xs
xsm
sm
md
lg

กรธ.ลั่นปฏิรูป อปท.หลังติดขัดมา 16 ปี ชง คกก.กระจายอำนาจ 21 ก.ย.-ยัน กม.ลูกเสร็จทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (แฟ้มภาพ)
ประธานอนุ กก.จัดทำร่างกฎหมายกระจายอำนาจ อปท. เผยพร้อมเดินหน้าปฏิรูป-ยกเครื่อง หลังมีอุปสรรค 16 ปี ก่อนชง คกก.กระจายอำนาจ 21 ก.ย. พร้อมยันกฎหมายลูกเสร็จตามกำหนด 240 วัน

วันนี้ (17 ก.ย.) นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดทำร่างกฎหมายแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณา ว่า หลักหัวใจในการปฏิรูปเพื่อให้การกระจายอำนาจเดินหน้าได้ อปท.จะต้องบริหารงานด้วยความโปร่งใส เปิดเผย มีส่วนร่วม ซึ่งการถ่ายโอนภารกิจจากส่วนกลางไปท้องถิ่นเริ่มในปี 2544 กว่า 254 ภารกิจ มีหลายภารกิจที่โอนไปแต่ยังทำไม่ได้ เช่น การซ่อมถนน งบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่โอนไปได้เพียง 5 พันล้าน และซ่อมได้เพียงแค่ร้อยละ 20 ขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาเกี่ยวกับระเบียบรองรับที่ไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ สตง.เข้ามาสอบและเรียกเงินคืน ปัญหาเรื่องการทำงานที่ซ้ำซ้อน คลุมเครือระหว่างส่สวนกลางและส่วนท้องถิ่น ที่เป็นปัญหาจนส่งให้คณะกรรมการกระจายอำนาจฯและคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องตีความกันอยู่ทุกวันนี้

นายชาติชายกล่าวว่า 16 ปีที่ผ่านมา ท้องถิ่นยังไม่มีการปรับปรุงปัญหาที่เกิด หรือคือภารกิจเป็นแบบเก่าไม่ทันต่อเหตุการณ์และความต้องการของประชาชน ดังนั้น รัฐธรรมนูญปี 60 จึงมุ่งปฏิรูปท้องถิ่นให้มีการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง ตามมาตรา 249 ประกอบกับเราได้เขียนให้กฎหมายให้สามารถปฏิบัติได้จริง เช่น อปท.คิดริเริ่มงานได้เองไม่ต้องเรียกร้องการถ่ายโอนภารกิจจากส่วนกลางตามกฎหมายปี 42 โดยจะมีคณะกรรมการกระจายอำนาจคอยพิจารณา ขณะเดียวกันก็ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ได้ ส่วนเรื่องเงินอุดหนุนพึ่งตนเอง ที่มีการเปิดพื้นที่ให้สามารถหารายได้เอง โดยการตั้งวิสาหกิจท้องถิ่นส่งเสริมธุรกิจในท้องที่ตรงนี้จะเป็นแหล่งหารายได้ให้แก่ อปท. โดยดูตามความแตกต่างตามภูมิสังคมในแต่ละพื้นที่ เช่น ภูเขา เกาะ อะไรที่เป็นงานขั้นพื้นฐานที่ต้องปฏิบัติก็ต้องทำให้กับประชาชน แต่อะไรที่เป็นสิ่งริเริ่มใหม่แล้วดีๆ ก็ต้องสนับสนุนให้ถูกต้อง แล้วจะมีการลงไปตรวจสอบในภายหลัง เป็นต้น

นายชาติชายกล่าวต่อว่า การปฏิรูปท้องถิ่นเราได้เปิดพื้นที่ให้ท้องถิ่นทำงานกันเองมากขึ้น โดยมีกลไกสนับสนุนให้สามารถทำได้จริง รวดเร็วสะดวก และระบบราชการต้องเป็นคุณแก่คนที่จะทำประโยชน์ให้ท้องถิ่น นอกจากนี้จะเป็นการแก้ปัญหาพื้นฐานที่โอนได้และไม่ได้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ซึ่งขณะนี้กำลังมีการยกร่างกฎหมายการมีส่วนร่วมของประชาชนอยู่

“ร่างกฎหมายกระจายอำนาจฯฉบับนี้ เราเขียนให้ อปท.คิดริเริ่มงานเอง ไม่ต้องเรียกร้องการถ่ายโอนภารกิจจากส่วนราชการส่วนกลาง ที่มักจะถ่ายโอนภารกิจ ในลักษณะที่ว่า เสื้อที่พี่ใส่นั้น เก่าแล้ว คับแล้ว ถ่ายโอนให้น้อง อปท. ใส่แทน ตลอด 16 ปีที่ผ่านมาเรามีปัญหามามาก วันนี้กลไกต่างๆ เริ่มอ่อนล้า วิ่งตามปัญหาในปัจจุบันไม่ทันการณ์ ดังนั้นเราจึงต้องเร่งสร้างสมรรถนะองค์กรท้องถิ่นให้ทันกับเหตุการณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเรา จึงถึงเวลาที่ต้องเดินหน้าปฏิรูปท้องถิ่นอย่างจริงจังเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน” นายชาติชายกล่าว

นายชาติชายกล่าวต่อว่า คณะอนุฯ จะนำผลสรุปครั้งสุดท้ายหลังจากที่ได้ไปทำความเห็นเพิ่มเติมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 จากประชาชน 5 ภาค ใน77 จังหวัด ที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้ โดยจะส่งให้กับคณะกรรมการกระจายอำนาจได้ดูในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ถ้าเห็นชอบก็จะได้ส่งให้ครม.ต่อไปซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะต้องใช้ควบคู่กับกฎหมายท้องถิ่นอีก 4 ฉบับอย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับนี้คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ ถ้ามีการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือน เม.ย. 61 หรือหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาใดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล

นายชาติชายกล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ของ กรธ. ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งขณะนี้มาได้ครึ่งทางแล้ว โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับข้าราชการ โดยคาดว่าจะพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้เสร็จในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ขณะนี้อนุกรรมการได้ส่งตัวยกร่างไปให้นักกฎหมายของกฤษฎีกาดูรายละเอียดต่างๆ หากมีประเด็นใดที่คลุมเครือ ไม่มีความชัดเจน จะได้นำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กำลังอยู่ในการยกร่างรายมาตรา ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับนี้จะเสร็จสิ้นตามกำหนด ในเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้แน่นอน เนื่องจากการยกร่างครั้งนี้เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่า กรธ.ยกร่างกฎหมายลูกเสร็จทัน 240 วันแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น