สะเก็ดไฟ
ทุกระบอบการปกครอง ย่อมมี “สิทธิธรรม” คำอธิบายสำหรับ “อำนาจรัฐ” ที่ถือครอง
“ประชาธิปไตย” ก็พิงประชาชนส่วนใหญ่ กติกาแบ่งแยกดุลอำนาจ 3 ฝ่าย เวลาชัดเจน 4 ปี มาแล้วไป แน่มาก ชนะเลือกตั้งก็มาอีก
ตรงกันข้าม “เผด็จการ” ยึดหลักข้ามาคนเดียว สร้างปัญหา ปูทางความวุ่นวาย ก่อนควบรถถังแอนแอ่นแอ๊น ฉีก “รัฐธรรมนูญ” กระจัดกระจาย ขอเวลาไม่นานนะ! สารขันธ์-ไทยแลนด์ ไม่แตกต่าง ลักปิดลักเปิด ผลุบโผล่ ปกครองกันทุกรูปแบบ เดี๋ยว “พลเรือน” เดี๋ยว “พลเอก”
2560 ศักราชใหม่ เผลอแผล็บเดียว คสช.ลากยาวมาแล้ว 2 ปี 8 เดือน ก่อนจะได้กติกาใหม่ รัฐธรรมนูญปราบคนโกง
โชว์แรก “รัฐธรรมนูญฉบับอาจารย์ปื๊ด” เนติบริกร บวรศักดิ์ อุวรรณโณ พาโกอินเตอร์ ทั้งเลือกตั้งสูตรเยอรมัน คุยโวเผด็จการรัฐสภามีหนาว พ่วงด้วย “โปลิตบูโร” สไตล์คอมฯ ตีเนียนเรียก “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ” หวังส่ง “แป๊ะ” ให้ถึงฝั่ง
สุดท้ายปิดไม่มิด ก่นด่ากันระงมรอบทิศ “แป๊ะ” ไหวทัน “จัดฉากคว่ำ” สมจริงขนาดอาจารย์ปื๊ดยังครางตอนหลัง “เขาอยากอยู่ยาว”
โชว์สอง ได้สุดยอดปรมาจารย์ “มีชัย ฤชุพันธุ์” แสดงนำ โชว์เก๋า ใช้แขนขามหาดไทยกระจายสะกดพยศจน “กฎหมายสูงสุด” ผ่านประชามติเมื่อ 7 ส.ค. 59 ขึ้นแท่นรอประกาศใช้เป็นฉบับที่ 20 อีกไม่นานเกินรอ ทว่า ปัญญาชนยันสาธุชนคนธรรมดาที่ยังมีสำนึกอยู่บ้าง ต่างตีตรารัฐธรรมนูญฉบับปี 59 พาไทยถอยหลังยกใหญ่ ไกลถึง พ.ศ. 2521 วางแท็กติกติดกับดักทั้ง “เปิดเผย” และ “อำพราง”
เริ่มจากระบบเลือกตั้ง 500 ส.ส. “จัดสรรปันส่วนผสม” ให้ “กาบัตรใบเดียว” เลือก “คนที่รัก” ส.ส.แบบเขต 350 คน อย่าเพิ่งงง แล้ว “พรรคที่ชอบ” อยู่ไหน เขาให้ใช้ “คะแนนคนแพ้” เข้าสูตรคำนวนหา “บัญชีรายชื่อ” อีก 150 คน เรียกว่าสุดแหวก “ฉีกทุกตำรา” เสียงแพ้ก็เอามานับ
สภาสูง 250 ที่นั่ง ใช้ระบบ “ลากตั้ง” ตามบทเฉพาะกาลขอ 5 ปี แถมล็อก 6 เก้าอี้ ให้น้องๆ 4 ผบ.เหล่าทัพ ผบ.สส. และ ผบ.ตร.
