ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชี้หยิบกฎหมายปฏิรูปฉบับไหนพิจารณาก่อนขึ้นอยู่กับความสำคัญ ถ้ามีข้อบกพร่องก็เสร็จช้า คาดร่าง กม.ลูกกรรมการสิทธิฯ ชงที่ประชุมได้เร็วๆ นี้ เชื่อเลือกตั้งปลายปี พ.ย.- ธ.ค. 61
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมปฏิรูปทั้ง 11 คณะได้ประชุมกันในช่วงบ่ายวันนี้ (7 ก.ย.) แล้ว แต่ละคณะจะกลับไปพิจารณาเสนอกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปในแต่ละด้าน โดยต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามมาตรา 77 ก่อนเสนอกฎหมายแต่ละฉบับมายัง สนช. ซึ่งแต่ละคณะสามารถเสนอกฎหมายกี่ฉบับก็ได้ ส่วน สนช.จะหยิบยกกฎหมายฉบับใดขึ้นมาพิจารณาก่อนหลังขึ้นอยู่กับความสำคัญของเนื้อหาของกฎหมายนั้นๆ สนช.จะพิจารณาไปตามลำดับที่เสนอมา ส่วนจะเสร็จหรือไม่เสร็จขึ้นอยู่กับความสำคัญ ความยาว และความสมบูรณ์ของกฎหมายที่เสนอมา ถ้ากฎหมายมีข้อบกพร่องในเรื่องใดก็ช้า
ส่วนความคืบหน้าของการพิจารณากฎหมายลูกนั้น นายพรเพชรกล่าวว่า ยังคงเดินหน้าไปตามโรดแม๊ปที่วางไว้ โดยสามารถพิจารณาไปแล้วมากกว่าครึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งทางคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายได้พิจารณา 6 ประเด็นข้อโต้แย้งเกือบครบถ้วนหมดแล้ว บางประเด็นคณะกรรมการร่วมฯ ก็ยอมตามความเห็นของ กสม.ว่าถูกต้อง เช่น การให้มีกรรมการสรรหาจากภาคเอกชนเข้ามา คือต้องมีจะมีข้อยกเว้นไม่ได้ คาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ สนช.ได้เร็วๆ นี้
เมื่อถามว่า หากกฎหมายลูกเสร็จสิ้น กรอบเวลาน่าจะเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุ อาจจะมีการเลือกตั้งในเดือน ส.ค. 2561 นายพรเพชรกล่าวว่า ตนนับเวลาตามปกติ กรอบเวลาในการร่างกฎหมายลูกทุกกระบวนการ การเลือกตั้งจะไปไกลกว่าเดือน ส.ค.เล็กน้อย คือน่าจะเป็นช่วงปลายปี 2561 ระหว่างเดือน พ.ย.ถึง ธ.ค.ซึ่งจะนับชัดเจนไม่ได้ เป็นการประมาณการ เพราะกำหนดเวลาที่ชัดเจนคือกำหนดเวลาการพิจารณากฎหมายลูกของ สนช.ในวาระ 1-3 เวลา 60 วัน ตนมีเวลาไม่เกิน 5 วัน ส่งไปให้นายกฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย และนายกฯ ก็มีเวลา ซึ่งเวลาเหล่านี้ต้องเอามาคำนวณ ดังนั้นการกำหนดวันเลือกตั้งของ กกต.น่าจะเป็นการประมาณการโดยไม่ได้นับรายละเอียดในกรณีที่เกิดปัญหาข้อขัดแย้งหรือความเห็นตามในกฎหมาย