“ประยุทธ์” นั่งประธานประชุม ป.ย.ป.ปฏิรูปประเทศ ชี้ครอบหลุมหลายประเด็น ไม่ใช่แค่การเมือง ขอคนไทยให้ความสำคัญกับ กม. อย่ามองว่าถูกบังคับ ยัน รบ.ไม่บังคับ ปชช. แต่มุ่งทำประโยชน์ให้ทุกกลุ่มในประเทศ วอนร่วมมือไม่งั้นปฏิรูปไม่สำเร็จ
วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ ว่าวันนี้เป็นการประชุมเพื่อวางอนาคตของประเทศที่เป็นการทำงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่ครอบคลุมในหลายประเด็นซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ขออย่ามองแต่ประเด็นการเมืองอย่างเดียว เพราะอนาคตของประเทศโดยเฉพาะการยกระดับรายได้ให้พ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ และที่สำคัญเรื่องกฎหมายที่ต้องเอากฎหมายทั้งประเทศมาดูว่าจะมีการปรับปรุงพัฒนาไปอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องเอากฎหมายต่างประเทศมาดูว่า เราจะต้องปรับตรงไหน ทำอย่างไรให้เป็นสากลมากที่สุดซึ่งจะต้องสอดคล้องกับอัตลักษณ์ความเป็นไทย ตนอยากให้คนไทยให้ความสำคัญต่อกฎหมายมากขึ้น อย่ามองว่ากฎหมายคือสิ่งที่บังคับเรา ควบคุมเรา รัฐบาลไม่ต้องการบังคับประชาชน เราต้องการมุ่งเน้นให้กฎหมายมีการอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชนให้ทั่วถึง ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่ไว้วางใจ กฎหมายไหนที่จะต้องให้เร็วในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ตนได้กำหนดว่า เรื่องใดก็ตามที่มีผลกระทบจะต้องมีมาตรการรองรับก่อนที่กฎหมายจะออกมาเพื่อไม่ให้เกิดอย่างที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ ไม่ใช่ข้อบกพร่องของใคร เพียงแต่เป็นการรวบรวมกฎหมายที่มีอยู่เดิมมาใส่ในกฎหมายใหม่ ทั้งที่กฎหมายก็มีอยู่แล้ว แต่ไม่ปฏิบัติก็ทำให้เกิดปัญหา อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างเดียว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มีหลายเรื่องที่ปฏิรูปไปแล้ว อยากให้ทุกคนย้อนกลับไปดูว่าวันนี้ ต่างจากวันที่ 22 พ.ค. 57 วันนั้นมีวาระการปฏิรูป 11 วาระ ซึ่ง สปท.ได้นำไปขับเคลื่อนออกเป็น 37 วาระในการปฏิรูป ซึ่งจะนำไปจัดอยู่ในกล่องเดิม 11 วาระให้ได้ เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยก็ไปดูกิจกรรมในวาระต่างๆ ก็จะออกมาเป็นแผนปฏิรูปที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 6 ยุทธศาสตร์ แล้วจึงไปขับเคลื่อนในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูป ซึ่งทั้ง 11 คณะต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกันโดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ขอความกรุณาสื่อและประชาชนช่วยกันติดตาม เพราะเป็นเรื่องของพวกเราทุกคน เป็นเรื่องที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นและมั่งคงไปอย่างก้าวหน้า ทุกคนจะได้ประโยชน์และผลตอบแทนที่สูงขึ้น ดีขึ้น แต่ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือวันนี้การปฏิรูปทุกอย่างไม่มีวันสำเร็จ
“หลายประเทศเขาใช้การปฏิรูป โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เขาไม่สนใจความขัดแย้ง เมื่อปฏิรูปไม่ได้ เขาก็ใช้กฎหมายเอา ซึ่งประเทศเราทำไม่ได้ เพราะเราไม่เคยชินกับการบังคับใช้กฎหมาย เราไม่ยอมรับในกฎหมายหลายอย่าง สิ่งสำคัญต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน เดินไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน วันนี้รัฐบาลมองเป้าหมายที่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกรายได้ ทำอย่างไรให้คนเหล่านั้นได้ประโยชน์จากการปฏิรูปประเทศ ผมก็คาดหวังกับรัฐบาลและ คสช. ท่านจะคาดหวังกับผมหรือไม่ ก็ไม่รู้ หรือท่านจะไปฟังคนอื่นก็ตามใจ ก็ไปดูวันหน้าแล้วกัน ถ้าไม่ร่วมมือวันนี้ก็ไปร่วมวันหน้ากับใครก็แล้วแต่ ไปดูสิว่าจะทำสำเร็จไหม ทั้งรัฐบาลนี้ รัฐบาลหน้าไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องร่วมมือกัน ถ้าขัดแย้งกันวันนี้ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องการเมือง และเรื่องอื่นๆ แล้วก็มาขัดแย้งกันเหมือนเดิม แล้วใครจะรับผิดชอบ ก็ต้องมาที่นายกรัฐมนตรีและ คสช.ที่ต้องรับผิดชอบ อย่างไรผมก็รับอยู่แล้ว แต่ผมจะไม่ให้ไปสู่ตรงนั้น” นายกฯ กล่าว