นายกฯ ขอทุกคนปรับตัวเปลี่ยนลดพื้นที่ปลูกยาง หันปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น ไม่แก้ตัวปัญหาน้ำท่วม เพียงแต่ต้องแก้ให้มีปัญหาน้อยที่สุด ลั่นที่สั่งเตรียมพร้อมรับมือต้องทำ ย้อนบอกไม่โง่ให้คนทำประมงตอนน้ำท่วม ย้ำเตรียมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำแล้ว
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ศูนย์ประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวต่อประชาชนว่า ทั้งใน 3 ประเทศที่ปลูกยางเข้าปรับหมดแล้ว มีแต่ของเราที่ยังปลูกยางในพื้นที่เท่าเดิม มากกว่าเดิม ไปเรื่อยๆ ต้องปรับตัว เพราะเราเจรจาไม่รู้กี่รอบแล้ว ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น ที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่มาก ต้องคิดถึงต้นทุนผลิต และในการแปรรูปด้วย อย่ามองว่ากำไรมาก กำไรน้อย ถ้าสมมติพื้นที่ไหนได้คุณภาพไม่เท่ากัน มีการรวมกลุ่มแล้วไปโรงงานแล้วหารเฉลี่ยออกมา ฝากไว้เป็นแนวคิด ต้องศึกษารอบบ้านเราด้วย อย่างเวียดนาม มาเลเซีย อย่างจีนก็ปลูกมากขึ้นมา 7 ปีแล้ว ดังนั้นอย่าไปหลงเชื่ออะไรทั้งสิ้น เอาข้อมูลที่ตนพูดเพราะพิสูจน์ได้ ไม่ใช่พูดแต่ปากอย่างเดียวไม่ได้
วันนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชทำอย่างไรเอาศักยภาพมาใช้เต็มที่ เป็นจังหวัดที่มีรายได้สูงลำดับที่ 20 ของประเทศ เกินครึ่งปลูกยางพารา ภาคอีสานปลูกเข้าไปอีก แล้ววันหน้าจะแข่งกันอย่างไร ต้นทุนเขาถูกกว่าไหม เกิดช่องว่างระหว่างการขายกับต้นทุน จะแข่งกันอย่างไร ต้องลดลงให้ได้ และต้องมีแผนสำรองปลูกผลไม้เพิ่มในสวนยาง หรือไปเลี้ยงแกะ เลี้ยงแพะ นี้คือสิ่งที่รัฐบาลคิด แต่ไปบังคับท่านไม่ได้ ท่านต้องสมัครใจ ทั้งเรื่องพืชเศรษฐกิจ ยาง ปาล์ม ไม้ผล ทุเรียน มังคุค เงาะ ต้องวางวงจรการผลิตแต่ละปี และถ้ารอพืชเศรษฐกิจอย่างเดียว อย่างเช่นปลูกข้าวไว้รอขาย ราคาก็ได้เท่านี้ ต้องปลูกพืชที่ขายได้ทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี นี่คือศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนถือมาเยี่ยมเยือนก่อนเกิดเหตุการณ์ ในช่วงที่ผ่านมาเดือนที่แล้วเกิดเหตุมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ตนได้ไปเยี่ยมมาแล้วหลังการปรับปรุงแก้ไข แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีน้ำมากลงมา ต้องเข้าใจตรงนี้ ไม่ใช่ใครเก่ง ใครผิด ใครถูก ไม่ใช่เลย ซึ่งบอกให้ทราบเหตุผลแล้วว่าคืออะไร แก้ตัวไม่ได้ ต้องแก้ไขไปให้ปัญหาน้อยที่สุด วันนี้สิ่งที่เราเตรียมความพร้อมมีหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อม แผนเผชิญเหตุ แผนในพื้นที่ การอพยพ ทั้งสัตว์ทั้งคนไปอยู่ที่ไหน ฝากไว้ด้วยนะนายอำเภอ ท้องถิ่นเขาแจ้งมาเตรียมพื้นที่ไว้ตรงไหน ถ้าเรากระจายไปไม่ได้หรอก เพราะพื้นที่ตั้งเท่าไหร่ ต้องรู้ไว้ก่อน ไม่ใช่พอถึงเวลาไม่รู้เรื่อง