xs
xsm
sm
md
lg

โค้งสุดท้ายเริ่มเขย่าแรง “ประยุทธ์” ห้ามพลาดเรื่องโกง-เอื้อพวกพ้อง !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา




หากนับจากวันนี้ต่อเนื่องไปตามโรดแมปที่ประกาศเอาไว้แบบคร่าวๆ ว่า จะมีการเลือกตั้งในราวปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 รวมเวลาที่เหลืออยู่ก็น่าจะประมาณปีเศษ พูดกันแบบบ้านๆ ก็จะเป็น “โค้งสุดท้าย” ความหมายก็คือเหลือเวลาอีกไม่นานนัก จะเรียกว่าจำขัดจำเขี่ยเข้ามาทุกทีแล้วก็ได้

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณากันในมุมทางการเมืองสำหรับรัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวโน้มที่จะต้องถูกถล่มกันแบบหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่สูญเสียสถานะเดิมหลังจากที่ คสช. เข้ามาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

อีกด้านหนึ่งการที่ได้บริหารแบบต่อเนื่อง มันก็ย่อมมีจุดอ่อน และเผยช่องว่างให้สอดแทรกเข้ามาได้ ขณะเดียวกัน ยิ่งเวลาผ่านไป บางครั้งธรรมชาติของคนในสังคมที่มี “อาการเบื่อ” มันก็ส่งผลกระทบในทางลบ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็น “บางเรื่อง” ที่ไม่ได้ดังใจไม่เป็นไปตามที่เคยคาดหวังเอาไว้ ก็ย่อมตามมาด้วยเสียงวิจารณ์อย่างที่เห็นในเวลานี้ ซึ่งหากมองในมุมแบบนี้ก็ถือว่าเป็นธรรมชาติในทางการเมืองที่เลี่ยงได้ยาก เนื่องจากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ผ่านช่วง “ฮันนีมูน” มาแล้ว และหลายคนกำลังระบุว่าเป็นช่วง “ขาลง” ก็มี

ในภาวะแบบนี้แหละน่าเป็นห่วงหากไม่มีการตั้งรับให้รัดกุมดีพอมันก็อาจพลาดพลั้ง “ร่วง” ไปก่อนครบกำหนดก็เป็นได้ แม้ว่าจะมีองค์ประกอบและกลไกอำนาจอยู่ในมือเต็มพิกัดก็ตาม แต่ก็ประมาทไม่ได้เป็นอันขาด เพราะเคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วจากกรณีของรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่ล้มคว่ำมาแล้ว แม้ว่าในรายละเอียดจะแตกต่างกัน แต่ความหมายก็คือ เกิดจาก “ความเสื่อมศรัทธา” ในแบบที่ว่าไม่ทำตามที่เคยพูดเคยรับปากเอาไว้ และที่สำคัญที่สุดที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงเวลาแบบนี้ ก็คือ อย่าให้เกิดเรื่องอื้อฉาวหนักๆ ขึ้นมาเป็นอันขาด ซึ่งเรื่องที่ว่าก็คือเรื่องทุจริต รวมทั้งการเล่นพรรคเล่นพวก แบบนี้ระวังอย่าให้เกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเป็นอันขาด

หากสังเกตจะพบว่า ในช่วงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล รวมไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำลังถูกวิจารณ์ จากหลายฝ่ายอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะฝ่ายการเมืองที่ถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามสำคัญ นักวิชาการ กลุ่มองค์กรภาคเอกชน (เอ็นจีโอ) รวมไปถึงประชาชนทั่วไปที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ที่น่าจับตาก็คือ แรงขย่มที่มาจากฝ่ายการเมือง หรือ “พรรคการเมือง” เป็นสำคัญ

แน่นอนว่า ตามตารางโรดแมปเวลาที่ต้องเดินไปตามขั้นตอน ในช่วงเวลาแบบนี้มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกวิจารณ์ นั่นคือ หากพิจารณาจากเวลาที่ผ่านมา 3 ปีเต็ม เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องถูกประเมินผลงาน อีกทั้งยังเป็นช่วงที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว นั่นก็หมายความว่า บรรยากาศในทางการเมืองมันก็เริ่มมา แม้ว่าจะพยายาม “บล็อก” เอาไว้แบบค่อยๆ ปล่อยมือแบบช้าๆ ก็ตามแต่ ถึงอย่างไรมันก็ต้องปล่อย หลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญสำคัญสามสี่ฉบับ มีผลบังคับใช้ตามตารางเวลา เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. หลังจากนี้ ก็ต้องปล่อยให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ถึงตอนนั้นมันก็ตามมาด้วยเสียงเจี้ยวจ๊าวของพวกนักการเมืองดังลั่นตามมาแน่นอน ไม่ว่าจะกีดกันแค่ไหนก็เบรกไม่อยู่

อย่างไรก็ดี สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าโชคดีพอสมควร เนื่องจากเป็นช่วงที่นักการเมืองอยู่ในภาวะ “เสื่อมศรัทธา” แบบถึงขีดสุด ไร้ราคาในสายตาประชาชนส่วนใหญ่ ทำให้บางครั้งเสียงวิจารณ์แทบจะไร้น้ำหนักกันเลยทีเดียว

ดังนั้น หากพิจารณากันด้วยเหตุผลและความน่าจะเป็นมากที่สุด สำหรับทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลของเขาจะ “พัง” ก็มาจากตัวเอง หรือไม่ก็ “สนิมเกิดจากเนื้อใน” เท่านั้น นั่นคือถ้าจะพังก็มาจากการทำตัวเองเท่านั้น และนั่นคือ หากเกิดเรื่อง “ทุจริต” และเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวกที่เป็นเรื่องหนักสักเรื่องสองเรื่อง รับรองว่า วิกฤตแน่ และเชื่อว่า ตัวเขาก็น่าจะรับรู้ได้ดีอยู่แล้วว่าชาวบ้านมีความไวต่อความรู้สึกแบบนี้ ซึ่งพลาดไม่ได้เป็นอันขาด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น