มาถึง “ไคลแม็กซ์” เลือกนายกฯ ให้ 750 สมาชิกรัฐสภาร่วมโหวต ขยักแรกให้ ส.ส.ชงชื่อนายกฯ ตามบัญชีที่วางไว้ 3 คนก่อน ถ้าติดขัดก็มาขยักสอง ส.ส.จะชงชื่อ “นายกฯ คนนอก” ที่ไหนก็ได้ ให้ ส.ส.-ส.ว.อย่างน้อย 501 คน “ชูมือสลอน” เห็นชอบ
ถัดมา “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” ยังคงความว่างเปล่า เพราะต้องรอออกกฎหมายลูก ภายใน 1 ปี แต่พอเห็นเค้าลางกันเลาๆ โครงสร้าง ก็เป็นอดีต “ผู้หลักผู้ใหญ่” ในแวดวงการเมือง ทั้งอดีตนายกฯ ประธาน ส.ส. ประธาน ส.ว. ประกอบกับข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ ระดับสูงโดยตำแหน่ง ทำหน้าที่ “กำกับดูแล” รัฐบาลเลือกตั้งให้เดินตาม “วิชันปฏิรูป 11 ด้าน” ของ คสช. แว่วว่าโทษแรง รัฐบาลไหนผลงานเกินธรรมดา ไม่ซื่อ ออกนอกลู่ทางนี้ เจอฟ้อง ส.ว.ลากตั้ง ชงต่อองค์กรอิสระฟันกระเด็น
ว่ากันว่า กติกาอย่างนี้พรรคไหนชนะก็ “บริหารไม่ได้” ไม่ต่างจาก “เป็ดง่อย” หนทางเต็มไปด้วยทางตัน อีกแง่จะบอกว่า “รัฐบาลถูกจัดตั้ง” แล้ว ก็คงไม่เกินเลย เหลือเพียงใครเท่านั้นจะมาเป็นนายกฯ ส่วน “ลุงตู่” ก็เดี๋ยวปัดเดี๋ยวกั๊ก แล้วถ้าจะบอกว่า คสช.ไม่สืบทอดอำนาจก็คงง่ายเกินไป
เพราะมีทั้ง “250 ส.ว. แต้มต่อ” ยัน “มีดจ่อคอหอย” รัฐบาลอย่างยุทธศาสตร์ 20 ปี ไม่นับรวม “มาตรการฟัน ครม.” ทั้งคณะ หาก ส.ส.แปรญญัติงบฯ รายปีลงพื้นที่ตัวเอง ตลอดจน “ติดดาบ” องค์กรอิสระ “เฮี้ยบ” ปราบโกง โทษถึงประหาร และให้ออกกฎจริยธรรม ใช้ “จัดแถว” ส.ส.นอกลู่ ขู่ถอดถอนอีก
“โค้งสุดท้ายโรดแมป” ยังต้องลุ้นกันเฮือกใหญ่ เลือกตั้งไม่รู้ปลายปี 60 หรือจะ “ปลิ้น” ไปต้นปี 61 ก็รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม เล่นบอกใบ้ให้หวาดเสียว มีปัจจัย “โรดแมปเคลื่อน”
ตีความกันยกใหญ่ เดาใจ “มีชัย” โชว์เก๋า “วางแท็กติก” ลาก 8 เดือนเต็มแมกฯ ทำกฎหมายลูกเลือกตั้ง บวกอีกแม็ก 3 เดือน สนช.พิจารณา รวม 11 เดือน อย่างต่ำหลังมีรัฐธรรมนูญถาวร
แอบดักทาง ระวัง “ปาหี่” แกล้งขยิบตาล้มกฎหมายลูก แล้วโยนให้ ครม.ร่างแทนหวังดึงเวลา เอ๊ะ! หรือจะเป็นแบบข่าวลือ
ทุกระบอบการปกครอง ย่อมมี “สิทธิธรรม” คำอธิบายสำหรับ “อำนาจรัฐ” ที่ถือครอง
“ประชาธิปไตย” ก็พิงประชาชนส่วนใหญ่ กติกาแบ่งแยกดุลอำนาจ 3 ฝ่าย เวลาชัดเจน 4 ปี มาแล้วไป แน่มาก ชนะเลือกตั้งก็มาอีก
ตรงกันข้าม “เผด็จการ” ยึดหลักข้ามาคนเดียว สร้างปัญหา ปูทางความวุ่นวาย ก่อนควบรถถังแอนแอ่นแอ๊น ฉีก “รัฐธรรมนูญ” กระจัดกระจาย ขอเวลาไม่นานนะ! สารขันธ์-ไทยแลนด์ ไม่แตกต่าง ลักปิดลักเปิด ผลุบโผล่ ปกครองกันทุกรูปแบบ เดี๋ยว “พลเรือน” เดี๋ยว “พลเอก”
2560 ศักราชใหม่ เผลอแผล็บเดียว คสช.ลากยาวมาแล้ว 2 ปี 8 เดือน ก่อนจะได้กติกาใหม่ รัฐธรรมนูญปราบคนโกง
โชว์แรก “รัฐธรรมนูญฉบับอาจารย์ปื๊ด” เนติบริกร บวรศักดิ์ อุวรรณโณ พาโกอินเตอร์ ทั้งเลือกตั้งสูตรเยอรมัน คุยโวเผด็จการรัฐสภามีหนาว พ่วงด้วย “โปลิตบูโร” สไตล์คอมฯ ตีเนียนเรียก “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ” หวังส่ง “แป๊ะ” ให้ถึงฝั่ง
สุดท้ายปิดไม่มิด ก่นด่ากันระงมรอบทิศ “แป๊ะ” ไหวทัน “จัดฉากคว่ำ” สมจริงขนาดอาจารย์ปื๊ดยังครางตอนหลัง “เขาอยากอยู่ยาว”
โชว์สอง ได้สุดยอดปรมาจารย์ “มีชัย ฤชุพันธุ์” แสดงนำ โชว์เก๋า ใช้แขนขามหาดไทยกระจายสะกดพยศจน “กฎหมายสูงสุด” ผ่านประชามติเมื่อ 7 ส.ค. 59 ขึ้นแท่นรอประกาศใช้เป็นฉบับที่ 20 อีกไม่นานเกินรอ ทว่า ปัญญาชนยันสาธุชนคนธรรมดาที่ยังมีสำนึกอยู่บ้าง ต่างตีตรารัฐธรรมนูญฉบับปี 59 พาไทยถอยหลังยกใหญ่ ไกลถึง พ.ศ. 2521 วางแท็กติกติดกับดักทั้ง “เปิดเผย” และ “อำพราง”
เริ่มจากระบบเลือกตั้ง 500 ส.ส. “จัดสรรปันส่วนผสม” ให้ “กาบัตรใบเดียว” เลือก “คนที่รัก” ส.ส.แบบเขต 350 คน อย่าเพิ่งงง แล้ว “พรรคที่ชอบ” อยู่ไหน เขาให้ใช้ “คะแนนคนแพ้” เข้าสูตรคำนวนหา “บัญชีรายชื่อ” อีก 150 คน เรียกว่าสุดแหวก “ฉีกทุกตำรา” เสียงแพ้ก็เอามานับ
สภาสูง 250 ที่นั่ง ใช้ระบบ “ลากตั้ง” ตามบทเฉพาะกาลขอ 5 ปี แถมล็อก 6 เก้าอี้ ให้น้องๆ 4 ผบ.เหล่าทัพ ผบ.สส. และ ผบ.ตร.