ถ้าตนสั่งแล้วต้องทำ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เป็นการเตรียมการในพื้นที่ในแผนต่างๆ ทั้งมหาดไทย ปภ. กระทรวงเกษตรฯ คสช. ทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เขาแบ่งความรับผิดชอบหมดแล้วในพื้นที่ คมนาคมเตรียมหมดในเรื่องของเส้นทาง ระบบเตือนภัย โดยเฉพาะพื้นที่น้ำป่าไหลหลาก ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวเราต้องทำให้มีคนท่องเที่ยวมากกว่าเดิม ไม่ใช่รวยแล้วเลิก ท้องถิ่นต้องพร้อม จัดระเบียบในสถานที่ท่องเที่ยวประเภทต่างๆ งบประมาณส่วนหนึ่งลงไป และงบประมาณหนึ่งขอขึ้นมา ต้องเติมให้เต็มทั้งหมด ต้องเป็นแบบนี้ และต้องเป็นการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันในแต่ละจังหวัด รวมถึงโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่าให้ใครมาบิดเบือน ถ้าเราไม่คิดแบบนี้ มันไปไม่ได้ เอาเงินมาทุ่มข้างล่างอย่างเดียวไม่ได้ แต่ข้างบนไม่เกิดอะไร มันก็ทรงตัวไปเรื่อยๆ
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องประมงเหมือนกันตนคงไม่ฉลาดน้อยให้ทำประมงตอนน้ำท่วม แต่ให้โตสู่ธรรมชาติไปพอถึงเวลาก็มีปลามาขายกินกัน ชาวประมงเขาคิดอย่างนี้ ไม่ใช่กลายเป็นบิดเบือนว่าตนโง่หรือเปล่าเลี้ยงปลาในน้ำท่วม เลี้ยงปลาในกระชัง ตนไม่ได้บังคับปลาในกระชัง แต่เป็นปลาธรรมชาติ กบ หอย ปู ปลา และวันนี้เขาก็มีครีมจากเมือกหอยทาก กิโลกรัมละ 40,000 บาท แต่เราปลูกข้าว ปลูกยาง ได้เงินไม่ถึง นี่คือความแตกต่างในการหาวิธีการหาทางเลือกใหม่ เพิ่มการแปรรูป แต่จะเลิกปลูกข้าวปลูกยางไม่ได้ ต้องหาอย่างอื่นเพิ่มเติม
นายกฯ กล่าวว่า พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยต้องเตรียมการให้พร้อม เอาข้อมูลปี 59 มาดูแก้ปี 60 ปรับแผนบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ การพร่องน้ำ และให้ข้อมูลสำคัญพื้นที่เสี่ยง ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เรื่องแก้มลิงก็จำเป็นต้องขอความร่วมมือ ขอย้ำว่าเรื่องมาตรการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกหน่วยงานมีแผนระเบียบการช่วยเหลืออยู่แล้ว สิ่งที่เราวางไว้คือการซ่อมแซมถนนต่างๆ ระบบไฟฟ้า ระบบประปา สาธารณูปโภค การดูแลภาคเกษตรกรที่เสียหายสิ้นเชิงกับเสียหายบางส่วนก็เตรียมไว้แล้ว รวมถึงภาคประมง สถานที่ราชการทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานตลอดเวลาที่นายกฯกล่าวกับประชาชนบนเวทีฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนน้ำท่วมขังในพื้นที่เต้นท์ของประชาชน ขณะที่ในช่วงท้ายฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก แต่นายกฯยังคงกล่าวกับประชาชนบนเวที พร้อมกล่าวด้วยว่า “ผมก็เปียกเหมือนกันนะเนี่ย ผมก็เปียกเหมือนท่าน เจ็บป่วยเหมือนท่าน ไม่ใช่คนพิเศษ แต่ผมก็แข็งแรง” พร้อมถามประชาชนด้วยว่าสู้ไหม สู้ไม่สู้ ซึ่งประชาชนพร้อมกันตอบว่า “สู้” นายกฯ จึงกล่าวว่า “ตกมา จะแค่ไหนกัน ฝนมีแต่น้ำลงมา แต่เรามีมือ มีเท้า มีสมอง”