ประธานสถาบันอิศรา ออกแถลงการณ์ปกป้อง “ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์” หลังถูกอดีตนักข่าวรอยเตอร์ ระบุ เป็น “บิ๊กสื่อ” คุกคามทางเพศลูกน้องสาว ยืนยันพฤติกรรมผู้อำนวยการสถาบันฯ ไม่ได้เป็นตามกระแสข่าว เชื่อ มีผู้เสียผลประโยชน์ฉวยโอกาสปล่อยข่าวโจมตี พร้อมขอสงวนสิทธิ์ดำเนินการทางแพ่ง - อาญา ผู้ทำให้เสียหาย
ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรสื่อมวลชนแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศพนักงานสาว จนทนไม่ไหวขอลาออกจากงาน และต่อมาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เตรียมตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวนั้น ล่าสุด วันนี้ (15 ก.ย.) ได้มีการเผยแพร่แถลงการณ์ “กรณีผู้อำนวยการสถาบันฯ ถูกกล่าวหา” ลงนามโดย นางสาววิมลพรรณ ปีตธวัชชัย ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันอิศรา มีใจความว่า
“สืบเนื่องจากการที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อความว่า ผู้บริหารองค์กรสื่อแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศพนักงานในสังกัด จนทำให้ต้องลาออกจากองค์กรและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง กระทบต่อปัญหาจริยธรรมและคุณธรรมอันเป็นพื้นฐานของวิชาชีพสื่อมวลชนโดยรวม และภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน โดยได้ประกาศตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2560 จนกระทั่งถึงปัจจุบันพบว่า ยังไม่มีความคืบหน้าประการใดแจ้งให้สาธารณชนทราบ ในขณะที่ปรากฏว่า Mr. Andrew MacGregor Marshall อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้โพสต์ข้อความลงบน Facebook ส่วนตัว ระบุเนื้อความชัดเจนว่า นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา เป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว ทำให้สถาบันอิศรา และ นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบัน ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ดังที่ปรากฏอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปในขณะนี้ นั้น
สถาบันอิศราในฐานะสถาบันด้านสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาทักษะวิชาชีพแก่สื่อมวลชนทุกแขนง มีบุคลากรทั้งในวงการสื่อมวลชนและบุคคลภายนอกจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 คน ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ ที่สถาบันจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถาบันอิศรายังได้จัดตั้ง “สำนักข่าวอิศรา” เพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการหลักด้านการทำข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนให้เป็นที่พึ่งสำคัญแก่สังคมไทยในทุกช่วงภาวะวิกฤต ทำหน้าที่ทั้งการตรวจสอบค้นหาความจริง ตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในวงราชการและเอกชน รวมถึงองค์กรต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา จนได้รับความเชื่อมั่น เชื่อถือเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นลำดับ สถาบันอิศราตระหนักและเชื่อมั่นว่า การทำหน้าที่ของสถาบันอิศราในการนำเสนอข่าวเชิงลึกหลายประเด็นได้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อสังคมตลอดมา ซึ่งย่อมก่อให้เกิดทั้งประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวมไปพร้อมๆ กับก่อให้เกิดเป็นการขัดผลประโยชน์กลุ่มคนอีกด้านหนึ่งไปพร้อมๆ กัน ซึ่งหมายความว่า สถาบันอิศรา และสำนักข่าวอิศรา ได้สร้างทั้งมิตรแท้และศัตรูให้เกิดขึ้นไปพร้อมกันจากการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สถาบันอิศราต้องยอมรับภาระนี้ไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา สถาบันอิศรา และสำนักข่าวอิศรา ดำเนินงานภายใต้กลุ่มหรือคณะบุคคลที่ประกอบไปด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน โดยได้มีการแต่งตั้งและมอบหมายให้มีตัวแทนผลัดกันเป็นผู้รับผิดชอบผลักดันเป้าหมายต่างๆ แทนสถาบันอิศรา และสำนักข่าวอิศรา อย่างต่อเนื่องกันมา ในฐานะผู้อำนวยการบริหาร สถาบันและสำนักข่าวอิศรา ปัจจุบัน คือ นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ซึ่งนับเป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่ง ที่เป็นผู้เสียสละตนเป็นตัวแทนและเป็นเบื้องหน้า ทำหน้าที่ต่างๆ แทนคณะกรรมการบริหารสถาบันอิศรา อย่างใกล้ชิด และเข้มแข็งตลอดมากว่า 7 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ต้องตกอยู่ในภาวะการเป็นเป้าหมายสาคัญของผู้สูญเสียผลประโยชน์จากการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของสำนักข่าวอิศราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในนามประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันอิศรา และพนักงานทุกคน ขอเรียนมายังสาธารณชนเพื่อทราบว่า คณะกรรมการบริหารสถาบันอิศราได้มีการสอบถามถึงพฤติการณ์และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากบุคคลแวดล้อม และจาก นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ แล้วสรุปได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ จนก้าวเข้าไปสู่สื่อกระแสหลักต่างๆ นั้น เป็นข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากความจริงที่เกิดขึ้นอย่างมากจนสถาบันอิศรา และพนักงานไม่อาจยอมรับต่อพฤติการณ์ของผู้ประสงค์ร้าย และต้องการทำร้ายชื่อเสียงและทำลายเกียรติคุณที่สะสมมายาวนานของสถาบันอิศราได้อีกต่อไป สถาบันอิศราและพนักงานของสถาบันอิศราปัจจุบันทั้งหมด ขอยืนยันว่า เรายังคงมีความเชื่อมั่นเชื่อถือในความประพฤติของ นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ โดยรวมและพร้อมที่จะต่อสู้ยืนหยัดร่วมกับ นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เพื่อพิสูจน์ความจริงต่างๆ ให้ปรากฏ เช่นเดียวกับการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ที่สำนักข่าวอิศราได้ทำคู่กับสังคมและประชาชนคนไทยมาอย่างต่อเนื่องต่อไป รวมถึงขอยืนยันว่าสถาบันอิศราและพนักงานในปัจจุบันทุกคนจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำพา นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผ่านภาวะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่เลวร้ายของกลุ่มคนผู้เสียผลประโยชน์จากการทำหน้าที่สื่อมวลชนด้านข่าวสืบสวนสอบสวนของสำนักข่าวอิศรานี้ต่อไป อย่างไม่ย่อท้อ และขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีทั้งในทางแพ่งและทางอาญากับบุคคลทุกคนที่กระทำการใดๆ ที่ทำให้สถาบันอิศรา สำนักข่าวอิศรา นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ และพนักงานปัจจุบันของสถาบันอิศราทุกคนได้รับความเสียหายทั้งต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชังอย่างถึงที่สุด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมและประชาชนคนไทยที่ได้รับประโยชน์จากการทำหน้าที่ของสถาบันอิศราและสำนักข่าวอิศราจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างสนับสนุนให้ความไว้วางใจต่อสถาบันอิศรา สำนักข่าวอิศรา และพนักงานปัจจุบันทุกคนของสถาบันอิศราต่อไป”
นอกจากนี้ ยังมีแถลงการณ์ในนามพนักงานของสถาบันอิสราและสำนักข่าวอิศราออกมาตอบโต้ Mr. Andrew MacGregor Marshall และปกป้องผู้อำนวยการสถาบันอิศราเช่นเดียวกัน พร้อมยืนยันว่า จะทำหน้าที่สื่อมวลชนในการตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะต่อไป และพร้อมให้ความร่วมมือองค์กรวิชาชีพในการแสวงหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวหากมีการร้องขอ