“นคร” ค้าน สนช.ให้ กกต.ขัดคุณสมบัติ รธน.อยู่ต่อ ชี้จะถูกเปรียบถอดถอนนักการเมือง

“พล.อ.นคร” มอง สนช.แปรญัตติให้ กกต.ขัดคุณสมบัติตาม รธน.อยู่ต่อ ไม่ถูกต้องขัดเจตนารมณ์กรธ. ชี้ต้องยึดประโยชน์ประเทศไม่ใช่เพื่อบุคคล หากสภาเห็นชอบต้องตั้ง กมธ.ร่วม ถ้าผ่านจะเป็นบรรทัดฐานต่อองค์กรอิสระ แต่จะเกิดคำถามกลับไม่ปกป้องนักการเมืองที่ถูกถอดถอน

วันนี้ (1 มิ.ย.) พล.อ.นคร สุขประเสริฐ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงคำแปรญัตติร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของ 12 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เสนอให้ กกต.ที่ขัดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ดำรงตำแหน่งต่อไป ว่าเหตุผลเพราะไม่อยากให้กระทบสิทธิมีผลย้อนหลังต่อ กกต.บางรายนั้นไม่ถูกต้อง เพราะการพิจารณาต้องขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของประเทศโดยรวม ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงต้องรอดูการประชุม สนช.ที่จะพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3 ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ หากเห็นชอบตามที่ 12 สมาชิก สนช.แปรญัตติก็จะส่งผลให้ขัดต่อเจตนารมณ์ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ต้องมีการตั้ง กมธ.ร่วม 11 คน ที่มีตัวแทนจาก สนช.5 คน กรธ.5 คน และตัวแทนจาก กกต.1 คน เพื่อพิจารณาอีก 25 วัน อย่างแน่นอน จากนั้นก็ต้องนำร่างกฎหมายลูก กกต.ที่ กมธ.ร่วม แก้ไขเข้าสู่การประชุมสนช.อีกครั้งหนึ่ง หาก สนช.มีมติเกิน 2 ใน 3 ให้ร่างกฎหมายลูกกกต.ตกไป กรธ.ก็ต้องร่างใหม่ คำถามคือ กรธ.ก็จะต้องร่างไปตามเจตนารมณ์เหมือนร่างเดิมที่เคยส่งไป แล้ว สนช.จะพิจารณาอย่างไร

“แต่หากกฎหมายลูกว่าด้วย กกต.ผ่านการพิจารณาในชั้น กมธ.ร่วม ก็จะส่งผลให้เป็นบรรทัดฐานต่อองค์กรอิสระอื่นที่มีคณะกรรมการบางรายบางองค์กรต้องพ้นจากตำแหน่งตามคุณสมบัติใหม่ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งตามไปด้วย ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อแนวทางการปฏิรูปที่รัฐบาลต้องการผลักดัน โดยเฉพาะทางการเมือง ที่องค์กรอิสระมักถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของคู่ขัดแย้ง แต่กลับได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป เพราะ สนช.เห็นว่าเป็นการปกป้องสิทธิองค์กรอิสระที่มาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมนักการเมืองที่ถูก สนช.ถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 จึงไม่ได้รับการปกป้องสิทธิเช่นเดียวกับองค์กรอิสระ แต่กลับยังต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ด้วย” พล.อ.นครกล่าว