xs
xsm
sm
md
lg

อัยการลงพื้นที่ใช้คารมกล่อมชาวบ้านที่รุกล้ำลำน้ำพิจิตรเก่าให้ถอยร่นเปิดทางน้ำไหล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิจิตร - อัยการลงพื้นที่พร้อมนายอำเภอเมืองพิจิตรเตือนชาวบ้านรุกล้ำลำน้ำ ขอความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายรัฐ เชื่อมั่นใช้รัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์มีความสุขทั่วหน้า

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พ.อ.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รอง ผอ.รมน.จังหวัดพิจิตร และ นายอาคม นวพิพัฒน์ อัยการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจภูมิประเทศของแม่น้ำพิจิตรเก่า ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีระยะทางยาวถึง 127 กิโลเมตร ไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดพิจิตร แต่ในอดีตที่ผ่านมาถูกปล่อยทิ้งรกร้างมีสภาพตื้นเขิน กลายเป็นแม่น้ำที่ไร้ชีวิตเพราะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้

โดยรัฐบาลต้องการฟื้นฟูคืนชีวิตให้กับแม่น้ำพิจิตรเก่าเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม รวมถึงให้เป็นแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร ดังนั้นจึงได้มีการเปิดประตูรับน้ำจากแม่น้ำน่านผันเข้าแม่น้ำพิจิตรเก่าที่บ้านดงเศรษฐี หรือหมู่ 4 บ้านวังกระดี่ทอง ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร

ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมคือมีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าสู่แม่น้ำพิจิตรเก่าได้แล้ว แต่ปัญหาและอุปสรรคคือ ถนนหรือทางข้ามแม่น้ำพิจิตรเก่าที่สร้างไม่ได้มาตรฐานจึงเป็นเหตุขวางทางน้ำ อีกทั้งมีบ้านเรือนราษฎรปลูกสร้างรุกล้ำมาในแม่น้ำพิจิตรเก่าเป็นจำนวนมาก

นายอาคม นวพิพัฒน์ อัยการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ถ้าดูจากข้อเท็จจริงก็ถือได้ว่าเป็นผู้บุกรุกแม่น้ำพิจิตรเก่า ซึ่งถ้ากางกฎหมายตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่17) พ.ศ. 2560 ซึ่งกฎหมายนี้มุ่งหมายจัดการการรุกล้ำลำน้ำทั่วประเทศไม่ให้ขยายตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็ถือได้ว่าผู้รุกล้ำลำน้ำมีความผิด แต่ด้วยหลักปฏิบัติทั้งในแง่นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ที่เหมาะสม รัฐบาลถือหลักบนพื้นฐานแนวคิดที่ว่า “ประชาชนคือผู้ได้รับความเดือดร้อน”

ดังนั้นสถานการณ์ของประชาชนชาวบ้านที่รุกล้ำแม่น้ำพิจิตรเก่าจึงมีแนวทางในเบื้องต้นว่าจะไม่ขับไล่แต่จะขอให้ขนย้ายหรือขยับบ้านเรือนเพื่อเปิดทางให้น้ำไหล ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากผู้นำและราษฎรเป็นอย่างดียิ่ง

ด้านนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี นายอำเภอเมืองพิจิตร กล่าวว่า ราษฎรที่มีบ้านเรือนปลูกรุกล้ำอยู่ริมแม่น้ำพิจิตรเก่าแล้วได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำ เพื่อทำความเข้าใจและหาแนวทางแก้ไขเยียวยาให้การพัฒนากับการแก้ปัญหาต้องไปควบคู่กัน ซึ่งก็มีการนำรถแบ็กโฮจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายท้องที่ไปช่วยกันขุดเจาะถนนที่ขวางแม่น้ำพิจิตรเก่าเกือบ 10 จุดเพื่อเปิดทางน้ำอีกด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น