xs
xsm
sm
md
lg

สถาปนา 19 ปี กกต. ทุกองค์กรแห่ให้กำลังใจชี้ชะตาเซตซีโร่ ปธ.กสม.รับหัวอกเดียวกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กกต.จัดสถาปนาครบ 19 ปี ทุกองค์กรแห่ให้กำลังใจรับวันชี้ชะตาเซตซีโร่ “ศุภชัย” ไม่กังวล หากต้องพ้นพร้อมรักษาการให้ดีที่สุด ปธ.กสม.ร่ายยาวหัวอกเดียวกัน ยันทฤษฎีปลาสองน้ำไร้เหตุผล เทียบปลาแซลมอนโตน้ำเค็มตายน้ำจืด อร่อยมีประโยชน์ ไม่ต่างจากองค์กรอิสระ วอน กรธ.ทบทวนใช้คุณสมบัติตัดสินแทนโละทิ้งหมด ไม่งั้นคงไปเลี้ยงหลาน ปฏิบัติธรรม

วันนี้ (9 มิ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดงานสถาปนาเนื่องในโอกาสครบ 19 ปี โดยบรรยากาศช่วงเช้า นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. พร้อมด้วยกรรมการการเลือกตั้ง ผู้บริหาร และพนักงานของ เข้าร่วมพิธีสักการะองค์พระพรหม บริเวณศาลพระพรหม และเข้าร่วมพิธีสงฆ์ โดยมีแทนหน่วยงานองค์กรต่างๆ เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่องทั้งจากภาครัฐและเอกชน พรรคการเมือง เช่น นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิตย์ โดยทั้งหมดต่างให้กำลังใจแก่ กกต.เนื่องจากในวันนี้ที่ประชุม สนช.จะมีการพิจารณาลงมติร่าง พ.ร.ป.คณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งมีประเด็นเซตซีโร่ กกต.อยู่ด้วย

นายศุภชัยกล่าวว่า กกต.ได้วางแผนการและยุทธศาสตร์ต่างไว้หลายด้าน เพื่อให้การจัดเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม รวมถึงการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้งก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยได้ฝึกอบรมพนักงานสอบสวนและไต่สวนของ กกต.มาโดยตลอด ส่วนการบริหารจัดการเลือกตั้งได้เตรียมอำนวยความสะดวกกับประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การจัดทำแอปพลิเคชัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การจัดทำยุทธศาสตร์ของ กกต.คืบหน้าไปกว่าร้อยละ 85 แล้ว

ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.กกต.ของที่ประชุม สนช.ในวันนี้ ทางคณะกรรมการ กกต.ไม่รู้สึกกังวล เพราะถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่าผลการพิจารณาจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะปฏิบัติในระหว่างดำรงตำแหน่งอย่างดีที่สุด ให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่ง กกต.ยังไม่มีการหารือถึงแนวทางภายหลังจาก สนช.มีมติ แต่เมื่อร่างกฎหมายผ่านวาระ 3 แล้ว ก็จะดูเนื้อหาและเจตนารมณ์ ว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจะปรึกษาทีมกฏหมายว่าสมควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่

สำหรับการพิจารณาคำร้อง 9 รัฐมนตรีขาดคุณสมบัติ ยืนยันไม่ได้เป็นการเอาคืนจากที่เสนอให้มีการเซตซีโร่คณะกรรมการ กกต. แต่เป็นการทำหน้าที่เนื่องจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ ซึ่ง กกต.มีอำนาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่ามีมูลเพียงพอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ไม่ใช่เป็นการส่งท้ายแต่อย่างไรใด และแม้ กกต.ถูกเซตซีโร่มีสถานะเป็น กกต.รักษาการ ก็สามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ ทั้งนี้ หากกลั่นแกล้ง กกต.จะถูกมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ ตนไม่อยากอยู่เรือนจำในช่วงบั้นท้ายของชีวิต

