xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” พบ รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ขอช่วยดูแลนักลงทุน เชื่อคุย “ทรัมป์” ได้ประโยชน์เท่าเทียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯ พบ รมว.พาณิชย์สหรัฐอเมริกา เผย ไทยมอบ 1 ล้านช่วยเหยื่อเฮอร์ริเคน ยันมุ่งแก้ปัญหาค้าง พัฒนาชาติ มั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน เดินตามโรดแมป ขอช่วยดูแลนักลงทุน พร้อมตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาร่วม เชื่อคุย “ทรัมป์” จะเป็นประโยชน์ 2 ฝ่ายเท่าเทียม ด้าน “บิ๊กตู่” เผยก่อนถก คุยขาดดุลการค้า

วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น. นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมีบุคคลระดับสูงของรัฐบาลร่วมหารือประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่างสองประเทศ และแสวงหาแนวทางในการสนับสนุนและส่งเสริมนโยบายด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันเพื่อ ประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวซาบซึ้งในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ นำคณะลงนามแสดงความเสียใจในสมุดหลวงต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อภัยพิบัติจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ เออร์มา และ มาเรีย ซึ่งไทยได้มอบเงินช่วยเหลือ 1 ล้านบาท ผ่านสภากาชาดอเมริกัน (American Red Cross) ไทยนั้นเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ จะครบรอบ 185 ปี และในปี 2561 จะครบรอบ 200 ปีของความสัมพันธ์ในระดับประชาชน

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริหารงานตลอดช่วง 3 ปี ว่า รัฐบาลมุ่งแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างมา ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับ IUU ICAO การค้ามนุษย์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งขจัดอุปสรรคการค้า การลงทุน และเร่งปฏิรูปเพื่อเสริมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการค้าการลงทุนด้วย โดยมุ่งปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้วยนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือพัฒนาประเทศให้ “มั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน” สำหรับพัฒนาการทางการเมืองนั้น รัฐบาลเดินหน้าตาม Roadmap เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในช่วงเวลาที่เหมาะสม

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมการลงทุนของทั้งไทยและสหรัฐฯ ว่า มีแนวโน้มที่ดี และขอให้สหรัฐอเมริกาช่วยดูแลนักลงทุนไทยในสหรัฐฯ ด้วย ที่ผ่านมา มีเอกชนไทยจำนวนมากที่ได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกา ช่วยสร้างงานและรายได้ให้กับชาวอเมริกัน ภายใต้สนธิสัญญาไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย - สหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 1966 นักลงทุนสหรัฐอเมริกาได้รับสิทธิพิเศษเทียบเท่ากับคนไทย การลงทุนจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย สำหรับประเด็นข้อห่วงใยด้านการค้าและการลงทุนต่างๆ นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นสหรัฐฯ ทราบถึงความจริงจังและจริงใจของรัฐบาลไทย และมั่นใจว่า การเดินทางเยือนสหรัฐฯ และการร่วมหารือกับประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียม

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ยังได้ร่วมพูดคุยกับคณะนักธุรกิจจาก บริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ประกอบด้วย นายคีธ วิลเลียมส์ (Mr. Keith Williams) ประธานบริหารและกรรมการบริษัท Underwriters Laboratories. (UL) นายสกิป บอยซ์ (Mr. Skip Boyce) ประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท Boeing นาย สตีเฟน ดับเบิลยู กรีน (Mr. Stephen W. Green) ประธานบริษัท Chevron Asia-Pacific Exploration and Production Company นายมาร์ก คอฟมาน (Mark Kaufman) ประธาน Ford ASEAN นายวาวเตอร์ แวน เวิร์สช (Wouter Van Wersch) ประธานและประธานบริหาร อาเซียนบริษัท General Electric นายจอน อี ฮิวเนมานน์ (Jon E. Huenemann) รองประธาน กิจการบรรษัทในสหรัฐอเมริกาและระหว่างประเทศ บริษัท Phillip Morris International และผู้แทน U.S.-ASEAN Business Council (USABC)

ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ ยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนร่วมในการลงทุนในเศรษฐกิจดิจิตอล รวมทั้งการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูง ตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล ที่มุ่งยกระดับเศรษฐกิจและสังคมไทยให้โปร่งใสและสอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก ด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เวลา 13.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวิลเบอร์ เข้าพบว่า เราหารือในเรื่องการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องการซื้อขายระหว่างกัน รวมถึงเรื่องมาตรการจากไทยว่าจะเตรียมกันอย่างไรซึ่งต้องใช้เวลาในการหารือ หากมีปัญหาก็ต้องหาทางออกเรื่องการขาดดุลการค้าระหว่างกันเราจึงต้องมาดูว่าขาดดุลอย่างไร จะมีการปรับแก้ได้ตรงไหน เพราะเราเป็นประเทศเล็กๆ เราอาจจะได้ในบางเรื่องแต่บางเรื่องก็ขาดดุล เพราะบางอย่างเราต้องซื้อของเขามาใช้ แต่เวลาคิดเกณฑ์การได้ดุลขาดดุลดูได้จากงบประมาณการซื้อขายระหว่างประเทศ

“เราคุยด้วยความเป็นมิตรระหว่างกัน เพราะเรามีความสัมพันธ์กันมากว่า 200 ปีเก่าแก่ที่สุดในอาเซียน เราจึงต้องใช้ความสัมพันธ์ตรงนี้ วันนี้โลกเปลี่ยนไป แต่ละรัฐบาลก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องมาคุยกันใหม่ว่าจะสานต่อความสัมพันธ์กันอย่างไร ทั้งนี้ อย่างไรก็ทิ้งกันไม่ได้อยู่แล้ว ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทุกประเทศ” นายกฯ กล่าว










กำลังโหลดความคิดเห็น