มือกฎหมาย ปชป.เสนอรัฐบาลเดินหน้าเพิกถอนพาสปอร์ต “ยิ่งลักษณ์” ทันที เหตุเข้าข่ายตามระเบียบ กต. ชี้ไม่ทำเอื้อหนีคดีง่ายขึ้น แนะ “บุญทรง” สารภาพใครบงการโกงจีทูจีเก๊ ผ่อนโทษหนักเป็นเบา เชื่อ กอดความจริงไว้กับตัว มีสิทธิ์ตายคาคุก
วันนี้ (3 ก.ย.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการทำเรื่องถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ยกเลิกหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ฐานหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากการออกหมายจับของศาลเข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) ที่กำหนดว่าผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ศาล หรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ เห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้แจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อยกเลิกทั้งพาสปอร์ตการทูตเล่มแดงและบุคคลธรรมดาเล่มน้ำตาล เพื่อให้สามารถดำเนินการเอาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์มาลงโทษโดยเร็ว เพื่อพิสูจน์ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังต่อการติดตามตัวน น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาดำเนินคดี เพราะหากไม่ยกเลิกพาสปอร์ตเท่ากับเปิดโอกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีระหว่างประเทศง่ายขึ้น เสมือนกับว่ารัฐบาลรู้เห็นยินยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปไหนก็ได้ รัฐบาลจึงไม่ควรดำเนินการเพียงแค่ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีไปได้อย่างไร ใครปล่อยออกไปเท่านั้น แต่ต้องทำให้กลไกราชการเดินหน้าเพิกถอนพาสปอร์ต น.ส.ยิ่งลักษณ์ทันทีด้วย
นายวิรัตน์ยังแนะนำให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ถูกคุมขังในเรือนจำจากคดีทุจริตจีทูจีเก๊ว่า มีทางรอดเดียวที่จะไม่ต้องตายในเรือนจำ คือ การสารภาพถึงขบวนการทุจริตว่ามีใครสั่ง สั่งโดยวิธีใด ถ้าไม่ทำตามคำสั่งแล้วจะมีผลกระทบอย่างไร ใครได้ประโยชน์ หากนายบุญทรงเปิดปากพาดพิงไปถึงผู้บงการก็เชื่อว่าองค์คณะที่จะพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์จะรับฟังและเป็นเหตุให้มีการบรรเทาโทษได้ อีกทั้ง ป.ป.ช.จะสามารถตั้งคดีใหม่เพื่อดำเนินการเอาผิดต่อผู้บงการให้เกิดการทุจริตและตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อดึงเงินแผ่นดินกลับมาให้ได้มากที่สุดด้วย แต่หากนายบุญทรงทำเหมือนที่พูดกับนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ว่าจะให้ความจริงตายไปกับตัวก็เหลือทางเดียว คือ ตายจริง โดยต้องใช้ชีวิตทั้งหมดในเรือนจำ เนื่องจากยังมีคดีจีทูจีเก๊ภาคสองอีก 4 สัญญาที่มีการกระทำผิดไม่แตกต่างไปจากคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตัดสินไปแล้ว