xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.รุมสวด “มีชัย” ส่อเลื่อน กม.ลูก ชี้กระทบ ศก.อย่าสักแต่จ้อ ดักผู้มีอำนาจเสียคำพูด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สมาชิก ปชป.พร้อมใจกันดาหน้าอัด ปธ.สนช.ติดโรคเลื่อนกฎหมายลูก เชื่อคิดลากยาว “นิพนธ์” มองผู้มีอำนาจเสียหาย ดิสเครดิตคำพูดตัวเอง “วิรัตน์” ซัดอย่าสักแต่พูด ขอดูผลกระทบเศรษฐกิจ “นิพิฏฐ์” ชี้มีหน่วงเวลา ยก 3 ปัจจัย เลือกตั้งช้า-เร็ว

วันนี้ (5 ต.ค.) นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ออกมาระบุว่าการยกร่างกฎหมายลูกหมวดเลือกตั้งจะทำเสร็จในปลายปี 2561 ว่าไม่ตรงกับที่กำหนดในโรดแมปตามรัฐธรรมนูญ หากเขาอยู่ได้ก็อยู่ไป เพราะที่สุดคนที่จะเสียหายเองคือผู้มีอำนาจ เพราะเขาไปประกาศต่อเวทีนานาชาติและยืนยันมาตลอดว่ายึดตามโรดแมป เขาก็จะเสีบหายต่อตัวเขาเองที่ไม่รักษาคำพูด มันจะดิสเครดิตตัวเอง ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจยิ่งเป็นอย่างนี้อีกด้วย ก็แล้วแต่เขา แต่ส่วนตัวคิดว่าการที่เขาคิดจะลากอยู่ยาว คงกลัวการเช็กบิลย้อนหลังจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือไม่ จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เขา พูดแล้วไม่นักษาคำพูดก็เสียตัวเขาเอง

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ทิศทางของบ้านเมืองควรจะชัดเจนโดยเฉพาะเมื่อหัวหน้ารัฐบาลพบกับผู้นำโลกเสรีและยืนยันชัดเจนว่าจะประกาศวันเลือกตั้งในปี 2561 ถ้าติดตามงานของฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้ง กรธ.แล้ว กฎหมายลูกในหมวดเลือกตั้งอีก 2 ฉบับ คือ กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว.จะต้องนำเข้าที่ประชุม สนช.ภายในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ตามกรอบรัฐธรรมนูญกำหนดและต้องจัด ห้มีการเลือกตั้งภายใน 150 วันหลังการบังคับใช้กฎหมายนั้น ดังนั้นการประกาศวันเลือกตั้งล่วงหน้าจะทำให้ประชาชนมีโอกาสเตรียมตัวเพราะกฎหมายเลือกตั้งมีรายละเอียดมาก ต้องทำความเข้าใจ และต้องจัดการเลือกตั้งตามระบบไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคเพื่อสรรหาตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง การกำหนดวันเลือกตั้งให้รู้ก่อนจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น สร้างเครดิตต่อรัฐบาลเองด้วย โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ที่ให้ข่าวไปคนละทิศละทางจะเป็นการทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ลง และยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้วให้แย่ลงไปอีก จึงอย่าสักแต่พูด ขอให้คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่าเขามีวิธีการหน่วงระยะเวลาใจการจัดการเลือกตั้งให้ยืดออกไป โดยอาจจะเสนอกฎหมายลูกในวันสุดท้ายที่กรอบรัฐธรรมนูญกำหนด คือ วันที่ 240 คือราวเดือน ธ.ค.ปีนี้ เมื่อ สนช.รับร่างกฎหมายมาก็จะพิจารณาเต็มเวลาตามที่กรอบกำหนด คือ 60 วัน ซึ่ง สนช.อาจมีความเห็นแย้งกับ กรธ.เพื่อต้องตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่วมในกฎหมายฉบับนั้นเพื่อปรับแก้ต้องใช้เวลาอีกราว 1 เดือน จากนั้นจึงค่อยส่งร่างนี้ให้นายกฯ ซึ่งนายกฯ ก็จะมีระยะเวลาในการพิจารณาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในร่างดังกล่าวอีกว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งสามารถหน่วงเวลาออกไปได้อีก

“ผมเห็นว่าฝ่ายการเมืองอย่าไปเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเร็ว หรือช้าเลยเพราะการจัดเลือกตั้งจะช้าหรือเร็ว มี 3 ปัจจัย คือ 1. เงื่อนเวลาตามรัฐธรรมนูญกำหนด อยู่ที่ว่า กรธ.และ สนช.จะเลือกใช้เวลาตามกรอบน้นให้ยาวหรือสั้น 2. สถานการณ์การเมือง หรือความต้องการของพี่น้องประชาชน และ 3. รัฐบาล คสช.เองต้องประเมินตัวเองว่าการจะอยู่ต่อในอำนาจยาวนั้น ส่งผลดีหรือผลร้ายต่อรัฐบาล คสช.เองหรือไม่”
กำลังโหลดความคิดเห็น