xs
xsm
sm
md
lg

“วัส” ร่อนหนังสือ “บิ๊กตู่” ขอส่งร่าง พ.ร.ป.กสม.ให้ศาล รธน.ตีความขัด รธน.หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
ประธาน กสม. เผย ทำหนังสือถึง “ประยุทธ์” ขอให้ใช้อำนาจ ส่งร่าง พ.ร.ป.กสม. ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมชี้แจง 6 ประเด็นปัญหา แจงทำในนามส่วนตัวไม่ใช่นามองค์กร

วันนี้ (24 ก.ย.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนในฐานะประธานกรรมการสิทธิ์ ได้ทำหนังสือส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 (2) ส่งร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยสาระสำคัญของหนังสือที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ว่า 6 ประเด็น ที่กรรมการสิทธิมนุษยชนเคยเสนอความเห็นไปนั้น มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนทางนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการส่งร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม การทำหนังสือส่งถึงนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นการทำในฐานะตำแหน่งประธานกรรมการสิทธิ์ ไม่ได้ทำในนามขององค์กรแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 6 ประเด็น ที่กรรมการสิทธิ์เห็นว่า ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย 1. กรณีเกี่ยวกับกรรมการสรรหา กสม. ที่ร่างกฎหมายกำหนดว่าหากพ้นกำหนดเวลาเลือกกรรมการสรรหาที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้ว ยังไม่มีกรรมการสรรหาที่เป็นผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสรรหาไม่ต้องมีผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ถือว่าไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 246 วรรคสี่ ที่บัญญัติให้มีผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนมีส่วนร่วมในการสรรหาด้วย 2. ประเด็นเกี่ยวกับผู้สมัครเป็น กสม. ร่างกฎหมายกำหนดรายละเอียดคุณสมบัติของ กสม. เกินกว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ขณะที่หลักการปารีสมิได้กำหนดระยะเวลาเกี่ยวกับความรู้หรือประสบการณ์ การกำหนดในร่างกฎหมายไว้เช่นนี้ ย่อมเป็นการจำกัดสิทธิบุคคลที่เสนอตัวมาทำหน้าที่ เกินสมควรแก่เหตุและยากแก่การสรรหา ขัดต่อหลักนิติธรรม ร่างกฎหมายจึงไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 246 วรรคสอง ประกอบมาตรา 3 วรรคสอง และ 26 วรรคหนึ่ง

3. ประเด็นการเซตซีโร่ กสม. มิได้เป็นไปอย่างสุจริต ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เป็นการตรากฎหมายกำจัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลไม่เป็นตามเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสองและมาตรา 26 วรรคหนึ่ง 4. เรื่องอำนาจและหน้าที่ของ กสม. โดยเสนอให้แก้ไขร่างมาตรา 29 วรรคหนึ่งที่กำหนดให้ กสม. แต่งตั้งอนุกรรมการได้เฉพาะกรณีไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มาเป็นให้แต่งตั้งได้ในกรณีจำเป็น

5. ให้แก้ไขร่างมาตรา 34 ที่ไม่ได้กำหนดให้ กสม. สามารถไกล่เกลี่ยได้ มาเป็นว่าในกรณีที่สมควร จำเป็น และได้รับความยินยอมจากคู่กรณี กสม. อาจดำเนินไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีทำความตกลงเพื่อประนีประนอมและแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ และ 6. แก้ไขร่างมาตรา 44 ที่บังคับให้ กสม. ชี้แจงรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง กรณีที่มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นธรรมทุกกรณี มาเป็นว่า กสม. อาจพิจารณาตรวจสอบเพื่อที่จะชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี หน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น