xs
xsm
sm
md
lg

สรุปเพิ่มทุนประเดิมพรรค 1.5 ล้าน จ่ายค่าสมาชิกปีแรก 50 บาท ถ้า กรธ.ไม่เอาให้ตั้ง กมธ.ร่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
โฆษก กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายลูกพรรคการเมือง เผยที่ประชุมสรุปเพิ่มทุนประเดิมพรรค 1.5 ล้าน จ่ายวันส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ ถ้าไม่ส่งก็ไม่ต้องจ่าย แต่ไม่ได้เงินสนับสนุน ส่วนเลขาฯ พรรค ยังให้เป็นกรรมการบริหารเช่นเดิม ชี้ถ้าฝั่ง กรธ.ไม่เห็นด้วยก็ต้องตั้ง กมธ.ร่วม ด้านรองเลขาฯ กกต.เผยเขียนบทเฉพาะกาลให้ปีแรกจ่ายค่าสมาชิกไม่น้อยกว่า 50 บาท ให้สาขาพรรคชงผู้สมัคร ส.ส.เขต โหวต 15 ชื่อคนลงปาร์ตี้ลิสต์

วันนี้ (1 มิ.ย.) นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวว่า กมธ.ได้ลงมติโหวตในมาตราสำคัญๆ 3-4 มาตรา คือ กรณีทุนประเดิมจัดตั้งพรรคการเมือง ที่ตามคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนดไว้ที่ 1 ล้านบาท แต่ กมธ.พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรแก้ไขเป็นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้กำหนด โดยยึดจากตัวเลขค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง ส.ส.ของแต่ละคนในครั้งที่ผ่านมาคือ 1.5 ล้านบาท ดังนั้นทุนประเดิมในการจัดตั้งพรรคการเมืองจึงขยับจาก 1 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การจ่ายทุนประเดิมพรรคไม่จำเป็นต้องนำมาจ่ายในวันจัดตั้งพรรคการเมือง สามารถนำมาจ่ายในวันที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ หากไม่ส่งผู้สมัครก็ไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าพรรคใดไม่จ่ายทุนประเดิมจะไม่มีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองของ กกต.

“เหตุผลที่เพิ่มทุนประเดิมจัดตั้งพรรค เนื่องจาก กมธ.เห็นแตกต่างกันในเรื่องทุนประเดิม จึงให้ กกต.เป็นผู้กำหนด โดยยึดจากการใช้จ่ายการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา โดย กมธ.ส่วนใหญ่เห็นด้วย ยกเว้น กมธ.ที่เป็นตัวแทนจาก กรธ. และตนที่อยากให้คงทุนประเดิมไว้ที่ 1 ล้านบาทเช่นเดิม นอกจากนี้ ในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่ กรธ.ตัดตำแหน่งเลขาธิการพรรคไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคนั้น ทาง กมธ.เห็นว่า ควรให้เลขาธิการพรรคเป็นกรรมการบริหารพรรคเช่นเดิม” นายวัลลภกล่าว

นายวัลลภกล่าวต่อว่า หากที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นด้วยกับเนื้อหาตามที่ กมธ.เสนอมา และถ้า กรธ.ไม่เห็นด้วยกับร่างที่ สนช.ลงมติไป ก็ต้องตั้ง กมธ.ร่วม 11 คน ประกอบด้วย กรธ.5 คน สนช.5 คน ประธานศาลรัฐธรรมนูญ หรือประธานองค์กรอิสระ 1 คน มาพิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายร่วมกัน แล้วส่งไปให้ สนช.พิจารณา หาก สนช.ยืนยันด้วยมติ 2 ใน 3 ไม่เห็นด้วยกับร่างที่แก้ไขใหม่ถือว่าร่างกฎหมายดังกล่าวตกไป

ด้านนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ประเด็นค่าสมาชิกพรรคนั้น กมธ.ให้คงตามร่างที่ กรธ.เสนอมาคือ ให้สมาชิกพรรคเสียค่าบำรุงพรรคปีละไม่เกิน 100 บาท อย่างไรก็ตาม มีบทเฉพาะกาลยกเว้นปีแรกให้จัดเก็บไม่น้อยกว่า 50 บาท และปีต่อไปจึงขยับเพิ่มเป็นไม่เกิน 100 บาท ขณะเดียวกัน กมธ.ยังมีมติให้แก้ไขเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือก ส.ส.ทั้งระบบ ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ จากเดิมที่กำหนดให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้คัดเลือกผู้สมัคร แก้ไขเป็นดังนี้ ในกรณีผู้สมัคร ส.ส.เขต จะให้พรรคประกาศรับสมัครผู้สมัคร ส.ส. จากนั้นจะส่งรายชื่อผู้สมัครไปให้สาขาพรรคหรือตัวแทนจังหวัดเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ใครเป็นผู้สมัครโดยเลือกมาเขตละ 2 คน เพื่อส่งรายชื่อกลับมาให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา ถ้าหากไม่เลือกผู้ที่ได้รับคะแนนลำดับ 1 ต้องให้เหตุผลว่าเพราะอะไร และหากไม่เลือกทั้งสองคน ให้ส่งเรื่องกลับไปที่สาขาพรรคเพื่อคัดเลือกผู้สมัครใหม่

นายแสวงกล่าวต่อว่า ส่วนการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละพรรคจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร 150 คน โดยให้หัวหน้าพรรคอยู่ในลำดับ 1 ส่วนลำดับที่ 2-150 ให้พรรคทำบัญชีรายชื่อและส่งไปให้สาขาพรรคหรือตัวแทนจังหวัดคัดเลือก โดยตัวแทนสาขาพรรค 1 คน สามารถเลือกได้ 15 รายชื่อ เมื่อลงคะแนนเสร็จแล้วจึงส่งกลับมาให้กรรมการบริหารพรรคจัดลำดับตามคะแนนโหวตตามที่สาขาพรรคลงคะแนนมา ซึ่งวิธีการนี้ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น