เลขาฯ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายปิโตรเลียมขัด รธน.มาตรา 77 ต่อ พร้อมตั้งคณะทำงาน สอบปมตำรวจ 99 นายอ้างชื่อร่วมจับกุม “เปรี้ยว หั่นศพ” แล้ว
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีน.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 77 หรือไม่ ว่าแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยยกคำร้องที่ คพป.ร้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลจะรับไว้พิจารณาไปแล้วก็ไม่มีผลผูกพันกับการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยประเด็นร่างกฎหมายที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณากฎหมายที่บังคับใช้แล้วแต่มีประเด็นที่อาจขัดรัฐธรรมนูญซึ่งหากผู้ตรวจฯ เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ โดยกรณีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดินว่ากรณีนี้สามารถจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้หรือไม่
นายรักษเกชากล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบกรณีที่เจ้าพนักงานตำรวจมีการจัดทำบันทึกการจับกุม น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว กับพวก ผู้ต้องหาในคดีเจตนาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและอำพรางศพว่ามีตำรวจร่วมดำเนินการถึง 99 รายชื่อ ว่าหากไม่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่จริง ถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อหวังผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการหรือไม่ว่า ผู้ตรวจฯ มีมติตั้งคณะทำงานพิจารณาในกรณีดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเห็นว่าเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบรวดเร็ว หลังจากนี้คณะทำงานจะประชุมเพื่อกำหนดประเด็นพิจารณา และดูว่าต้องให้บุคคลใดชี้แจงหรือไม่ โดยปกติจะให้ยื่นคำชี้แจงกลับมาภายใน 30 วัน แต่ถ้าคณะทำงานเห็นว่าไม่ได้เป็นเรื่องซับซ้อนสามารถดำเนินการได้เร็วก็อาจกำหนดเวลาเร็วกว่านั้น ทั้งนี้ ในการพิจารณาของผู้ตรวจจะดูในเรื่องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ว่ามีปัญหาเรื่องความถูกต้องตามที่มีการร้องมาหรือไม่ และในการทำงานของตำรวจจำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนั้นหรือไม่ ซึ่งจะมีผลในเรื่องของงบประมาณและการให้ปากคำในศาลเพราะอาจมีการให้การขัดกันได้