ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยันถ้าทำไพรมารีโหวตเท็จ หัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบ แต่มีโทษแค่ตัดสิทธิสักพัก ไม่ถึงขั้นยุบพรรค ใครเอาความเท็จไปแจ้งก็มีโทษ แต่ไม่แรง เหตุเป็นเรื่องภายใน ไม่ให้ กกต. จุ้น พร้อมกำหนดเวลาให้ทำก่อนเลือกตั้ง แย้มมีทางออกแล้ว แต่บอกตอนนี้อาจถูกโกรธได้ เชื่อตั้ง กมธ. ร่วมฯ ไม่ยืดเยื้อ
วันนี้ (20 ก.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงแนวทางการปรับแก้ร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิก สนช. จะเสนอต่อ กมธ. ร่วม 3 ฝ่าย ให้การทำไพรมารีโหวต มีโทษยุบพรรค ที่เปิดให้ใครสามารถฟ้องก็ได้ว่า พรรคต้องตรวจสอบ เพราะหากเสนอไปเท็จ รายงานเท็จ หัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบ จะมีโทษไม่แรง ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง มีผลทำให้เล่นการเมืองไม่ได้สักพักหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นยุบพรรคการเมือง เพราะเป็นเรื่องภายใน หากมีผู้กลั่นแกล้งในระบบไพรมารีโหวตนั้น ใครเอาความเท็จไปแจ้งก็มีโทษ เราจะกำหนดโทษทุกระดับดักไว้ ซึ่งการกลั่นแกล้งนั้นจะกำหนดโทษไม่แรง คือ ตัดสิทธิเลือกตั้งเหมือนกัน คือ จะใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นเกณฑ์ หากโทษแรงมาก คนเขาก็จะไม่ฟ้อง คนที่ทำจะมีบอกหน้าที่ว่า ห้ามทำอะไร เช่น ห้ามไปซื้อ ห้ามเอาเงินไปจ่าย คนจ่ายก็โดน หากพรรครู้ แต่พรรคไม่ควบคุม หัวหน้าพรรคก็โดน
“ต้องยอมรับว่า เรื่องไพรมารีเป็นเรื่องภายในพรรค หากให้ กกต. เป็นผู้ดำเนินการ จะเท่ากับให้เข้าไปวุ่นวายภายในพรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องของการเลือกตั้ง โดย กกต. จะทำหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อ ให้สัมพันธ์กับกรอบเวลาที่วางไว้ แม้จะเขียนว่าไพรมารีให้ทำก่อนประกาศเลือกตั้งได้ แต่บางกรณีไม่รู้ล่วงหน้า เช่น ยุบสภา บางคนก็บอกว่าให้ดูแนวโน้ม รู้ล่วงหน้าได้ ก็ไม่จริงเสมอไป ทั้งนี้ เมื่อกำหนดให้ทำก่อนก็ต้องมีระยะเวลาทำ ไม่ใช่ทำไว้ 3 ปีล่วงหน้า เพราะถึงตอนนั้นพรรคเองก็คงไม่รู้ว่าควรจะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ต้องพิจารณาระยะเวลาใกล้เลือกตั้งขณะที่การตรวจสอบปัญหาของการทำไพรมารี่โหวตก่อนส่งชื่อให้ กกต. นั้น เป็นประเด็นที่ กกต. ต้องไปวางแผน”
ส่วนกรณีที่ กรธ. เสนอความเห็นโต้แย้งไป เช่น จำนวนสมาชิกพรรคที่จะทำไพรมารีโหวต หรือการเห็นชอบโดยกรรมการบริหารพรรคเพื่อส่งชื่อให้ กกต. นั้น นายมีชัย กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่ กมธ. ร่วมฯ ต้องพิจารณา ซึ่งขณะนี้มีทางออกในหลักการแล้ว แต่บอกตอนนี้อาจจะถูกโกรธได้ สำหรับเนื้อหาที่แก้ไขมีหลักการเบื้องต้นแล้ว เพื่อเป็นข้อเสนอแต่ไม่ใช่ข้อยุติ หากพูดก่อนจะกลายเป็นประเด็นผูกมัดของที่ประชุม กมธ. ร่วมฯ ซึ่งเชื่อว่าการพิจารณาแก้ไขใน กมธ. ร่วมฯ จะไม่ทำให้การพิจารณายืดเยื้อและไม่เกิน 10 วัน เพราะที่ผ่านมาได้ประสานและคุยกันก่อนแล้ว ผ่าน พล.อ.สมเจตน์ ฐานะเจ้าของเรื่อง เราจำเป็นต้องคุยเพื่อรู้ว่าเขาคิดอะไร เราไม่ขัดขวางเขา แต่เพื่อทำเนื้อหาสมบูรณ์