“อุเทน” ฉะ กรธ.วางยาประเทศ จี้ “บิ๊กตู่” ใช้อำนาจทบทวนการ่าง กม.ประกอบ รธน.

หัวหน้าพรรคคนไทย ฉะ กรธ. ไม่อยากลงจากอำนาจ วางกับดักประเทศในร่าง รธน. และกฎหมายประกอบ รธน. เรียกร้อง “ประยุทธ์” ใช้อำนาจทบทวนการสร้างกติกาไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงการจัดทำกฎหมายประกอบร่างรัฐธรรมนูญของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เท่าที่ติดตามการทำงานของ กรธ. ที่ส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ต่อให้ สนช. พิจารณา พบว่า กระบวนการในขณะนี้เหมือนมีการสร้างปมปัญหาไว้ในร่าง พ.ร.ป. คล้ายกับพยายามทำให้ล่าช้ามากที่สุด จนอาจพูดได้ว่าคนเหล่านี้ไม่อยากหลุดจากอำนาจ หรือตำแหน่งที่มีในตอนนี้ ซึ่งก็ต้องย้อนไปถึงก็การวางกับดักประเทศไว้ในร่างรัฐธรรมนูญโดยความตั้งใจของ กรธ. เอง

นายอุเทน กล่าวว่า บทบัญญัติหลายประการทั้งในร่าง รธน. และ ร่าง พ.ร.ป. นั้น ขัดกับหลักการขอบเขตแห่งการใช้อำนาจของประชาชน ตามแนวคิดของ นายจอห์น ล็อก (John Locke) นักปรัชญาชาวอังกฤษ ที่ได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส ยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิชารัฐศาสตร์สาระ ระบุว่า 1. การบัญญัติกฎหมาย ต้องให้มีมาตรฐานเดียว โดยประชาชนทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และ 2. กฎหมายที่ออกมาต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

นอกจากนี้ ยังมีบางประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญที่ขัดกับบทบัญญัติมาตราอื่นในร่างรัฐธรรมนูญเองด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการให้อำนาจกับหน่วยงานที่ขึ้นชื่อว่าองค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ที่อยู่เหนือฝ่ายนิติบัญญัติ หรือสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกของประชาชน ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน และที่มาก็ไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่กลับมีอำนาจเหนือกว่าและสามารถชี้เป็นชี้ตาย ส.ส.- ส.ว. ได้ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็สามารถยับยั้งคนที่ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกมาได้ โดยการใช้เพียงแค่ดุลพินิจเท่านั้น ตรงนี้ทำลายระบบการถ่วงดุลระหว่าง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ โดยการนำองค์กรอิสระมาเป็นอำนาจที่ 4 อย่างชัดเจน ตามที่ กรธ. ให้ความสำคัญ และเขียนแยกศาลรัฐธรรมนูญเป็นหมวดหนึ่งของร่างรัฐธรรมนูญ

“ทั้งที่ คสช. เองมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการชำระสะสางปัญหาของประเทศ แต่กลับวางเฉย ต่อการสร้างกติกาประเทศให้มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา และเมื่อดูเนื้อหาของร่างกฎหมายที่ออกโดย กรธ. นั้น ยิ่งเป็นการวางกับดักประเทศอันจะก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นอีก ดังนั้น อยากขอกราบวิงวอนท่านนายกฯ ประยุทธ์ โปรดใช้ความกล้าหาญในเวลาที่เหลืออยู่ เข้ามาทบทวนดูแลการร่างกฎหมายสำคัญของหน่วยงานภายใต้การนำของท่านให้เข้ารูปเข้ารอย เป็นไปตามหลักสากล ให้สมกับที่ทุกฝ่ายไว้วางใจในตัวนายกฯประยุทธ์ ซึ่งหากกล้าทำเช่นนี้แล้ว ประเทศไทยจะพัฒนาเจริญรุ่งเรือง สงบสุขอย่างแน่นอน”