xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” งงรัฐไม่ประมูลสร้างหอชมกรุง จี้ลุยแก้ค้ามนุษย์ แต่สับเข้มประมงทำอุตสาหกรรมเสียหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าประชาธิปัตย์ หนุนมีหอชมเมืองกรุงเทพฯ แต่ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลรัฐไม่สามารถประมูลได้ ไม่ชัวร์ออก พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับงานต่างประเทศของรัฐบาลหรือไม่ จี้ทุ่มเทแก้ค้ามนุษย์ต่อ หลังได้แค่เทียร์ 2 สับเข้มประมงทำอุตสาหกรรมเสียหายเยอะ

วันนี้ (29 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร ว่าการมีหอชมเมืองเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมีหรือไม่มี แต่กระบวนการนั้นตกลงว่าจะเป็นอย่างไร เพราะมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีสาระสำคัญเป็นเรื่องของการไม่ประมูล จะบอกว่ามันไม่ใช่เงินของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งตนก็ยังไม่เห็นรายละเอียดโครงการก็ไม่กล้าจะไปกล่าวหาอะไรใครทั้งนั้น แต่เท่าที่ตนทราบคือ 1. ใช้ที่หลวง และ 2. มีลักษณะกึ่งสัมปทาน เพราะว่าโครงการนี้ต้องมีรายได้

“ต้องถามว่าเหตุผลที่ไม่ประมูลเนื่องจากกลัวว่าไม่มีใครสนใจ หรือกลัวความล่าช้า เหตุผลนี้จะเพียงพอหรือไม่ เพราะโครงการขนาดนี้ใช้ที่ของหลวง มีมูลค่า 7 พันกว่าล้านบาท ซึ่งบอกด้วยว่าเป็นโครงการที่เพื่อจะเผยแพร่ศาสตร์ของพระราชา โครงการอย่างนี้สิ่งสุดท้ายที่เราไม่ต้องการคือ สิ่งที่ไม่เป็นไปตามศาสตร์ของพระราชา โดยเฉพาะความไม่พอเพียง หรือถ้าหากว่ามีความไม่สุจริตเกิดขึ้น เพราะขณะนี้ที่ไม่ชัดเจนก็คือ คนไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลที่รัฐบอกว่าไม่สามารถประมูลได้ ดังนั้น จึงอยากให้มีความชัดเจนตรงนี้”นายอภิสิทธิ์กล่าว

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แรงงานต่างด้าวว่า เมื่อออกเป็นพระราชกำหนดหมายความว่าหากไม่ออกมาจะเกิดเรื่องสับสน ปั่นป่วน วุ่นวาย แต่ตนนึกไม่ออกว่า ถ้ากฎหมายต่างด้าวไม่ออกมาอะไรจะเกิดขึ้น จึงไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับการเดินงานต่างประเทศของรัฐบาลหรือไม่ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่ากำลังพยายามแก้ไขปัญหาเพราะไม่ได้มีเฉพาะสหรัฐอเมริกา แต่ว่ามีเรื่องของสหภาพยุโรป และอื่นๆ ต่างจับจ้องเรื่องนี้อยู่ โดยเฉพาะกรณีที่ประเทศไทยยังถูกคงระดับการค้ามนุษย์ที่เทียร์ 2 นั้น เรายังอยู่ในสถานะเดิม ดังนั้นเราจะต้องทุ่มเท ขวนขวายต่อไปว่า จะแก้ปัญหาอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับในมาตรฐานของคนที่ประเมิน แต่เรื่องค้ามนุษย์ เป็นเรื่องที่เราเองควรจะต้องใส่ใจ เอาจริงเอาจัง ขณะเดียวกันการเจรจาทำความเข้าใจ และมาตรการซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับต่างชาติ เราต้องมีวิธีที่แตกต่างจากเดิม โดยเฉพาะเรื่องประมงที่เห็นได้ชัดว่า ทางการได้พยายามเข้มงวดกวดขัน แต่ทำไปทำมา กลายเป็นอุตสาหกรรมประมงได้รับความเสียหายค่อนข้างเยอะมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น