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการเข้าแสดงความยินดีของนายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายวัสก็ได้ใช้เวลาพอสมควรในการกล่าวให้กำลังใจแก่ กกต.เนื่องจากหัวอกเดียวกัน เพราะร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กำลังร่างอยู่นั้นก็ให้มีการเซตซีโร่ กสม.เช่นเดียวกับ กกต. โดยนายศุภชัยได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจประธาน กสม.ด้วยเช่นเดียวกัน

นายวัสให้สัมภาษณ์ย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับการเซตซีโร่ทั้ง กกต.และกสมเนื่องจากมีเปลี่ยนเหตุผลในการเซตซีโร่ไปเรื่อยๆ ในส่วนของ กสม.ได้รับร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 โดยจะส่งความเห็นของ กสม.กลับไปให้ กรธ.ภายในสัปดาห์หน้า มีประมาณ 20 ประเด็นที่เห็นว่าจะมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงมาตรา 60 ที่ให้เซตซีโร่ กสม.ด้วย ล่าสุดมีการให้เหตุผลว่าหากไม่เซตซีโร่จะมีปัญหาเรื่องปลาสองน้ำในการทำงาน ทั้งๆ ที่เกือบทุกองค์กรก็มีลักษณะปลาสองน้ำ แม้แต่องค์กรอิสระที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ถูกเซตซีโร่ ดังนั้นเหตุผลนี้จึงไม่ถูกต้อง

“อีกทั้งปลาน้ำเดียวไม่ว่าจะน้ำจืดหรือน้ำเค็ม ที่บอกว่าอร่อย ปลาสองน้ำอร่อยกว่า เช่น ปลาแซลมอนเกิดในน้ำจืดจากภูเขา แต่โตในน้ำเค็ม จากนั้นว่ายทวนน้ำขึ้นไปวางไข่และตายในน้ำจืด เป็นปลาสองน้ำที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ แต่ที่อร่อยกว่าปลาสองน้ำคือปลาสามน้ำ คือ ปลาคังที่ อ.โขงเจียม เกิดจาก 3 น้ำมารวมกันคือโขงชีมูล เป็นปลาที่อร่อยที่สุด ดังนั้นจะปลาน้ำเดียว สองน้ำหรือสามน้ำ ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญที่ว่าปลาเหล่านั้นอร่อยและมีประโยชน์หรือไม่ เทียบกับองค์กรอิสระก็ทำนองเดียวกัน ถ้าเป็นปลาสองน้ำแล้วทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ ก็ควรให้ทำหน้าที่ต่อ ผมขอวิงวอนให้องค์กรที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้วยความเมตตามากๆ ก่อนที่จะคิดว่าจะรีเซ็ตหรือให้ทำหน้าที่ต่อ เพราะถ้าให้พ้นจากหน้าที่ไปโดยที่กรรมการในองค์กรอิสระขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามซึ่งจะเป็นเรื่องเฉพาะรายที่เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะคนที่เข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรอิสระยอมทิ้งงานอื่นมารับใช้ประเทศ ถ้าทำงานไม่ดี ก็มีทางถอดถอนได้อยู่แล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ กสม.ก็จะทำความเห็นไปให้ กรธ.ตามขั้นตอน แต่ถ้าไม่สามารถยับยั้งได้แล้วมีการประกาศใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวก็ต้องยอมรับ เนื่องจากเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะไม่ใช้สิทธิส่วนตัวไปร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกเพราะคงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเนื่องจากเป็นผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน แม้ตัวเองจะถูกละเมิดแต่ถ้าจะต้องไปร้องเพื่อประโยชน์ตัวเอง ก็จะกลายเป็นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแพ้แล้วไม่ยอมเลิก ดังนั้นถ้ากฎหมายมีผลบังคับใช้ตามร่างของ กรธ.นี้จริงก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ ตนก็คงกลับไปเลี้ยงหลาน หรือไม่ก็ท่องเที่ยว ปฏิบัติธรรม แต่ยืนยันในทางวิชาการว่าเซตซีโร่ทั้งนี้ไมมีเหตุผลเพียงพอ









กำลังโหลดความคิดเห็น