามา ดังนั้น ข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติเพื่อนำไปสู่การร้องให้ตรวจสอบ เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวอาจนำไปสู่การเชื่อมโยงลากยาวออกไป กลายเป็นผลเสียหรือผลกระทบต่อผู้ที่ร้อง ทั้งนี้ กกต.มีหน้าที่ในการทำงานด้วยความสุจริตยุติธรรม เมื่อวันนี้ยังไม่ได้ทำงานทุกคนควรให้โอกาส และผลงานจะเป็นสิ่งการันตีว่าวิธีคิดและจุดยืนเป็นอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น