มาถึง “ไคลแม็กซ์” เลือกนายกฯ ให้ 750 สมาชิกรัฐสภาร่วมโหวต ขยักแรกให้ ส.ส.ชงชื่อนายกฯ ตามบัญชีที่วางไว้ 3 คนก่อน ถ้าติดขัดก็มาขยักสอง ส.ส.จะชงชื่อ “นายกฯ คนนอก” ที่ไหนก็ได้ ให้ ส.ส.-ส.ว.อย่างน้อย 501 คน “ชูมือสลอน” เห็นชอบ
ถัดมา “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” ยังคงความว่างเปล่า เพราะต้องรอออกกฎหมายลูก ภายใน 1 ปี แต่พอเห็นเค้าลางกันเลาๆ โครงสร้าง ก็เป็นอดีต “ผู้หลักผู้ใหญ่” ในแวดวงการเมือง ทั้งอดีตนายกฯ ประธาน ส.ส. ประธาน ส.ว. ประกอบกับข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ ระดับสูงโดยตำแหน่ง ทำหน้าที่ “กำกับดูแล” รัฐบาลเลือกตั้งให้เดินตาม “วิชันปฏิรูป 11 ด้าน” ของ คสช. แว่วว่าโทษแรง รัฐบาลไหนผลงานเกินธรรมดา ไม่ซื่อ ออกนอกลู่ทางนี้ เจอฟ้อง ส.ว.ลากตั้ง ชงต่อองค์กรอิสระฟันกระเด็น
ว่ากันว่า กติกาอย่างนี้พรรคไหนชนะก็ “บริหารไม่ได้” ไม่ต่างจาก “เป็ดง่อย” หนทางเต็มไปด้วยทางตัน อีกแง่จะบอกว่า “รัฐบาลถูกจัดตั้ง” แล้ว ก็คงไม่เกินเลย เหลือเพียงใครเท่านั้นจะมาเป็นนายกฯ ส่วน “ลุงตู่” ก็เดี๋ยวปัดเดี๋ยวกั๊ก แล้วถ้าจะบอกว่า คสช.ไม่สืบทอดอำนาจก็คงง่ายเกินไป
เพราะมีทั้ง “250 ส.ว. แต้มต่อ” ยัน “มีดจ่อคอหอย” รัฐบาลอย่างยุทธศาสตร์ 20 ปี ไม่นับรวม “มาตรการฟัน ครม.” ทั้งคณะ หาก ส.ส.แปรญญัติงบฯ รายปีลงพื้นที่ตัวเอง ตลอดจน “ติดดาบ” องค์กรอิสระ “เฮี้ยบ” ปราบโกง โทษถึงประหาร และให้ออกกฎจริยธรรม ใช้ “จัดแถว” ส.ส.นอกลู่ ขู่ถอดถอนอีก
“โค้งสุดท้ายโรดแมป” ยังต้องลุ้นกันเฮือกใหญ่ เลือกตั้งไม่รู้ปลายปี 60 หรือจะ “ปลิ้น” ไปต้นปี 61 ก็รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม เล่นบอกใบ้ให้หวาดเสียว มีปัจจัย “โรดแมปเคลื่อน”
ตีความกันยกใหญ่ เดาใจ “มีชัย” โชว์เก๋า “วางแท็กติก” ลาก 8 เดือนเต็มแมกฯ ทำกฎหมายลูกเลือกตั้ง บวกอีกแม็ก 3 เดือน สนช.พิจารณา รวม 11 เดือน อย่างต่ำหลังมีรัฐธรรมนูญถาวร
แอบดักทาง ระวัง “ปาหี่” แกล้งขยิบตาล้มกฎหมายลูก แล้วโยนให้ ครม.ร่างแทนหวังดึงเวลา เอ๊ะ! หรือจะเป็นแบบข่าวลือ