xs
xsm
sm
md
lg

หน.คสช.สั่งตั้งสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้ขึ้นตรงนายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราชกิจจานุเบกษา เผยคำสั่งหัวหน้า คสช. 46/2560 ตั้งสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้ขึ้นตรงต่อนายกฯ มีอํานาจจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราว กรณีมีเหตุฉุกเฉิน

วันนี้ (25 ต.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เปิดเผยคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 46/2560 เรื่อง การจัดตั้งสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยระบุว่า เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นไปอย่างบูรณาการ มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนตามแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านเศรษฐกิจ และด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภาวะที่ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งในบางครั้งและปัญหาอุทกภัยในบางฤดู แม้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ดําเนินการอยู่ จะมีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงในด้านการปฏิบัติการ แต่ก็ยังมิอาจดําเนินการข้ามหน่วยงานในลักษณะบูรณาการข้อมูล แผนงานหรือโครงการ งบประมาณและการติดตามประเมินผลในเชิงนโยบายและการวางแนวทางกํากับ ควบคุมการปฏิบัติการ จึงจําเป็นต้องจัดโครงสร้างองค์กรขึ้นใหม่อย่างน้อยก็ในระยะเริ่มแรกซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปดังกล่าว

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 100/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 6 สํานักนายกรัฐมนตรี มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี รับผิดชอบการบริหารราชการทั่วไป เสนอแนะนโยบายและวางแผนการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคง และราชการเกี่ยวกับการงบประมาณ ระบบราชการการบริหารงานบุคคล กฎหมายและการพัฒนากฎหมาย การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการ การส่งเสริมการลงทุน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา การปฏิบัติภารกิจพิเศษและราชการอื่นตามที่มี กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของสํานักนายกรัฐมนตรีหรือส่วนราชการที่สังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี หรือที่มิได้อยู่ภายในอํานาจหน้าที่ของกระทรวงใดโดยเฉพาะ”

ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (14) ของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 100/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557

“(14) สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ”

ข้อ 3 ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีส่วนราชการ หน้าที่และอํานาจตามที่บัญญัติในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และเป็นฝ่ายบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ ฝ่ายแผนงาน โครงการ ฝ่ายงบประมาณบริหารจัดการ และฝ่ายติดตามและประเมินผลการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อประโยชน์ในการกําหนดนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ

ในกรณีมีเหตุจําเป็นฉุกเฉิน ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติมีอํานาจจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราว และมีอํานาจในการขอเจ้าหน้าที่ในส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ มาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม

ให้มีผู้อํานวยการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างในสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี

ข้อ 4 ให้สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณา เพื่อโอนหน่วยงานในระดับต่่ำกว่ากรมจากส่วนราชการต่าง ๆ ไปเป็นของสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกําหนดหรือปรับปรุงตําแหน่งข้าราชการ ตลอดจนจัดสรรอัตรากําลังให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติให้เหมาะสมตามความจําเป็นแก่ภารกิจ

ข้อ 5 ในระยะเริ่มแรก ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติประสานงานกับกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และให้ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการดําเนินการของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติตามกฎหมายและคําสั่งที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้อํานวยการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นกรรมการ และเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 185/2558 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2558
และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นประการอื่น

ข้อ 6 ในกรณีที่เห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้

ข้อ 7 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ทั้งนี้ เป็นการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นรายชื่อเดิมตามสมาชิก คสช.ที่ยังอยู่ในตำแหน่ง และมีบางส่วนที่ได้รับการแต่งคตั้งทดแทนคณะทำงานชุดเดิม ซึ่งหมดวาระไปหลังจาก สมาชิก คสช.บางรายที่เป็นอดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพพ้นจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยรายชื่อที่เข้ามาใหม่แทนคนเก่า ประกอบด้วย
1.รองเลขาธิการประจำผู้ดำรงตำแหน่งใน คสช. จำนวน 4 ราย ได้แก่ พล.อ.วลิต โรจนภักดี รองเลขาธิการฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ,พล.ท.นิรันดร สมุทรสาคร (รองเลขาธิการฯ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์), พล.อ.นครา สุขประเสริฐ (รองเลขาธิการฯ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ) และ พล.ร.อ.พัชระ พุ่มพิเชฏฐ์ (รองเลขาธิการฯ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ)
และ 2.ที่ปรึกษาประจำผู้ดำรงตำแหน่งใน คสช. จำนวน 4 ราย ได้แก่ พล.อ.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ (ที่ปรึกษาฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา), พล.ท.เถลิงศักดิ์ พูลสุวรรณ (ที่ปรึกษาฯ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์), พล.ต.นเรศน์ วงศ์สุวรรณ (ที่ปรึกษาฯ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ) และ พล.ร.ท.ปัญจวัชร์ วิสุทธิทรัพย์ (ที่ปรึกษาฯ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ).

กำลังโหลดความคิดเห็น