ประชุม สนช.รับทราบรายงาน ครม. เห็นชอบโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง ช่วง กทม.-หนองคาย ระยะที่ 1 รมว.คมนาคม ลั่นตั้งเป้าใช้เป็นเส้นทางเชื่อมจีนกับอาเซียน คุ้มค่าลงทุนเพื่อประโยชน์เศรษฐกิจ สนช.ฝากดูเรื่องเวนคืน การบำรุงรักษา งบก่อสร้าง
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้รับทราบรายงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ลงมติเห็นชอบโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วง กทม.-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา) ระยะทาง 253 กิโลเมตร วงเงิน 179,412 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ชี้แจงที่ประชุม สนช.ว่า โครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ปี 2564 ใช้เวลาเดินทางจาก กทม.-โคราช 1 ชั่วโมง 17 นาที ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนส่งผู้โดยสารได้ 5,310 คนต่อวัน ค่าโดยสารราคา 535 บาท เริ่มต้นที่ 80 บาท มีจำนวนรถไฟให้บริการ 11 ขบวนต่อวัน ผลประโยชน์ทางตรงที่เกิดขึ้นจากโครงการ คือ การประหยัดเวลาเดินทาง การประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้รถยนต์ การลดความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ ขณะที่ผลประโยชน์ทางอ้อมช่วยให้เกิดการกระจายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไปยังภูมิภาคอย่างก้าวกระโดด เมื่อโครงข่ายสมบูรณ์ทั้งระบบจะเกิดการเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนกับจีน ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งและลอจิสติกส์ของภูมิภาค เป็นโครงการที่เหมาะสมทางเศรษฐกิจ คุ้มค่าต่อการลงทุนเพื่อสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
ขณะที่สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนและชื่นชมรัฐบาลที่กล้าตัดสินใจดำเนินโครงการดังกล่าว เช่น พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร พล.ท.จเรศักดิ์ อานุภาพ นายยุทธนา ทัพเจริญ โดยเห็นว่าเป็นโครงการเหมาะสม ก่อให้เกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจระยะยาวมหาศาล และเกิดการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค แต่ยังแสดงความเป็นห่วงเรื่องการเวนคืนพื้นที่ก่อสร้าง 2,800 ไร่ ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นพื้นที่ใดบ้าง จะมีการประเมินราคาเวนคืนอย่างไร เรื่องการบำรุงรักษาอนาคตระยะยาว 30 ปี ที่มีตัวเลขการบำรุงรักษาสูงถึง 150,000 ล้านบาท ที่ใครจะเป็นผู้จ่ายค่าบำรุงรักษา และรัฐบาลชุดนี้ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าค่าบำรุงรักษาหรือไม่ รวมถึงเรื่องงบประมาณที่จะนำมาก่อสร้างจะกู้มาจากแหล่งใด เรื่องแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยี เรื่องการเชื่อมเส้นทางไปยังประเทศจีน ซึ่งนายอาคมรับจะนำข้อห่วงใยต่างๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป