ประธาน สนช.แจงเลือกตั้งเกิดขึ้นกลางปีหน้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ กม.ลูกที่เหลือประกาศใช้ สรรหา กกต.ชุดใหม่ไม่ทำให้เลือกตั้งสะดุด หวัง กรธ.ส่งร่างเลือก ส.ส.-ส.ว.ตามกำหนดเวลา หากเกิดปมปัญหาทำร่างตก กรธ.ต้องร่างใหม่ เชื่อไม่คิดลากยาว ระบุปรองดองไม่ใช่เงื่อนไขที่ต้องทำก่อนเลือกตั้ง
วันนี้ (19 ก.ย.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า การเลือกตั้งจะสามารถเกิดขึ้นในกลางปี 2561 ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งที่เหลืออยู่มีการประกาศใช้ กระบวนการของการจัดทำร่างกฎหมายถูกบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่าขั้นตอนใดใช้เวลาเท่าไหร่ หากขั้นตอนใดไม่เกิดขึ้น เช่น ไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม หรือไม่มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ตัดขั้นตอนนั้นไป หรือหากมีขั้นตอนดังกล่าวขึ้นก็ต้องขยายระยะเวลาออกไปตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ส่วนกระบวนการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่จะมีผลกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า กกต.ชุดปัจจุบันยังคงทำหน้าที่รักษาการต่อไปและมีอำนาจตามปกติจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ ซึ่งคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาต่อการกำหนดวันเลือกตั้ง เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันยืนยันแล้วว่าจะเดินหน้าทำงานเต็มที่
เมื่อถามว่า ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยังไม่ได้ส่งมายัง สนช.จะมีผลกระทบต่อการพิจารณาร่างกฎหมายให้ทันตามกำหนดหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว กรธ.ยืนยันแล้วว่าจะต้องส่งมายัง สนช.ภายในต้นเดือน ธ.ค. จึงไม่มีเหตุผลที่จะล่าช้าออกไป เพราะเป็นกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญ และเมื่อส่งมายัง สนช.แล้ว สนช.ก็ต้องทำให้เสร็จภายใน 60 วันนำขึ้นกราบบังคมทูลและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
“แต่จากตัวอย่างที่เห็นมาแทบทุกฉบับมีการโต้แย้งและต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม คงต้องดูต่อไปว่าจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมในร่างกฎหมาย ส.ส.และ ส.ว.หรือไม่ กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ยากเพราะต้องรับฟังความเห็นพรรคการเมืองและประชาชนจำนวนมาก ซึ่ง สนช.ก็ได้เตรียมการศึกษาล่วงหน้าเอาไว้ก่อน” นายพรเพชรกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากพ้นกำหนด 240 วันที่กรธ.มีหน้าที่เสนอร่างกฎหมายเลือกตั้งให้กับ สนช. แต่เกิดกรณีที่ สนช.ลงมติไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมายเลือกตั้งฉบับใดฉบับหนึ่ง กรธ.ต้องเป็นคนยกร่างขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่เมื่อมีการโต้แย้งมาก็ต้องเอาไปปรับปรุงใหม่ในคณะกรรมาธิการร่วม หรือหากเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวต้องตกไป กรธ.ก็ต้องยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ส่วนกรอบเวลาจะถูกบังคับโดยสภาพการณ์ที่จะต้องทำให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เอาเป็นว่าอย่าไปสมมติเลย เพราะมันถูกบังคับโดยสภาพการณ์อยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่า การที่ไม่กำหนดกรอบเวลาลงไป จะทำให้เป็นช่องให้เกิดการลากยาวออกไปหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า “ต้องมอง กรธ.ในแง่ดีบ้าง อย่างไรเขาก็ต้องรีบทำ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น มาถามผมเรื่องถ้าอย่างนี้ แล้วไปลงข่าวไม่ตรง ผมก็เสียหายนะ อย่าเพิ่งถ้าเลย ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วมาถามอีกทีดีกว่า”
เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีการปรองดองก่อนการเลือกตั้ง นายพรเพชรกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าประเด็นนี้ใครเป็นคนตั้ง อย่างไรก็ตาม การสร้างความปรองดองเป็นสิ่งเราเรียกร้อง แต่ไม่ได้เป็นเงื่อนไข การปรองดองเป็นเป้าหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ส่วนการเลือกตั้งก็ดำเนินการตามโรดแมป
